1. ความสำคัญและประโยชน์ของการมีส่วนร่วม
เจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ ต้องการปฏิรูปการเมืองไปสู่สังคมประชาธิปไตยที่แท้จริง
ดังนั้น สาระสำคัญของรัฐธรรมนูญจึงมีผลกระทบต่อวิถีชีวิตของประชาชนทุกคน โดยสรุปดังนี้
สิทธิ คือ ผลประโยชน์หรืออำนาจอันชอบธรรมที่กฎหมายรับรอง คุ้มครองให้มีทั้งสิทธิเอกชนส่วนบุคคล) และสิทธิมหาชน (สาธารณะ)
เสรีภาพ คือ สิทธิที่จะทำหรือไม่ทำอะไรก็ได้โดยไม่ละเมิดสิทธิผู้อื่น ดังนั้นเสรีภาพที่กฎหมายรับรองจึงเป็นสิทธิ
สิทธิชุมชน ที่ประชาชนมีสิทธิตามกฎหมาย ได้แก่ การจัดการท้องถิ่น การจัดการสิ่งแวดล้อม การประชาพิจารณ์ เป็นต้น
สิทธิในการดำรงชีวิต ทุกคนมีสิทธิที่จะดำรงชีวิตได้โดยอิสระตามกฎหมายกำหนด สิทธิดังกล่าวนั้นประกอบด้วย สิทธิที่จะได้รับการศึกษา การรับข้อมูลข่าวสาร และการฟ้องหน่วยราชการ ฯลฯ
การมีส่วนร่วมของประชาชนคือ การให้โอกาสประชาชนเป็นฝ่ายตัดสินใจกำหนดปัญหาความต้องการของตนเองอย่างแท้จริง เป็นการเสริมพลังอำนาจให้แก่ประชาชน/กลุ่มองค์กรชุมชนให้สามารถระดมขีดความสามารถในการจัดการทรัพยากร การตัดสินใจ และการควบคุมดูแลกิจกรรมต่างๆ ในชุมชนมากกว่าที่จะเป็นฝ่ายตั้งรับ สามารถกำหนดการดำรงชีวิตได้ด้วยตนเอง ให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นตามความจำเป็นอย่างมีศักดิ์ศรีและสามารถพัฒนาศักยภาพของประชาชน/ชุมชนในด้านภูมิปัญญา ทักษะ ความรู้ ความสามารถ และการจัดการและรู้เท่าทันการเปลี่ยนแปลงของโลกได้ และประชาชนจะต้องเข้ามามีส่วนร่วมในกระบวนการอย่างมีอิสระ การทำงานต้องเน้นในรูปกลุ่มหรือองค์กรชุมชนที่มีวัตถุประสงค์ในการเข้าร่วมอย่างชัดเจน เนื่องจากพลังกลุ่มจะเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้งานพัฒนาต่างๆ บรรลุสำเร็จตามความมุ่งหมายได้
1. เพิ่มคุณภาพในการตัดสินใจ (ตรงตามความต้องการ)
2. สร้างฉันทามติ (ลดความขัดแย้ง)
3. เพิ่มความง่ายต่อการนำไปปฏิบัติ (ความเป็นเจ้าของร่วม)
4. ดำรงไว้ซึ่งความน่าเชื่อถือ/ชอบธรรม
1. ประชาชนมีความรู้ ความสามารถ
2. เพื่อแก้ปัญหาสังคม “ปัญหาของเรา”
3. เพื่อสร้างความสัมพันธ์ที่ดีในชุมชน
4. เพื่อสร้างผู้นำในอนาคต
5. สร้างแนวในการแก้ปัญหาร่วมกัน
การเมืองภาคพลเมือง หมายถึง การมีส่วนร่วมของประชาชนในฐานะที่เป็นพลเมืองในเรื่องต่อไปนี้
การที่จะทำให้การเมืองภาคพลเมืองเกิดผลสำเร็จนั้น ขึ้นอยู่กับปัจจัยสำคัญ คือ การมีวิถีชีวิตแบบประชาธิปไตยของบุคคล ซึ่งประกอบด้วยพฤติกรรมที่แสดงออก 3 ลักษณะ ดังนี้
- เคารพในสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
- เคารพซึ่งกันและกันทางกาย
- เคารพทางวาจา
- เคารพในสิทธิของผู้อื่น
- เคารพในความคิดเห็นของผู้อื่น
- เคารพในกฎ ระเบียบของสังคม
- มีเสรีภาพและใช้เสรีภาพในขอบเขต
2. สามัคคีธรรม
- รู้จักประสานประโยชน์โดยถือประโยชน์ของส่วนรวมหรือของชาติเป็นที่ตั้ง
- ร่วมมือกันในการทำงาน
- เห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวม
- รับผิดชอบต่อหน้าที่
- มีน้ำหนึ่งใจเดียว รักหมู่คณะ ช่วยเหลือเกื้อกูลกัน
3. ปัญญาธรรม
- การไม่ถือตนเป็นใหญ่
- เน้นการใช้ปัญญา ใช้เหตุผล และความถูกต้องในการตัดสินปัญหา
- เมื่อมีปัญหาโต้แย้ง ต้องพยายามใช้เหตุผลให้เห็นคล้อยตาม วิธีสุดท้ายคือการออกเสียงหรือใช้เสียงข้างมาก
