ชื่อเรื่องงานวิจัย : การเรียนรู้แบบมีส่วนร่วมเพื่อสร้างจิตสำนึกต่อสิ่งแวดล้อมของเยาวชน
ชื่อผู้วิจัย : นางรุ่งทิพย์ กล้าหาญ นายบรรชร กล้าหาญ
ปีที่ทำการวิจัยเสร็จ : 2551
แหล่งทุนอุดหนุนการวิจัย : สถาบันวิจัยพุทธศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษารูปแบบและผลการจัดการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วมเพื่อการสร้างจิตสำนึกต่อสิ่งแวดล้อมแก่เยาวชน โดยประชากรและกลุ่มตัวอย่างในการวิจัยคือ นักศึกษาระดับชั้นปีที่ 3 โครงการปฏิรูปการศึกษาเกษตรเพื่อชีวิต สังกัดวิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีเชียงใหม่ จำนวน 30 คน การวิจัยได้ใช้วิธีวิจัยเชิงปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วม (PAR : Participatory Action Research) สำหรับเครื่องมือได้แก่ แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ และแบบสอบถามเพื่อวัดประเมินผลระดับจิตสำนึก มีการเก็บข้อมูลจากการสังเกตแบบมีส่วนร่วม การสนทนากลุ่ม และการบันทึกปรากฏการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้น รวมทั้งการรวบรวมจากแบบสอบถาม และนำมาวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติพื้นฐานประกอบด้วย ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และ ค่า t – test
ผลการวิจัยพบว่า รูปแบบและวิธีการเรียนรู้เพื่อสร้างจิตสำนึกต่อสิ่งแวดล้อม ประกอบด้วยรูปแบบของการเรียนรู้ใน 3 ลักษณะคือ การเรียนรู้แบบเป็นทางการ การเรียนรู้แบบไม่เป็นทางการ และการเรียนรู้ตามอัธยาศัย ซึ่งทั้งสามลักษณะจะต้องสอดประสานกัน เพื่อให้ตอบสนองความต้องการ สอดคล้องกับวิถีชีวิตและสภาพความเป็นจริงของสังคมวัฒนธรรม โดยมีวิธีการเรียนรู้ 3 ประการ คือ การสร้างกระบวนทัศน์แบบไทย ซึ่งเป็นวิธีการจัดกระบวนการเรียนรู้ที่เน้นการเรียนรู้เรื่องราวความเป็นจริงเกี่ยวกับชุมชนท้องถิ่น การใช้มิติทางวัฒนธรรมเพื่อการเรียนรู้ ซึ่งเป็นวิธีการเรียนรู้ที่มุ่งเน้นการกระตุ้นให้เกิดการสนใจใคร่เรียนรู้ ถึงวิถีชีวิต แบบแผนความคิด ความเชื่อ และการปฏิบัติในชุมชนท้องถิ่น และการจัดการเรียนรู้แบบบูรณาการและซึมซับ ที่เน้นการมีส่วนร่วมสูงสุดและการมีปฏิสัมพันธ์ในการเรียนรู้ร่วมกัน สำหรับลักษณะการจัดการเรียนรู้ที่เหมาะสมประกอบด้วย การฝึกคิดวิเคราะห์มีวิจารณญาณ การฝึกปฏิบัติและประยุกต์ใช้ การสร้างความรับผิดชอบและสำนึกต่อสังคมสิ่งแวดล้อม การใช้กระบวนการกลุ่ม
สำหรับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วมประกอบด้วย กิจกรรมการศึกษาวิเคราะห์คุณค่าและสถานการณ์สิ่งแวดล้อมด้วยเทคนิค PRA การวิเคราะห์สายใยสรรพสิ่ง ด้วยเทคนิค Matricและ LCA การวิเคราะห์สาเหตุและแนวทางแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อม ด้วยเทคนิค Fish bone การศึกษาวิถีชุมชนในการจัดการสิ่งแวดล้อม การร่วมประเพณีพิธีกรรมของชุมชน การบันทึกกระจกส่องตนด้านสิ่งแวดล้อม การจัดทำโครงการพัฒนาตนเองด้านสิ่งแวดล้อม การจัดทำโครงการเพื่อสังคมด้านสิ่งแวดล้อม การสรุปบทเรียนและโล่ชีวิต
ผลการร่วมกิจกรรมการเรียนรู้ปรากฏว่า นักศึกษามีคะแนนเฉลี่ยความตระหนักต่อสถานการณ์สิ่งแวดล้อมในระดับมากที่สุด สูงกว่าก่อนเข้าร่วมกิจกรรมการเรียนรู้ อย่างมีนัยสำคัญที่ระดับ 0.01 และนักศึกษายังมีการพัฒนาระดับขั้นของจิตสำนึกต่อสิ่งแวดล้อมสูงกว่าก่อนเข้าร่วมกิจกรรม อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.01 โดยนักศึกษาส่วนใหญ่ได้มีการพัฒนาระดับจิตสำนึกเข้าสู่ระดับขั้นการจัดระบบคุณค่า ถึงร้อยละ 53.3 และนักศึกษาทั้งหมดมีความพึงพอใจต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ในระดับที่มากที่สุด
จึงสรุปได้ว่า การจัดการกระบวนการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วมสามารถพัฒนาให้นักศึกษาเกิดจิตสำนึกต่อสิ่งแวดล้อม
ไม่มีความเห็น