จิตวิญญาณของจิตอาสาฉือจี้
กับการบริการด้วยหัวใจมนุษย์
ปัจจุบันนี้ คำว่า “ฉือจี้” ได้มีการกล่าวถึงมากขึ้นในประเทศไทย ทั้งในส่วนของราชการต่างๆ เช่น การศึกษา การพยาบาล การรักษาสิ่งแวดล้อม และที่ลืมไม่ได้คือ งานการกุศล ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของภารกิจของมูลนิธิพุทธฉือจี้ไต้หวัน
ฉือ แปลว่า เมตตา จี้ แปลว่า การช่วยเหลือ ดังนั้น การเป็นอาสาสมัคร ฉือจี้ จึงเป็นผู้ที่เข้ามาเพื่อการช่วยเหลือให้ผู้อื่นได้พ้นทุกข์ ดังนั้นหากใครลังเลสงสัยในการเป็นอาสาสมัคร ฉือจี้ ก็โปรดได้เข้าใจว่า อาสาสมัครฉือจี้นั้นเป็นการเข้ามาโดยสมัครใจ ไม่มีใครบังคับและทำการทุกอย่างด้วยความสมัครใจตามอรรถภาพที่แต่ละคนมีอยู่และก็ไม่ใช่ลัทธิใดๆที่จะมาเพื่อล้างสมองให้เราต้องเปลี่ยนการนับถือศาสนา ดังนั้นการเป็นอาสาสมัครฉือจี้ จึงเปิดกว้างให้กับคนทุกชาติ ศาสนา เพราะการช่วยเหลือของมูลนิธิพุทธฉือจี้ เป็นการ ช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ทุกคนที่ตกทุกข์ได้ยากโดยไม่เลือกชาติ ศาสนาหรือชนชั้น เพศ วัย โดยถือว่าทุกคนในโลกใบนี้เป็นคนในครอบครัวเดียวกันเมื่อตกทุกข์ได้ยากก็ต้องช่วยเหลือกัน จะสังเกตเห็นได้ว่าเมื่อมีภัยพิบัติที่ใดในโลกนี้ชาวฉือจี้ก็จะไปช่วยเสมอ โดยจะไปถึงกลุ่มแรกๆ แต่จะกลับเป็นกลุ่มสุดท้าย
ดิฉันโชคดีมากที่มีโอกาสได้ไปดูงานของมูลนิธิพุทธิฉือจี้ในประเทศไต้หวันเมื่อ
เดือนกุมภาพันธ์ 2552 เรียกได้ว่าเป็นธรรมจัดสรร ดิฉันเคยได้ฟังการบรรยายของกลุ่มคนไทยที่ไปฉือจี้ และอ่านบทความที่เขียนเกี่ยวกับฉือจี้ ก็รู้สึกประทับใจนึกอยากจะไปงานที่ประเทศไต้หวัน แค่คิดก็ได้แล้วนี่ตามหลักของเดอะ ซีเดรตก็ว่าได้ และก็ขอขอบคุณผู้บริหารคณะแพทยศาสตร์มา ณ โอกาสนี้ด้วย
ดิฉันได้เก็บเมล็ดพันธ์แห่งความดีงามด้านจิตวิญญาณของชาวฉือจี้มาฝากท่านผู้อ่านทุกท่านค่ะ
เมล็ดแรกการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม การรักษาโลกให้สมบูรณ์ เจอเพชรเม็ดนี้ที่ธนาคารขยะรีไซเคิลซึ่งเป็นที่รวบรวมขยะ คัดแยกขยะ และผลิตเป็นวัตถุรีไซเคิล ซึ่งเป็นการอนุรักษ์ต้นไม้ได้หลายต้นมากๆ นอกจากนี้ยังนี้ยังนำรายได้ไปช่วยงานอื่นๆ อีกมากมาย
การเสียสละอุทิศตนเพื่อส่วนรวม ผู้ที่ทำงานที่นี่ส่วนใหญ่เป็นอาสาสมัครที่สูงอายุ ถึง 80 ปีก็มีแต่ทำงานอย่างมีความสุขและไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย เห็นความกระฉับกระเฉ่ง แม้ว่าวัยจะร่วงโรยไปแล้วก็ตามเคล็ดลับก็คือ การแยกขยะเป็นการปฎิบัติธรรม และรู้สึกว่าตัวเองมีคุณค่าที่ได้ช่วยเหลือโลกใบนี้
ความมีน้ำใจของอาสาสมัครฉือจี้ พวกเราไปถึงก็ลมแรง มีฝนตกเล็กน้อย อาสาสมัครเห็นพวกเราบางคนไม่มีผ้าพันคอ อาสาสมัครฉือจี้ที่นั่นก็แจกผ้าพันคอให้ทุกคน
ความอ่อนน้อมถ่อมตน เป็นภาพที่น่าประทับใจมาก เมื่อเราไปถึงทุกที่เช่นกันเหล่าอาสาสมัคร จะเข้าแถวตบมือและร้องเพลง และไหว้แบบโค้งคำนับอย่างอ่อนน้อมจนเราต้องรีบรับไหว้อย่างอ่อนน้อมเหมือนกัน เพราะล้วนแล้วแต่เป็นผู้สูงวัยทั้งสิ้น
ความละเอียด ประณีต และสวยงาม พวกเราจะสังเกตได้จากอาหารที่จัดไว้เลี้ยงต้อนรับพวกเราทุกที่ จะจัดวางไว้อย่างประณีต สวยงามน่ารับประทานยิ่งนัก บ่งบอกถึงจิตใจของผู้จัดเตรียมที่งดงามมาก
ใบหน้าที่ยิ้มแย้มแจ่มใส เป็นที่น่าแปลใจว่ารอยยิ้มของชาวฉือจี้ทุกคนเป็นรอยยิ้มจากใจที่บริสุทธิ์ผุดผ่อง ยิ้มทั้งใบหน้า และยิ้มทั้งใจเราว่าสยามเมืองยิ้มแล้วนะเจอยิ้มของชาวฉือจี้นี่ต้องยิ้มเพื่อให้เห็นฟันทั้ง 8 ซี่ เลยค่ะ
ความมีระเบียบวินัย น่าชื่นชมตลอดการเดินทางพวกเราสังเกตตั้งแต่การแต่งกายของอาสาสมัคร การเดิน การเข้าแถว การร่วมมือ การนั่ง การยืน การร้องเพลง การไหว้ การต้อนรับ การส่งแขกทำไมจึงเป็นระเบียบเรียบร้อยและสง่างามมากอย่างนี้ช่างฝึกได้ดีและงดงามมาก
ความสมถะและเรียบง่าย ดูจากเสื้อผ้าการแต่งกาย รองเท้า และการรับประทานอาหาร
ชีวิตของภิกษุณีและอาสาสมัครความเป็นอยู่ในสมณาราม พึ่งพาตัวเองไม่เบียดเบียนผู้อื่น
ความหนักแน่นมั่นคงเป็นดั่งขุนเขา เมื่อได้พูดคุยกับชาวฉือจี้แล้วเราจะรู้ว่า การเดินทางของจิตวิญญาณชาวฉือจี้ เดินไปอย่างหนักแน่นมั่นคงไม่ลังเลสงสัย เช่น มุ่งช่วยเหลือผู้ยากไร้ ก็จะทำอย่างสม่ำเสมอ ไม่หยุดยั้ง แม้มีอุปสรรคใดๆ มาขวางกั้นก็ตาม และลงมือทำอย่างจริงจังคงเส้นคงวา เช่น เขาจะดูแลครอบครัวบุญคุณอย่างสม่ำเสมอจนกระทั่งตายจากไป
ความไม่ฟุ่มเฟือย ประหยัด และมัธยัสถ์ ชาวฉือจี้จะตักอาหารแต่พออิ่ม และเมื่อรับประทานข้าวหมดจานแล้วก็จะมีน้ำซุปเ)นรายการสุดท้าย บางรายก็ใส่น้ำในถ้วยแล้วก็ดื่มน้ำจนหมด ถ้าเรากินทิ้ง กินขว้างเขาจะถือว่าเป็นการทิ้งบุญ ความมีเมตตาและกรุณาที่เต็มเปื่อมในหัวใจไม่หวังผลตอบแทน หากเราได้ฟังเรื่องราวที่ชาวฉือจี้ได้ไปช่วยเหลือผู้ยากไร้แล้ว เราเห็นและสัมผัสด้วยใจได้ว่า นี่เป็นความรักที่ปราศจากเงื่อนไขไม่หวังผลตอบแทนใดๆ เป็นความรักที่บริสุทธิ์อย่างแท้จริง ยากจะบรรยายถ้าอยากรู้ต้องลงมือทำเองจึงจะรู้ว่าเป็นอย่างไร
การเคารพในความเป็นมนุษย์ เพชรเม็ดนี้เจอที่คณะแพทยศาสตร์ และโรงพยาบาลจึงเป็นเม็ดที่สำคัญมาก ที่ฉันคิดว่าจะได้นำมาเสริมบุญของฉันให้มากขึ้น สอนให้นักศึกษาแพทย์เคารพอาจารย์ใหญ่ ประดุจยังมีชีวิตโดยให้นักศึกษาแพทย์ได้รู้จักกับครอบครัวของอาจารย์ใหญ่ และเห็นได้จากพิธีการการเคารพศพอาจารย์ใหญ่เมื่อเรียนเสร็จแล้ว จะมีการจัดงานอย่างใหญ่ให้นักศึกษาได้ขอบคุณ และเคารพในความเป็นมนุษย์ของอาจารย์ใหญ่ และมีการเก็บอิฐถิไว้ในผอบคริสตัลที่สวยงามมากไว้ในพิพิธภัณฑ์
