ชื่อเรื่องงานวิจัย : การเรียนรู้แบบมีส่วนร่วมเพื่อทักษะชีวิตด้านสารเสพติดของนักศึกษาอาชีวเกษตร
ชื่อผู้วิจัย : นายบรรชร กล้าหาญ นางรุ่งทิพย์ กล้าหาญ
ปีที่ทำการวิจัยเสร็จ : 2544
แหล่งทุนอุดหนุนการวิจัย : คณะกรรมการวิจัยการศึกษา การศาสนา และการวัฒนธรรม กระทรวงศึกษาธิการ
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาถึงรูปแบบของการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วมเพื่อทักษะชีวิตด้านสารเสพติดของนักศึกษาอาชีวเกษตร รูปแบบและวิธีการในการสร้างเครือข่ายการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วมทั้งภายในและภายนอกสถานศึกษา ผลของการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วม ตลอดจนศึกษาปัจจัยและเงื่อนไขที่มีผลต่อการเรียนรู้ ซึ่งกลุ่มตัวอย่างที่ศึกษาได้แก่ นักศึกษาในโครงการปฏิรูปการศึกษาเกษตรเพื่อชีวิต ระดับชั้นประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.3) จำนวน 20 คน จากวิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีเชียงใหม่ การศึกษาได้ใช้ระเบียบวิธีการวิจัยเชิงคุณภาพจากการวิจัยเชิงปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วม ซึ่งกระทำโดยการนำเอาโปรแกรมทักษะชีวิต , เทคนิค PRA , AIC , การระดมความคิดเห็น ,การสัมภาษณ์เชิงลึก การสนทนากลุ่ม รวมทั้งการสังเกตทั้งแบบมีส่วนร่วมและแบบไม่มีส่วนร่วม
ผลการวิจัยพบว่า รูปแบบของการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วมควรจะประกอบด้วยการเรียนรู้แบบเป็นทางการ โดยการจัดกิจกรรมการศึกษาอบรม โดยกำหนดหลักสูตรการฝึกอบรมอย่างชัดเจน เช่น การจัดโปรแกรมทักษะชีวิต การทำกิจกรรม AIC เพื่อการกระตุ้นสำนึกรับผิดชอบและแสวงหาแนวทางในการแก้ไขปัญหาร่วมกันอย่างเป็นระบบ และการเรียนรู้แบบไม่เป็นทางการจากการระดมพลังสมองเพื่อสะท้อนความคิดจากการเข้าร่วมกิจกรรมการสนทนาแลกเปลี่ยนประสบการณ์ ทั้งจากการร่วมอภิปราย การสนทนากลุ่ม และการทำกิจกรรม PRA เพื่อวิเคราะห์และสร้างความตระหนักต่อสภาพปัญหา รวมทั้งการเติมเต็มความรู้จากการศึกษาดูงาน ตลอดจนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ตามอัธยาศัย ซึ่งเป็นการเรียนรู้จากการปฏิสัมพันธ์กับกลุ่มเพื่อนและสิ่งรอบด้าน ส่วนวิธีการในการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วมประกอบด้วย การเรียนรู้ผ่านกระบวนการกลุ่มและการเรียนรู้ผ่านกระบวนการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วม ทั้งนี้ขั้นตอนของการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วมประกอบด้วย 4 ขั้นตอนคือการจัดประสบการณ์ซึ่งเป็นการประมวลประสบการณ์เดิมของนักศึกษาให้เชื่อมโยงกับการเรียนรู้ในสิ่งใหม่ การสะท้อนความคิดเห็นและการอภิปรายข้อคิดเห็นที่ได้รับจากการแบ่งปันประสบการณ์การเรียนรู้ร่วมกัน เพื่อนำไปสู่การสร้างความเข้าใจและเกิดความคิดรวบยอด รวมทั้งการทดลองหรือประยุกต์ความคิดซึ่งเป็นการกระตุ้นให้เกิดการนำเอาการเรียนรู้ที่เกิดขึ้นไปประยุกต์ใช้กับชีวิตประจำวันในลักษณะและสถานการณ์ต่าง ๆ จนเกิดเป็นแนวปฏิบัติของนักศึกษา นอกจากนี้ยังต้องสัมพันธ์กับองค์ประกอบทั้ง 3 ด้านของทักษะชีวิต คือทักษะพิสัย จิตพิสัยและพุทธิพิสัย
สำหรับรูปแบบและวิธีการในการสร้างเครือข่ายการเรียนรู้ทั้งจากภายในและภายนอกสถานศึกษา ประกอบด้วยกระบวนการในการขัดเกลาทางสังคมในลักษณะของการขัดเกลาทางตรง การขัดเกลาแบบบูรนาการ และการขัดเกลาทางอ้อม รวมทั้งการจัดกิจกรรมในรูปแบบของกระบวนการกลุ่มสัมพันธ์
ผลจากการเข้าร่วมกิจกรรมการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วม ทำให้นักศึกษาเกิดความตระหนักรู้ในตนเองสามารถวิเคราะห์ถึงสถานภาพ ข้อดี ข้อจำกัดของตนเอง สามารถจัดการกับตนเองในภาวะกดดันได้ โดยการคิดวิเคราะห์หาสาเหตุและแนวทางในการแก้ไขปัญหาอย่างเหมาะสม เกิดความเข้าใจและเห็นคุณค่าของผู้อื่นที่แตกต่างจากตนเองโดยเฉพาะผู้ที่ประสบปัญหาอันเนื่องมาจากปัญหาสารเสพติด นำไปสู่ความภาคภูมิใจในตนเองและสำนึกรับผิดชอบต่อสังคม ในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งของสังคมและเข้ามามีส่วนร่วมในการป้องกันแก้ไขปัญหาสารเสพติดจากการทำหน้าที่อาสาสมัครเพื่อสื่อสารความรู้เรื่องสารเสพติดให้แก่เพื่อนทั้งภายนอกและภายในสถานศึกษา ซึ่งผลของการทำหน้าที่อาสาสมัครทำให้นักศึกษาสามารถพัฒนาทักษะในการสร้างสัมพันธภาพและการสื่อสาร รวมทั้งสามารถจัดการกับอารมณ์และความเครียดของตนเองได้ด้วยความคิดในเชิงวิเคราะห์วิจารณ์และสร้างสรรค์
สำหรับปัจจัยเงื่อนไขที่มีผลต่อการเรียนรู้ประกอบด้วยคุณลักษณะส่วนบุคคลอันเกิดจากความสนใจและความสามารถทางสติปัญญาในการคิดวิเคราะห์อย่างเชื่อมโยง หลอมรวมกับคุณลักษณะของความเป็นผู้นำที่มีความสามารถในการควบคุมตนเอง และความสำนึกรับผิดชอบต่อตนเองและสังคม เกิดเป็นแรงจูงใจในการเข้าร่วมกิจกรรม เช่นเดียวกับความรู้สึกคาดหวังต่อการกระทำของตนเอง ซึ่งสิ่งเหล่านี้ยังได้รับกระตุ้นจากสังคม จากการแสดงออกซึ่งการยอมรับในการแสดงพฤติกรรมจากบุคคลแวดล้อม ประกอบกับการจัดกระบวนการเรียนรู้ที่หลากหลายและเน้นการมีส่วนร่วม ซึ่งเปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้คิดได้ทำ ได้สร้างสรรค์ และสรุปสาระของการเรียนรู้ร่วมกัน และด้วยการเลือกใช้ช่วงเวลาที่เหมาะสมสอดคล้องกับบริบทของผู้เรียน ทำให้ได้รับการร่วมมือในการทำกิจกรรมเพื่อพัฒนาการเรียนรู้ อีกทั้งจากบริบทของสถานศึกษาเกี่ยวกับการพักอาศัยและลักษณะกิจกรรมการเรียนการสอนตามหลักสูตรของสถานศึกษา รวมทั้งวัฒนธรรมย่อยของสถานศึกษา ล้วนเอื้ออำนวยต่อการเรียนรู้และการสร้างเครือข่าย
ไม่มีความเห็น