สถานีความคิด : เหตุผลของคนติดกาแฟ


ถ้าวันไหนถึงเวลากินกาแฟแล้วไม่ได้กิน มันจะรู้สึกงึกๆ งักๆ จนบอกไม่ถูก ใจสั่นหวิว คิดอะไรแทบไม่ออก จัดระบบความคิดไม่ค่อยได้ แทบไม่มีกะจิตกะใจจะทำอะไรเลย

 

 

 

 

 

ปัจจุบันดูเหมือนว่า “กาแฟ” จะเข้ามามีบทบาทสำคัญต่อชีวิตของคนไทยเรามากขึ้นทุกทีๆ  จากเดิมที่จำกัดวงแคบอยู่แค่ในชุมชนเมืองเท่านั้น แต่ในปัจจุบันมันมิได้เป็นเช่นนั้นอีกต่อไปแล้ว หากแต่มันยังได้ขยายวงกว้างออกไปทั่วทุกแห่ง ไม่เว้นแม้กระทั่งชาวไร่ชาวนาที่อยู่ในพื้นที่ชนบทไกลปืนเที่ยง บางคนถึงขนาดรู้สึกว่า...”ชีวิตฉันขาดเธอ(กาแฟ)ไม่ได้”ไปเลยทีเดียว

ที่ผ่านมา ผมมีโอกาสได้พูดคุยถึงเรื่องการติดกาแฟกับหลายๆ คน เนื่องจากอยากจะทราบสาเหตุที่แท้จริง ซึ่งแต่ละคนต่างก็ให้เหตุผลที่ตนเอง “ติดกาแฟ” ตามที่ตนเองรู้สึก

เพื่อนบ้านคนหนึ่งบอกว่า เมื่อหลายปีก่อน กินกาแฟเฉพาะตอนเช้าวันละถ้วยเท่านั้น พอกินๆไปก็รู้สึกติด เลยเพิ่มเป็นวันละ 2 เวลา จากนั้นก็รู้สึกว่ายังไม่หนำใจ ต่อมาก็เลยเพิ่มเป็นวันละ 3 เวลา คือ  เช้า กลางวัน และก่อนนอน

“ถ้าวันไหนถึงเวลากินกาแฟแล้วไม่ได้กิน มันจะรู้สึกงึกๆ งักๆ จนบอกไม่ถูก ใจสั่นหวิว คิดอะไรแทบไม่ออก จัดระบบความคิดไม่ค่อยได้ แทบไม่มีกะจิตกะใจจะทำอะไรเลย  แต่พอได้กินกาแฟสักถ้วย หรือกินตรงตามเวลา ทุกอย่างก็จะเป็นปกติ สมองโปร่ง ไหลลื่นทีเดียว ไม่ได้กินข้าวไม่เป็นไร ขอให้ได้กินกาแฟสักถ้วยก็พอแล้ว”  เพื่อนบ้านคนนั้นบอก

คนอื่น ๆ ที่ผมสอบถามต่างก็ให้เหตุผลคล้ายๆ กันนี้เหมือนกัน

โดยส่วนตัวของผมเอง  หากวันใดต้องไปทำงานต่างจังหวัดตั้งแต่เช้ามืด ผมก็จะต้มกาแฟไปกินบนรถเหมือนกัน เพื่อช่วยแก้ง่วง  แต่ถ้าวันใดไม่ได้ไปไหน ผมก็ไม่ได้มีความรู้สึกว่าอยากกินกาแฟเลย รู้สึกเฉยๆ ใครชงให้กิน ผมก็บอกปฏิเสธไป ไม่ได้รู้สึกว่าขาดมันไม่ได้  แม้บางช่วงจะอยู่บ้านทั้งสัปดาห์ แต่ผมก็ไม่ได้รู้สึกอยากกินกาแฟแต่อย่างใดเลย ซึ่งก็เป็นแบบนี้มาแล้วหลายปี......แต่ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมผมถึงไม่เป็นเหมือนคนอื่นๆ  เขา

