เมื่อหลายปีมาแล้ว ศ. นพ. ประเวศ วะสี ให้พรคู่บ่าวสาว ว่าต่อไปเบื้องหน้า เมื่อไรทะเลาะ หรือขัดแย้งกัน อย่าแก้ด้วยเหตุผล แต่ให้แก้ด้วยอารมณ์ คืออารมณ์รักและปรารถนาจะอยู่ร่วมกัน อย่าตัดสินกันด้วยการหาว่าใครถูกใครผิด พวกเราที่ผ่านชีวิตแต่งงานมากว่ายี่สิบปี เห็นด้วยกับคำแนะนำนี้ทุกประการ คู่บ่าวสาวในเหตุการณ์นั้นคือ นพ. สุภกร และ ดร. สีลาภรณ์ บัวสาย
หนังสือ Beyond Reason : Using Emotions as You Negotiate แต่งโดย Roger Fisher & Daniel Shapiro ก็แนะนำเช่นเดียวกัน หนังสือเล่มนี้ว่าด้วยการใช้อารมณ์ในการสร้างความสำเร็จ ในการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีต่อผู้อื่น โดยทั่วไปเราจะตกใจกับคำแนะนำเช่นนี้มาก เพราะเราคุ้นเคยกับคำเตือนว่า "อย่าใช้อารมณ์" ซึ่งเป็นคำที่ถูกเพียงครึ่งเดียว เพราะผู้กล่าวคำเช่นนั้นหมายถึงอย่าใช้อารมณ์ด้านลบ แต่เป็นการใช้อารมณ์สร้างความสำเร็จ เน้นที่อารมณ์ด้านบวก
ผมเป็นนักเรียนที่คอยทำแบบฝึกหัดสร้างพลังอารมณ์ด้านบวก ปลูกอารมณ์ด้านบวกเอาไว้ใช้งาน และใช้ทำให้ชีวิตสดใสซาบซ่า และในขณะเดียวกันก็หาทางทำให้อารมณ์ด้านลบมันลีบเล็กลง อารมณ์ด้านบวกได้แก่ ตื่นเต้น ดีใจ สนุกสนาน กระตือรือร้น อารมณ์ดี ภูมิใจ พึงพอใจ ยินดี ชื่นชม มีความสุข ปิติ มีความหวัง ปลาดใจ สงบเย็น เชื่อถือ ไว้วางใจ ฯลฯ
คนที่มีทักษะในการควบคุมอารมณ์ตนเองให้มีอารมณ์ด้านบวกอยู่เสมอ เป็นคนที่โชคดี ชีวิตจะมีความสุข จะยิ่งดี ถ้าเรามีทักษะในการสัมพันธ์กับผู้อื่นในบรรยากาศหรืออารมณ์เชิงบวก
แต่อารมณ์ไม่ใช่สิ่งที่เราจะควบคุมได้เสมอไป ยิ่งอารมณ์ของผู้อื่นเรายิ่งเข้าไปควบคุมเขาไม่ได้ จึงต้องเรียนรู้ให้เข้าใจอารมณ์ และเรียนวิธี "จัดการ" อารมณ์ โดยต้องเข้าใจว่าจริงๆ แล้วอารมณ์เป็นเพียงยอดของภูเขาน้ำแข็งที่เราสัมผัสได้ แต่มีสิ่งที่อยู่ลึกกว่าอารมณ์ที่แสดงออก คือ ความกังวลใจลึกๆ (concern) จงค้นหาและทำความเข้าใจความกังวลใจลึกๆ นั้น และหาทางเจรจาเพื่อให้ได้บรรลุผลที่แท้จริงตามความกังวลใจลึกๆ นั้น
หลักปฏิบัติ ๕ ประการในการจัดการอารมณ์เชิงบวก เพื่อความสัมพันธ์ที่ดี
๑. แสดงความชื่นชม ค้นหาส่วนดีของสิ่งที่ผู้อื่นคิด เชื่อ และปฏิบัติ และนำมาชื่นชมต่อเขา
๒. สร้างความสัมพันธ์ เปลี่ยนศัตรู ให้กลายเป็นมิตร
๓. เคารพความเป็นอิสระของผู้อื่น
๔. เคารพ ยกย่อง ฐานะของผู้อื่น
๕. จงเลือกแสดงบทบาทที่จะช่วยให้บรรลุผลตามเป้าประสงค์ของผู้อื่น และปฏิบัติตามบทบาทนั้น
แทนที่จะเน้นแก้ไขอารมณ์เชิงลบ ผมกำลังฝึกฝนปลูกฝัง รดน้ำพรวนดิน ใส่ปุ๋ย อารมณ์เชิงบวก ขึ้นภายในจิตสำนึก จิตใต้สำนึก และจิตเหนือสำนึกของตนเอง ผมหาทางเรียนรู้วิธีจัดการความสัมพันธ์ต่อผู้อื่น โดยการจัดการอารมณ์ด้านบวก แต่ผมคงจะยังเรียนอยู่ในชั้นอนุบาลเท่านั้น
วิจารณ์ พานิช
๑๑ กค. ๔๙
เรียน อาจารย์ ที่เคารพ
อารมณ์ ทีว่า มีอยู่ 2 ลักษณะ ในตัวมนุษย์ หรือสัตว์ คือ 1 อารมณ์ดี มักมีตัวสนับสนุนหลายอย่างเช่น มีความพอดี อิ่มท้องพอดี อากาศพอดี และต้องควบคุมอารมณ์ได้ 2 อารมณ์ร้าย มักมีตัวสนับสนุน ที่จะขาด หรือเกิน เช่น ท้องไม่อิ่ม หรืออิ่มมากเกินไป อากาศแวดล้อมเลวร้าย การควบคุมอารมณ์ จะยากขึ้นมาก
ถ้าใครสามารถ ที่จะควบคุมอารมณ์ ได้ ในขณะที่ มีความโลภ โกรธ หลง โดยให้อารมณ์ดี ใช้ปัญญา ถือว่า การใช้อารมณ์ ถูกต้องใช้ได้ แต่หาก เมื่อไหร่เกิดการใช้อารมณ์ร้าย มาเป็นตัวดับปัญหา ซึ่งมักจะขาดปัญญา ก็จะทำให้ทั้งตนทั้งผู้อื่น เดือดร้อน
ผมต้องขอคำชี้แนะด้วย
หนูเคยได้ยินมาสองครั้งจากผู้หลักผู้ใหญ่ระดับประเทศที่มีคนนับหน้าถือตา ว่า "การมีชีวิตครอบครัว จะอยู่ด้วยเหตุผลไม่ได้" หนูนึกขัดแย้งขึ้นมาในใจว่าต้องฟังเหตผลกันซิจึงจะถูก หนูก็งง งง กับคำที่ได้ยินนี้มาหลายเดือน ตั้งใจว่าจะลองสังเกตุการใช้ชีวิตครอบครัวของตัวเองทุกๆวันที่เราอยู่ด้วยกันเราอยู่ด้วยอารมณ์หรือเหตุผล กันแน่ ได้ข้อสรุปว่า "ครอบครัวไม่ต้องใช้เหตุผลเสมอไปจริงๆ หลายครั้งที่หนูอยากให้คนที่หนูอยู่ด้วยไม่ต้องมาเข้าใจเหตุผล ขอให้เข้าใจอารมณ์ ณ ขณะนั้น เพียงพอ และเท่าทันอารมณ์ของกันและกัน เช่นกันทั้งกับลูกต้องเข้าใจอารมณ์ สะท้อนความหมาย "ขอเพียงเข้าใจ" นั่นคือเข้าใจอารมณ์ก็จะอยู่กัน วันนี้ได้อ่านบันทึกนี้ เข้าใจยิ่งขึ้น ขอบคุณค่ะ
เป็นการง่าย ยิ้มได้ ไม่ต้องฝืน
เพื่อโลกชื่น เหมือนบบเลง เพลงสวรรค์
แต่คนที่ ควรชม นิยมกัน
ต้องใจมั่น ยิ้มได้ เมื่อภัยมา
ฝากบทกลอนมาเตือนความทรงจำและความเข้าใจด้วยค่ะ