ปาฏิหาริย์แห่งความทุกข์


ปาฏิหาริย์แห่งความทุกข์

เจอบทความดี ๆ ก็เลยเก็บมาฝากค่ะ

         ความจริงแล้ว ความทุกข์เป็นของขวัญที่ธรรมชาติมอบให้กับทุกชีวิต ในวันที่เราหลงเพลิดเพลินไปกับภาพมายาของความสุขในชีวิต ความทุกข์ก็จะมาเยี่ยมเยียน เตือนให้เรารู้ว่าทุกอย่างเป็นภาพมายา เป็นภาพหลอกหลอกเหมือนหมอกควัน ที่วินาทีหนึ่งก็อยู่ใกล้มือ แต่อีกวินาทีหนึ่งก็ไม่เหลืออะไรเลย ความทุกข์เป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของมนุษย์ คอยเตือนให้เราไม่ประมาทกับชีวิต คอยให้บทเรียนว่าเราสามารถหาวัตถุ สิ่งของ คน ความรัก ความสุขมาเติมใส่ชีวิตได้เพียงชั่วคราว ทุกอย่างแปรปรวนไม่เป็นอย่างที่เราคาดหวัง เปลี่ยนแปลงพลิกผันได้ภายในพริบตาทุกครั้งที่เราเจอความทุกข์ เราเหมือนยืนอยู่บนทางสองแพร่ง ทางหนึ่งจะพาชีวิตเราวิ่งไปสู่สิ่งที่ดีที่สุดที่เราคาดไม่ถึง ในขณะที่อีกทางหนึ่งก็พาเราวิ่งไปสู่ความหายนะของชีวิต แล้วเราจะเลือกทางเดินที่ถูกต้องได้อย่างไร คำตอบที่ถูกต้องสำเร็จรูปไม่มีในชีวิต ไม่มีเฉลยคำตอบให้แอบดูเพื่อเดินให้ถูกทาง ชีวิตเป็นสิ่งที่ Dynamic ทำเหตุแบบนี้ผลจะเป็นแบบหนึ่ง ทำเหตุอีกแบบผลก็เป็นอีกแบบ ปัจจัยแวดล้อม เหตุ การกระทำต่างๆ มีผลมากมาย มนุษย์ทุกคนมีสติปัญญาเป็นอาวุธ แต่สติปัญญาไม่ใช่คำหลอกๆ ที่พูดกันเกลื่อนไป สติเป็นความระลึกได้ ระลึกได้ว่าขณะนี้กำลังปล่อยใจให้หลงไปกับความคิด ความรู้สึก ทันทีที่สติเฉลียวย้อนกลับมาเห็นใจที่กำลังหลง ใจจะหลุดออกมาจากโลกของความคิด เป็นใจที่ตื่น รู้เนื้อ รู้ตัว สะอาด สงบ สว่าง ตั้งมั่น มั่นคง เห็นสิ่งต่างๆ ตามความเป็นจริง ไม่ถูกครอบงำด้วยอารมณ์ความรู้สึก ถอดถอนตัวเองออกจากปัญหา มองสถานการณ์ที่เกิดขึ้นเหมือนคนวงนอกมองเข้ามา เลือกการกระทำแต่ละขณะได้ถูกต้องและเหมาะสม พอดี การฝึกให้มีสติจริงๆ เรียบง่ายธรรมดาอยู่ในชีวิตประจำวันของเรานี่เอง เพียงแค่คอยหมั่นตามรู้ใจที่ไหลไปรู้สึกนึกคิด เดี๋ยวก็ไหลไปดู ไปฟัง ไปคิด สลับไปมาอยู่ทุกวินาที พอเห็นมากเข้ามากเข้า เวลาใจไหลไป สติจะเกิดระลึกขึ้นได้เอง ว่าขณะนั้นหลงไปแล้ว ใจก็จะรู้สึกตัว"ตื่น" เห็นความคิด ความทุกข์ ความรู้สึก ทุกอย่างเป็นของชั่วคราว ไม่มีน้ำหนัก ไม่มีสาระอะไร ที่มีความทุกข์ได้ก็เพราะใจหลงไปแบกไว้เท่านั้นเอง อะไรที่เกิดขึ้นแล้ว จบลงไปแล้ว ใจของเรานี่แหละ หยิบฉวยความคิดเป็นมีดมาทิ่มแทงตัวเองซ้ำแล้วซ้ำอีก ไม่รู้จักจบไม่รู้จักวางในชีวิตคน ไม่มีใครไม่เคยพลาด ถึงแม้จะพยายามแค่ไหน กิเลสก็เหนือกว่าเราก้าวหนึ่งเสมอ ไม่อย่างนั้นก็คงไม่สามารถผูกเราไว้ให้เวียนเกิดเวียนตายในสังสารวัฏได้ยาวนานใช้ความทุกข์เป็นของขวัญ เป็นจุดเริ่มต้นของปาฏิหาริย์ที่แท้จริงในชีวิต มีความรู้สึกตัวเป็นเพื่อนเดินทาง นำชีวิตสู่ความสุขที่เป็นอิสระ มั่นคงอย่างแท้จริง
หมายเลขบันทึก: 453133เขียนเมื่อ 9 สิงหาคม 2011 15:26 น. ()แก้ไขเมื่อ 19 มิถุนายน 2012 19:30 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (8)
  • ไม่มีแม่วันนี้ไม่มีลูก
  • แม่ผู้ปลูกไม้ต้นจนเติบใหญ่
  • โดยไม่หวังแสวงหาค้ากำไร
  • น้อมดวงใจให้แก่แม่ของเรา

