คนทำงานประจำส่วนใหญ่ในชีวิตการทำงานจะเป็นการทำงานแบบพัฒนาปรับปรุงไปเรื่อยๆ จนบางครั้งเนียนเข้าเป็นวิถีชีวิตจนแม้แต่เจ้าตัวเองก็ไม่รู้ตัวได้ว่ากำลังทำงานพัฒนางานนั้นอยู่ ...
ลักษณะของการทำงานเช่นนี้จะเริ่มเมื่อพบว่ามีปัญหาหน้างานเกิดขึ้น คนทำงานจะลองปรับเปลี่ยนกระบวนการทำงานโดยพยายามที่จะคลี่คลายปัญหาดังกล่าวให้เบาบางลง ซึ่งกระบวนการดังกล่าวจะผ่านวิถีแห่งการพูดคุยและแลกเปลี่ยนเรียนรู้อย่างแบบเป็นธรรมชาติ มีการทบทวน หารือ และทดลองทำ
แต่...จุดอ่อนของคนหน้างานจะขาดการบันทึกเรื่องราวของการทำกระบวนการดังกล่าวไว้ว่าตนเองมีการพัฒนาคุณภาพอย่างไร และผลลัพธ์ที่ได้ไม่ได้วัดผลเป็นรูปธรรมชัดเจน
ประสบการณ์ของการทำหน้าที่เป็น R2R Facilitator หรือคุณอำนวยทำให้ข้าพเจ้ามองเห็นโอกาสของการนำเรื่องราวสองเรื่องราวมาผนวกเข้าเป็นหนึ่งเดียว วิถีที่คนทำงานทำในการพัฒนางานนั้น ถือได้ว่าเป็นกระบวนการที่ผ่านการคิดอันเป็นระบบ และหากเพิ่มการทบทวนวรรณกรรมและการวัดและประเมินผลเข้าไปจะทำให้กระบวนการทำงานพัฒนาคุณภาพเป็นกระบวนการที่ผ่านการสังเคราะห์วิเคราะห์อย่างลุ่มลึกขึ้น
เมื่อวาน...ที่ศูนย์อนามัยที่๗ จังหวัดอุบลราชธานีข้าพเจ้าก็เลยลองให้หยิบงานที่ทำในเชิงพัฒนามาชี้ให้เห็นกระบวนการ และสิ่งที่พึงเพิ่มเข้าไปว่าในการคิดพัฒนางานประจำของเขานั้นมีฐานคิดมาจากเรื่องอะไร ... ซึ่งฐานคิดดังกล่าวนั่นน่ะเป็นการทบทวนวรรณกรรม และสิ่งที่พึงเพิ่มขึ้นเข้ามาในทักษะการทำงาน คือ การวัดและประเมินผลลัพธ์ในการพัฒนากระบวนการนั้น
เมื่อเราแลกเปลี่ยนเรียนรู้พบว่า...การเชื่อมวิธีนี้ทำให้คนทำงานดูเหมือนจะมีกำลังใจในการพัฒนางานด้วยกระบวนการวิจัยมากขึ้น ซึ่งกระบวนการนี้โดยทั่วไปในแวดวงวิชาการเราจะเรียกว่า เป็นการทำวิจัยเชิงปฏิบัติการ (Action Research) เมื่อพิจารณาโมเดลแห่งการเรียนรู้แล้วใกล้เคียงการทำงานพัฒนาคุณภาพหรือการทำโครงการของคนทำงานประจำ ซึ่งนี่น่าจะเป็นทางออกที่เป็นอีกทางเลือกหนึ่งของคนหน้างานได้
การเรียนรู้ที่ศูนย์อนามัยที่ ๗ สำหรับครั้งนี้ซึ่งน่าจะเป็นครั้งที่ ๖ บรรยากาศก็ยังคงดีและราบรื่น มีคุณหมอแชมป์และคุณหมอปุ๊นำงานมาเล่าถึงความก้าวหน้าของงานให้ฟัง...ส่วนกระป๋องความคิดอันโลดแล่นก็ไม่ได้หยุดยังคิดต่อเนื่องไปเรื่องๆ โดยเฉพาะเกี่ยวกับเรื่องส้วมลอยน้ำ...
...
๒๗ กรกฎาคม พ.ศ.๒๕๕๔
มาจัดคอนเสิร์ต เดี่ยวไมค์โครโฟนอีกแล้วหรือคะนี่
คงมีพลังแล้วซินะคะ
ดูแลสุขภาพด้วยนะ