27 กรกฏาคม 2554 บรรยายกาศเมืองมหาสารคามยามเช้าดูสดใสหากไม่มีภารกิจใดคงได้ตื่นสายแน่นอน แต่ต้องรีบตื่นและดูแลตัวเองแบบเร่งด่วน ด้วยวันนี้มีนัดลงพื้นที่กับทีมนักวิชาการจากสำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา ที่เดินทางมาถึงมหาสารคามล่วงหน้าแล้วในวันวาน
ภารกิจเริ่มต้นด้วยการจัดขบวนรถเดินทาง ฟังดูเหมือนหลายคนแต่ไม่มากมายหรอกครับ ที่ว่าจัดขบวนหมายถึงคนที่รู้เส้นทางไปพื้นที่เป้าหมายคือผมเองซึ่งต้องทำหน้าที่นำทาง พวกเราเดินทางด้วยความเร็วแบบพอดี เพื่อที่จะถึงพื้นที่เป้าหมายตามเวลาดีสามโมงเช้า ภารกิจสำคัญวันนี้คือการพบปะ พูดคุยกับผู้อำนวยการโรงเรียน ครู นักเรียน ผู้นำชุมชนในพื้นที่บริการโรงเรียนบ้านหนองระเวียง ตำบลเวียงชัย อำเภอพยัคฆภูมิพิสัย จังหวัดมหาสารคาม เพื่อน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงไปขับเคลื่อนกระบวนการเรียนรู้ในท้องถิ่น
พวกเราเดินทางถึงบ้านหนองระเวียงตามเวลานัดหมาย ได้รับรอยยิ้มจากเจ้าถิ่น เราก็หายเหนื่อย หลังทักทายกันตามสมควร เด็กๆนักเรียนชวนเราไปเที่ยวตลาดนัดเล็กๆในโรงเรียน เด็กๆบอกว่าตลาดแห่งนี้มีมาหลายปี เป็นเวทีให้เด็กๆในโรงเรียนทุกคนได้นำผลผลิตจากบ้านมาฝึกแลกเปลี่ยนและขาย บรรยากาศดีมากแต่ที่พิเศษคือทุกคนในตลาดแห่งนี้จะสื่อสารกันด้วยภาษาเยอ ซึ่งเป็นภาษาถิ่นบ้านหนองระเวียง สำเนียงแปลกๆพร้อมกับหน้าตาที่สดใสของเด็กๆทำให้เราเริ่มคุ้นเคยกันอย่างรวดเร็ว
หลังจากนั้นเด็กๆพาเราเข้าสู่กระบวนการผงนัวคู่ครัวไทยห่างไกลมะเร็ง เป็นการใช้พืชในท้องถิ่นมาหั่นและตำละเอียดผสมกับข้าวสาร ปั้นเป็นก้อนก่อนที่จะทำให้แบนเป็นรูปทรงกลมแล้วนำไปตากแดดให้แห้งสนิท สามารถเก็บไว้ใช้เป็นเครื่องปรุงรสอาหารได้นานหลายเดือน เด็กๆบอกว่าหนึ่งครอบครัวสามารถทำผงนัวใช้ในครัวเรือนได้ นอกจากเป็นยาดีแล้วยังได้ความรัก ความผูกพันของทุกคนในครอบครัวด้วย
สุดท้ายเราตั้งวงคุยกันว่าหากเราจะน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาเพื่อขับเคลื่อนกระบวนการเรียนรู้ในท้องถิ่น เราจะเปิดพื้นที่การเรียนรู้ด้วยกระบวนใด ความหลากหลายความคิดจากหลากหลายชุดความรู้ที่ทุกคนมีในตัว ทำให้เราเห็นภาพเบื้องต้นและค่อนข้างมั่นใจว่าสิ่งที่คุยกันวันนี้จะมีพลังในวันต่อไป เราลาพี่น้องบ้านหนองระเวียงด้วยการฝากสิ่งที่เราคุยกันไว้ สิ่งใดจะให้เราร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ให้บอกกล่าวกัน
หลายท่านอาจสงสัยว่าคุยกันเรื่องอะไร ใครออกแบบ บอกได้เลยครับว่าเรายกให้ผู้คนในพื้นที่เป็นหลัก เราจะไม่จมปลักกับแนวคิดการพัฒนาที่กดทับรัศมีความรู้ของชุมชน ถามว่าเป็นวิธีที่ดีหรือไม่ ตอบว่าไม่ฟันธงแต่พวกเราตกลงกันว่าน่าลองดูสักตั้ง ครับผม
ตามมาทักทาย
ไม่ได้ข่าวเลยครับ
ขอบคุณครับ