เมื่อผมคิดพิจารณาดูดีๆ อีกที ผมคิดว่า สาเหตุของการติดกาแฟนั้น น่าจะมาจาก 2 สาเหตุ คือ เหตุผลทางด้านร่างกายกับเหตุผลทาง “อุปาทาน(ความยึดมั่นถือมั่น)”

เหตุผลทางด้านร่างกายนั้น น่าจะคล้ายกับการสูบบุหรี่หรือการเสพยาเสพติด ที่เริ่มต้นจากปริมาณเล็กๆน้อยๆ แล้วค่อยเพิ่มปริมาณมากขึ้น เมื่อถึงจุดๆ หนึ่งก็เกิดการเสพติดจนถึงขนาดที่ว่าเลิกหรือหยุดไม่ได้ เนื่องจากร่างกายเคยชินจนทำให้ขาดไม่ได้

ส่วนเหตุผลทางด้าน “อุปาทาน” นั้น น่าจะมาจากสภาพจิตใจที่อ่อนแอของผู้คน ที่คิดไปต่างๆ นานา ไม่กล้าที่จะสลัดทิ้ง  เมื่อถึงจุดๆ หนึ่งก็คิดว่าขาดไม่ได้ มันเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตไปแล้ว ก็เลยทำให้เลิกกินไม่ได้ กลายเป็นคนติดกาแฟไปเสียงั้นแหละ

ตอนที่ผมทำงานอยู่ที่ กทม. ผมสังเกตเห็นเพื่อนคนหนึ่งชอบดื่มหรือกินกาแฟตอนเช้ากับตอนก่อนนอนทุกวัน  

วันหนึ่งผมก็เลยถามว่า ทำไมถึงชอบกินกาแฟตอนเช้า? เพื่อนคนนั้นตอบว่า “จะได้แก้ง่วงและ สมองปลอดโปร่ง” 

พอถึงตอนก่อนจะนอนเขาก็กินกาแฟอีกแก้ว  ผมสงสัย ก็เลยถามว่า จะนอนอยู่แล้ว ทำไมถึงกินกาแฟอยู่อีก? เขาก็ตอบผมว่า “กินก่อนนอนแบบนี้ดีน่ะ ช่วยให้นอนหลับง่ายและหลับสบายดีด้วย”   ทำให้ผมรู้สึกมึนตึ๊บเลยกับเหตุผลที่เขาบอกมา

สุดท้ายผมก็เลยสรุปในใจว่า กาแฟเนี่ย ช่างเป็นยาวิเศษขนานแท้เลย ช่วยได้สารพัดอย่าง แก้ง่วงก็ได้ ทำให้หลับง่ายก็ได้.....  ดีจริงๆ

.................................................................

“ ก๋อย! สัปดาห์หน้าแกว่างไหมว่ะ?” ผมถามน้องที่สนิทกันคนหนึ่งซึ่งมีพฤติกรรมติดกาแฟอย่างหนัก

“ว่างครับพี่ มีอะไร? จะพาผมไปไหนเหรอ?” เจ้าก๋อยถามผมด้วยความสงสัย

“เออ! งั้นเดี๋ยวพี่จะพาแกไปที่ถ้ำกระบอกน่ะ” ผมตอบ

“อ้าว! พาผมไปที่นั่นทำไมละพี่?” ก๋อยถามผมอย่างหน้าตาตื่น

“จะพาแกไปเลิกกาแฟว่ะ เผื่อจะได้ช่วยแกประหยัดสตังค์ได้บ้าง” ผมตอบอย่างยิ้มๆ

“บ้า!  ก๋อยบอกแบบเขินๆ

 

 

 

หมายเลขบันทึก: 443375เขียนเมื่อ 10 มิถุนายน 2011 21:31 น. ()แก้ไขเมื่อ 20 มิถุนายน 2012 15:23 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

ถ้าอย่างคงต้องไปถ้ำกระบอกด้วยอีกคน

ขอบคุณ คุณแสงตะวัน มากๆ ครับ

ที่แวะมาเยี่ยมและให้กำลังใจ

ขออภัยด้วยครับ ที่ตอบช้าไปตั้ง 2 เดือนกว่า คิคิคิ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท