หากว่าในชีวิตที่ดำรงอยู่เราปราศจากการรู้ตัวในลมหายใจ
ว่า...ณ ขณะนี้เรากำลังหายใจเข้า
และ...เรากำลังหายใจออก
ปราศจากการใคร่ครวญในลมหายใจว่า...สภาวะแห่งลมหายใจเราเป็นอย่างไร...
เราจะดำเนินชีวิตไปด้วยความคิดต่างๆ นานาที่กระโดดจากเรื่องหนึ่งไปอีกเรื่องหนึ่ง...อยู่ต่อเนื่องไม่ขาดสาย แต่เราไม่ได้ใช้พลังแห่งความคิดด้วยการใคร่ครวญพิจารณาตามเหตุแห่งปัจจัย
เรา...จึงฟุ้งซ่านและคิดมากซะเป็นส่วนใหญ่
สภาวะเช่นนี้ทำให้เราเต็มไปด้วยความหวาดกลัว ... ความคิดในเช่นนี้มักนำพาเราด้วยเหตุผลที่สวยหรูหรือเหตุผลที่ดีเสมอ แต่เมื่อพิจารณาให้ลึกซึ้งจะพบว่า...เหตุผลดังกล่าว มักครอบเราไว้ไม่ให้ออกจากกรอบที่คุ้นชินหรือเคยปฏิบัติมา
ความหวาดกลัว...มักถูกแสดงออกด้วยความเป็นผู้ที่มีเหตุผลที่ดีเสมอ
เราจึงมักถูกความหวาดกลัวครอบงำให้ดำเนินวิถีชีวิต...ไปเรื่อยๆ จนวาระสุดท้าย
....
บุคคลท่านหนึ่งที่มีจิตอันเบิกบาน
แต่กลับถูกกักขังด้วยระบบการรักษาที่เครือญาติและคนแวดล้อมเชื่อว่านี่คือ วิธีที่ดีที่สุดของการดูแล แต่...นั่นเป็นเพียงการดูแลภายนอก แต่สภาวะภายในอันประกอบไปด้วยจิต-จิตวิญญาณได้ถูกละเลยไป อย่างน่าเสียดายในโอกาส
๓ มิถุนายน พ.ศ.๒๕๕๔
บางครั้งผมก็กลัวความตาย
บางครั้งก็ทำเป็นกล้า
แต่ยังข้ามไปไม่พ้นวนกลับมากลัว
อยู่บ่อยๆ ครับผม
สวัสดีครับ
อาจารย์ได้รับวารสารและหนังสือยังครับ
มีความสุขมาก ๆ นะครับ
ผมกลับมองเห็นว่า ไม่มีใครจะกักขังจิตใจที่เบิกบานได้
มันคนละมิติกันเลยครับ
ผิดพลาดขออภัยครับ