 

สวัสดีค่ะ อาจารย์โสภณ  เปียสนิท  Ico48   เมื่อลูกได้รับการอบรมบ่มนิสัย ดูแล เลี้ยงดู เป็นอย่างดี จากแม่อย่างนี้แล้ว ลูกเองก็ต้องตอบแทนพระคุณแม่ด้วยการทำหน้าที่ของลูกค่ะ

 * ท่านเลี้ยงมาแล้ว ต้องเลี้ยงท่านตอบ

 * ต้องช่วยทำกิจการงานของท่าน

* ธำรงรักษาชื่อเสียงของตระกูลวงศ์

* ประพฤติตนให้สมควรแก่การรับมรดก

* เมื่อท่านล่วงไปแล้ว ทำบุญอุทิศส่วนกุศลไปให้

  • สวัสดีครับ พี่เล็ก
  • อ่านแล้ว ได้ข้อคิด ได้ความสุขที่แท้จริง
  • ที่สำคัญนะพี่ "รู้จักปล่อยวาง" ชีวิตของเราจึงจะมีความสุข
  • ยกนิ้วให้เลยครับ

ขอบคุณสำหรับกำลังใจจากคุณครูฐานิศวร์ค่ะ จากบทความ  จุดเริ่มต้นของปาฏิหาริย์ที่แท้จริงในชีวิตก็คือการมีความ"รู้สึกตัว" เป็นเพื่อนเดินทาง แล้วจะนำเราไปสู่ความสุขที่เป็นอิสระค่ะ (เป็นสิ่งที่รู้ได้เฉพาะตน)

 

ขอบคุณทีแวะไปให้กำลังใจนะครับ

สำหรับความทุกข์ผมเคยเขียนบันทึกชื่อ ขอบคุณความทุกข์

ขอบคุณบันทึกที่ดีที่ให้เห้นค่าของความทุกข์

ขอขอบคุณ คุณ Ico24  Ico48 Ico48Ico48 และคุณครูบุศรา-สิทธิชัย ที่แวะมาให้ดอกไม้เป็นกำลังใจค่ะ

ขอบคุณ คุณพี่พัชรินทร์ สังขกุลมาลา ที่แอบมาให้กำลังใจเงียบๆ ค่ะ ดีใจนะค่ะที่ชอบบทความและมองเห็นได้ว่า เราก็มีความสุขได้ในขณะที่เผชิญหน้ากับความทุกข์ค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท