ผมจับความหรือย่อมาจากการประชุม Preconference Workshop ของ AGB 90 เรื่อง Leading Board Committees ตอนบ่ายวันที่ ๓ เม.ย. ๕๔ โดยเขาบอกว่า หลักการในการทำหน้าที่กรรมการย่อยที่ดีมี ๓ ตะกร้า ๑๘ หลักปฏิบัติ
ตะกร้าที่ ๑ โฟกัสหน้าที่ของคณะกรรมการย่อย
หลักปฏิบัติที่ ๑ กำหนดพันธกิจที่ชัดเจนและสั้น
หลักปฏิบัติที่ ๒ เชื่อมโยงพันธกิจเข้ากับแผนยุทธศาสตร์
หลักปฏิบัติที่ ๓ สู่แผนประจำปี
หลักปฏิบัติที่ ๔ กำหนดวาระประชุมที่เป็นประเด็นยุทธศาสตร์
หลักปฏิบัติที่ ๕ แต่ละวาระประชุม ให้โฟกัสที่ข้อสรุปหรือมติ
ตะกร้าที่ ๒ สร้างความสัมพันธ์ในชุมชนกำกับดูแล
หลักปฏิบัติที่ ๖ สร้างความเป็นเพื่อนหรือหุ้นส่วนในกลุ่มกรรมการ
หลักปฏิบัติที่ ๗ ตระหนักว่ามีเส้นเขตแดนของการกำกับดูแล และต้องช่วยกันระมัดระวังไม่ให้ล้ำเส้น
หลักปฏิบัติที่ ๘ ช่วยฝึกฝนซึ่งกันและกัน ให้มีทักษะตั้งคำถามที่ดี
หลักปฏิบัติที่ ๙ วางแผนและซ้อมการนำเสนอต่อ บอร์ด
ตะกร้าที่ ๓ มีหลักการและหลักปฏิบัติในการกำกับดูแลตนเอง
หลักปฏิบัติที่ ๑๐ เขียนข้อกำหนดหลักปฏิบัติที่ดี เช่น “เราไม่ใช่เจ้านาย” “เขาไม่ใช่ลูกน้อง” “ไม่มีผลงานถ้าไม่มา”
หลักปฏิบัติที่ ๑๒ หมุนเวียนการเป็นประธานและการเป็นสมาชิก
หลักปฏิบัติที่ ๑๓ จำนวนสมาชิกพอเหมาะ
หลักปฏิบัติที่ ๑๔ ทบทวนโครงสร้างของกรรมการย่อย
หลักปฏิบัติที่ ๑๕ ประเมิน performance ของกรรมการสภา
หลักปฏิบัติที่ ๑๖ ประเมิน performance ของคณะกรรมการย่อย
หลักปฏิบัติที่ ๑๗ บ่มเพาะผู้นำ เพื่อรับช่วงงานต่อเนื่อง
หลักปฏิบัติที่ ๑๘ สร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับเจ้าหน้าที่ประจำ
การประชุมแบบ workshop มีเสน่ห์ที่รายละเอียดหรือ practical point ที่เราทราบดีว่าการทำหน้าที่กรรมการนั้น ต้องใช้ทั้งศิลป์และศาสตร์ แต่ศิลป์สำคัญกว่าศาสตร์ เพราะในชีวิตจริงจะมีประเด็นขัดแย้งหรือขั้วตรงกันข้ามเกิดขึ้นเสมอ ตัวตัดสินคือบริบท (context) ในขณะนั้น คนที่ยึดมั่นในเป้าหมายและคุณธรรม บวกกับความเข้าใจบริบทอย่างทะลุ จะสามารถทำหน้าที่ได้ดี
การอภิปรายใน workshop เป็นการ ลปรร. ประสบการณ์ ซึ่งแตกต่างหลากหลายมาก เพราะสถาบันอุดมศึกษาของเขาต่างกันมากจริงๆ และคนที่มาร่วมแทบจะไม่มีกรรมการสภาฯ จากมหาวิทยาลัยวิจัยระดับโลก รวมทั้งการทำหน้าที่กรรมการนั้น มีความซับซ้อนมาก workshop นี้ มุ่งให้กรรมการสภาที่ไม่ใช่คนที่คุ้นเคยกับมหาวิทยาลัยนัก เข้าใจบรรยากาศในมหาวิทยาลัย
จากการอภิปรายกันผมเก็บประเด็นมาฝากได้ดังนี้
• กรรมการสภาฯ ไม่ควรมี pet project ของตน เพราะเสี่ยงต่อการมีผลประโยชน์ทับซ้อน
• Donation กับ bribe แตกต่างกัน โดยที่ donation พุ่งเป้าผลประโยชน์ของสังคม และสถาบัน แต่ bribe พุ่งเป้าผลประโยชน์ของบุคคล donation ที่มีเงื่อนไขให้ผลประโยชน์ต่อการดำรงตำแหน่งของบุคคล เป็นกึ่ง bribe และพีงระมัดระวังการรับ
วิจารณ์ พานิช
๔ เม.ย. ๕๔
โรงแรม InterContinental Los Angeles Century City
ไม่มีความเห็น