นอกจากนี้ในการบริการผู้ป่วย จะมีอาสาสมัครมาช่วยบริการแทบทุกแผนก และมีอาสาสมัครมากมายมาช่วยงานโรงพยาบาล เช่น กวาดขยะ ทำความสะอาด หรือช่วยเหลือผู้ป่วยและทุกคนมีจิตวิญญาณในการให้บริการโดยถือว่าผู้รับบริการเป็นผู้มีบุญคุณ ที่ทำให้เราได้มีโอกาสได้ช่วยเหลือเขา แล้วเรามีความอิ่มอกอิ่มใจ แล้วก็มีความสุขที่ได้ช่วย
ส่วนผู้รับบริการ ก็มีความประทับใจและมีความสุขที่ได้รับบริการที่ดี สุดท้ายเมื่อหายแล้วก็ได้มาสมัครเป็นอาสาสมัครเพื่อช่วยเหลือผู้อื่นต่อไป
ที่โรงพยาบาลแห่งนี้ก็มีอาสาสมัครมา ร้องเพลงและเล่นเบียนโน ให้ผู้ป่วยฟังอย่างมีความสุข
นอกจากนี้เรายังได้เรียนรู้เกี่ยวกับการสอนนักศึกษาให้เป็นผู้มีความละเอียดประณีต และสวยงามจากการจัดดอกไม้ การชงชา และการเขียนพู่กันจีน
ดิฉันได้มีโอกาสไปฝึกจัดดอกไม้ด้วยหลักการจัดดอกไม้ ก็สอนวาทะธรรมไว้หลายอย่างเช่น No give No gain ในการจัดดอกไม้เราจำเป็นต้อง ตัดกิ่ง เด็ดใบ ตัดก้านออกไปเพื่อให้ได้ช่อดอกไม้ที่สวยงามเราจำเป็นต้องมีการเสียละเพื่อให้ได้มาซึ่งสิ่งที่สวยงามเกิดขึ้นในสังคม และในการจัดดอกไม้เราจำเป็นต้อง ให้ความสำคัญกับดอกไม้ทุกดอกใบไม้ทุกใบซึ่งล้วนแต่มีส่วนให้ดอกไม้ช่อนี้งดงาม เช่นกันในการทำงานร่วมกันเพื่อให้เกิดผลของงานที่ดีเราต้องเคารพและให้เกียรติซึ่งกันและกัน และในการปักดอกไม้เราไม่ควรปักลึกเกิน 2 เซนติเมตรเพราะเปรียบเสมือนพื้นดินเราต้องดูแลพื้นดิน เราต้องถนอมโลกใบนี้ให้น่าอยู่ต่อไป ไม่เบียดเบียนสัตว์ด้วยการรับประทานอาหารมังสวีรัด ไม่อยากจะบอกว่าอาหารมังสวีรัดน่ารับประทานและอร่อยมากๆ ดิฉันกลับมาก็ลองงดอาหารเนื้อสัตว์ทุกวันพระก็รู้สึกดีมากเลยค่ะ
การให้ที่ไม่หวังผลตอบแทนเราจะเห็นภาพการให้ของชาวฉือจี้ ที่แปลกคือว่าผู้ให้จะมอบของให้ผู้รับด้วยการประเคนทั้งสองมือแล้วโค้งคำนับมอบอย่างขอบคุณที่ให้เรามีโอกาสได้ทำความดีในครั้งนี้ ข้อนี้สำคัญมาก ที่จะมาประยุกต์ใช้ในการบริการผู้ป่วยถ้าหากบุคลากรทุกในโรงพยาบาลคิดเช่นนี้ คิดดูซิว่าจะมหัศจรรย์แค่ไหน นี่เป็นสุดยอดแห่งวิชาการให้
ตลอดเวลาที่ดิฉันดูงานก็ได้บ่มเพาะเมล็ดพันธ์เหล่านี้มาไว้ในหัวใจของฉันบินข้ามฟ้ามาสู่
มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ด้วยหัวใจที่พองโต ด้วยความรักและความปิติยินดีและรู้สึกขอบคุณทุกๆ คนทุกๆที่ที่มีส่วนให้ดิฉันได้เรียนรู้และบ่มเพาะสิ่งดีๆ ให้เกิดขึ้นในจิตวิญญาณของดิฉัน และพร้อมที่จะแพร่ขยายพันธ์ไปทั่วทุกคนทุกที่ในโลกใบนี้
ขอบคุณพี่โอ๋มากนะคะที่ตามมาให้กำลังใจมาโดยตลอด