- เมื่อได้รับข่าวสารข้อมูลแล้ว วิเคราะห์ประมวลเหตุการณ์ต่างๆ ด้วยสติปัญญา
- ศึกษาข้อเท็จจริงให้ถี่ถ้วน
- นำเสนอปัญหาให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทราบ
- ชุมนุมคัดค้านโดยไม่ละเมิดสิทธิของผู้อื่น
7. ร่วมกันปกป้องสิทธิของตนไม่ให้ถูกละเมิด
8. เผยแพร่ความรู้ ความเข้าใจที่ถูกต้องทางการเมือง
การเมืองภาคตัวแทน หมายถึง การปกครองที่ไม่ได้ให้ประชาชนกำหนดนโยบายของรัฐได้โดยตรง แต่ประชาชนจะมอบอำนาจด้วยการเลือกตัวแทนไปใช้อำนาจแทน
มีข้อเสียคือ เนื่องจากประชาชนไม่ได้กำหนดนโยบายของรัฐโดยตรง ดังนั้นตัวแทนอาจบิดเบือนไม่ได้ใช้อำนาจตามเจตนารมณ์ของประชาชน แต่มีข้อดีตรงที่ประชาชนไม่ต้องยุ่งยาก และข้อดีที่สำคัญที่สุดคือ หากให้ประชาชนเป็นผู้ตัดสินใจนโยบายของรัฐในบางเรื่องที่ประชาชนไม่มีความรู้ ความเข้าใจที่เพียงพอ อาจก่อให้เกิดความเสียหายอย่างมากได้ ดังนั้น การให้ประชาชนพิจารณาเลือกคนดีที่มีความรู้ดีในเรื่องนั้นๆ ไปตัดสินใจแทนน่าจะประสบผลดีกว่า
สำหรับการเมืองภาคตัวแทนในประเทศไทย ได้กำหนดให้ประชาชนเลือกฝ่ายนิติบัญญัติแล้วให้ ฝ่ายนิติบัญญัติเลือกฝ่ายบริหาร ดังนั้นระบบนี้จะมีการคานอำนาจถ่วงดุลกันระหว่างฝ่ายนิติบัญญัติและฝ่ายบริหาร และที่เรียกว่า ประชาธิปไตยทางอ้อมระบบรัฐสภาก็เพราะว่า กำหนดให้รัฐสภา (ฝ่ายนิติบัญญัติ) มีอำนาจมากกว่าฝ่ายบริหาร กล่าวคือ รัฐสภาเป็นผู้เลือกและตรวจสอบฝ่ายบริหาร รวมถึงสามารถปลดฝ่ายบริหารออกได้ (ด้วยการเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจ) แต่ก็ให้ฝ่ายบริหารคานอำนาจฝ่ายนิติบัญญัติได้ด้วยการยุบฝ่ายนิติบัญญัติ (ยุบสภาฯ) แต่มีผลให้ฝ่าบริหารต้องพ้นจากตำแหน่งไปด้วย
การมีส่วนร่วมในกระบวนการเลือกตั้ง
การเลือกตั้ง ส.ส. และ ส.ว. รวมทั้งการเลือกตั้งท้องถิ่น เป็นสิทธิและหน้าที่ของประชาชน การเลือกตั้งจะบรรลุเป้าหมายของการคัดเลือกตัวแทนของประชาชนเข้าไปออกกฎหมายและเข้าไปบริหารประเทศ รวมทั้งการกลั่นกรองกฎหมายหรือข้อบัญญัติท้องถิ่นก็ต่อเมื่อประชาชนเข้าใจการเมือง และเข้าใจว่าการเลือกตั้งที่ทุจริตคือบ่อเกิดของการฉ้อราษฎร์บังหลวง ดังนั้นประชาชนจะต้องมีส่วนร่วมในการเลือกตั้งและถือว่าเป็นหน้าที่ที่จะต้องช่วยกันทำให้การเลือกตั้งสุจริตและเที่ยงธรรม เพื่อให้คนดีเข้าไปพัฒนาท้องถิ่นและประเทศ
ประชาชนมีส่วนร่วมได้ดังนี้
สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง. (2554). คู่มือการฝึกอบรมผู้บังคับบัญชาลูกเสือ ระดับผู้นำ ขั้นความรู้ชั้นสูง โครงการลูกเสืออาสา กกต. เพื่อพัฒนาประชาธิปไตย. กรุงเทพฯ: สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง.
- ตามมารับความรู้คะ
- ให้กำลังใจคะ
สวัสดีค่ะ
ในเรื่องของการมีส่วนร่วมของประชาชนทางการเมือง หากมีการปลูกฝังและให้เกิดความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้อง อย่างแพร่หลายและทั่วถึง ตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญอันเป็นกฎหมายสูงสุดของประเทศ เชื่อแน่ว่าประชาชนย่อมเกิดความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องและสามารถเข้าไปมีส่วนร่วมทางการเมือง ทั้งโดยการเป็นผู้ลงสมัครรับการเลือกตั้งที่มีคุณภาพ และโดยการใช้สิทธิ์ลงคะแนนเสียงเลือกตัวแทนที่มีคุณภาพ ที่จะเข้าไปบริหารและพัฒนาประเทศได้อย่างแน่นอน...