ชื่อผู้วิจัย : นายบรรชร กล้าหาญ นางรุ่งทิพย์ กล้าหาญ
ปีที่ทำการวิจัยเสร็จ : 2545
แหล่งทุนอุดหนุนการวิจัย : สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ ผ่านกองแผนงาน กรมอาชีวศึกษา
การวิจัยครั้งนี้ เป็นการวิจัยปฏิบัติการอย่างมีส่วนร่วม (Participatory Action Research)โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษา 1. รูปแบบ วิธีการและเทคนิคในการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วมเรื่องโรคเอดส์สำหรับนักศึกษาอาชีวเกษตร 2. ปัจจัยและเงื่อนไขที่มีผลต่อการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วม 3. รูปแบบ วิธีการและเทคนิคการสร้างเครือข่ายความรู้ 4.ผลของการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วม สำหรับกลุ่มตัวอย่างในการศึกษาครั้งนี้คือ นักศึกษาที่กำลังศึกษาในระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ ชั้นปีที่ 3 วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีเชียงใหม่ จำนวน 30 คน สำหรับกระบวนการในการเก็บรวบรวมข้อมูลกระทำโดย การสังเกตพฤติกรรม การระดมความคิดเห็น การสนทนากลุ่ม และการสัมภาษณ์เชิงลึก
ผลการวิจัยพบว่า รูปแบบของการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วมประกอบด้วย การเรียนรู้แบบเป็นทางการ การเรียนรู้แบบไม่เป็นทางการ และการเรียนรู้ตามอัธยาศัย โดยผ่านวิธีการเรียนรู้ 4 ขั้นตอนคือ ขั้นการสร้างประสบการณ์ ขั้นการสะท้อนความคิดและอภิปรายข้อคิดเห็น ขั้นสร้างความเข้าใจและสรุปรวบยอด และขั้นการทดลองประยุกต์ใช้ความรู้ ซึ่งวิธีการจัดการเรียนรู้จะต้องมีการประสานสอดคล้องทั้ง 4 ขั้นตอน โดยอาจจะเริ่มจากจุดใดจุดหนึ่ง และเคลื่อนย้ายไปมาระหว่างขั้นตอนต่าง ๆ แต่จะต้องให้ครบทุกขั้นตอน และต้องคำนึงถึงการมีส่วนร่วมสูงสุด ซึ่งสามารถเกิดขึ้นจากการออกแบบกระบวนการกลุ่มที่เหมาะสม เพื่อร้อยรัดกระตุ้นให้เกิดพลวัตรของการเรียนรู้ เปิดโอกาสให้นักศึกษาได้ใช้ศักยภาพของตนในการสร้างความรู้ มีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นระหว่างกันอย่างลึกซึ้ง เพื่อนำไปสู่ข้อสรุปและการสร้างระบบความคิดความเชื่อร่วมกัน ซึ่งการออกแบบกลุ่มประกอบด้วย กลุ่มคู่ กลุ่มย่อย กลุ่มเล็ก กลุ่มไขว้ กลุ่มปิรามิด และกลุ่มขนาดใหญ่ สำหรับวิธีการในการเรียนรู้ประกอบด้วย เทคนิค PRA โปรแกรมสร้างเสริมทักษะชีวิต AIC เทคนิคการให้คำปรึกษา การสนทนากลุ่มและการศึกษาดูงาน
ในส่วนของรูปแบบการสร้างเครือข่ายการเรียนรู้พบว่า รูปแบบของการเรียนรู้ที่ดีต้องกลมกลืนกับวิถีชีวิต มีการบูรณาการแนวคิดเรื่องโรคเอดส์อย่างเหมาะสม และใช้กลไกระบบความสัมพันธ์ทางสังคมเป็นสื่อประสาน เช่น กลุ่มเพื่อนสนิท หรือกลุ่มเครือญาติ ให้การสนับสนุนด้านกิจกรรมเสริมหลักสูตรเพื่อเปิดโอกาสให้นักศึกษาได้แสดงบทบาทในการดำเนินการ รวมทั้งขยายผลการดำเนินงานเพื่อขยายเครือข่ายการเรียนรู้ ทั้งนี้วิธีการและเทคนิคในการสร้างเครือข่ายประกอบด้วย การทดลองปฏิบัติและการศึกษาจากสถานการณ์ การวางแผนดำเนินการ การนำไปปฏิบัติ การติดตามประเมินผล การสนับสนุน และการสรุปบทเรียน
ผลจากการเรียนรู้ทำให้นักศึกษาเกิดการพัฒนาที่บูรณาการระหว่างพัฒนาการด้านอารมณ์ สังคมและสติปัญญา กล่าวคือ นักศึกษาได้เกิดความตระหนักรู้ในตนเอง เข้าใจความแตกต่างระหว่างบุคคล สามารถจัดการกับอารมณ์และความเครียด มีทักษะในการคิด วิเคราะห์ วิจารณ์และคิดสร้างสรรค์ สามารถพัฒนาทักษะในการสื่อสาร เกิดความเห็นใจและเห็นคุณค่าของคนอื่น เกิดสำนึกรับผิดชอบต่อสังคม นำไปสู่ความรู้สึกภาคภูมิใจในตนเอง
สำหรับปัจจัยที่มีผลต่อการเรียนรู้ประกอบด้วย การออกแบบกิจกรรมที่หลากหลายสามารถกระตุ้นให้ผู้เรียนเกิดความพร้อมและความสนใจในการเรียนรู้ ด้วยการมุ่งเน้นการมีส่วนร่วมสูงสุด เปิดโอกาสให้ได้คิดได้แสดงออกอย่างอิสระ และมีส่วนร่วมในการประเมินผลการเรียนรู้ ในลักษณะเช่นนี้จึงต้องมีการออกแบบกลุ่มในหลายลักษณะ และมีการกำหนดบทบาทของสมาชิกในกลุ่มอย่างชัดเจน คำนึงถึงการใช้อิทธิพลของกลุ่มในการโน้มน้าวระหว่างกันเพื่อให้เกิดการคล้อยตาม เช่นเดียวกับการใช้สื่อเพื่อการเรียนรู้ ซึ่งควรมีการบูรณาการให้เหมาะสมกับจุดประสงค์ของการเรียนรู้ กระตุ้นให้เกิดการเรียนรู้อย่างกว้างขวางเชื่อมโยงกับชีวิตและสังคม สิ่งที่สำคัญอีกประการคือ การเลือกใช้ช่วงเวลาที่เหมาะสม
ในส่วนของเงื่อนไขที่มีผลต่อการเรียนรู้ประกอบด้วย คุณลักษณะส่วนตัวของนักศึกษาซึ่งมีภาวะของการเป็นผู้นำ เป็นที่ยอมรับศรัทธาจากกลุ่มเพื่อน สามารถชักนำให้เพื่อนเกิดการคล้อยตาม มีความสามารถในการควบคุมตนเองและมีแรงจูงใจใฝ่สัมฤทธิ์ เช่นเดียวกับครูหรือผู้สอนซึ่งต้องมีใจเปิดกว้าง ยอมรับว่า เจตคติที่เหมาะสม มิได้มีเพียงเจตคติที่ครูคาดหวังประการเดียว และต้องวางใจในนักศึกษา พยายามส่งเสริมให้เกิดการคิดและแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างกัน ภายใต้บริบทของสถานศึกษา ซึ่งมีการจัดสภาพแวดล้อมทางกายภาพ และสังคม รวมทั้งวัฒนธรรมขององค์กรให้เอื้อต่อการเรียนรู้
ไม่มีความเห็น