โลกแห่งสังคม คือโลกแห่งเกมส์
เกมส์ คือ สถานการณ์ที่ต้องมีการแข่งขัน
เพื่อให้เกิด การแพ้ การชนะ
การเล่นจึงจำเป็นต้องมีกลยุทธ์ในการเล่น
มีการกำหนดวิธีกติกาที่เล่น มีคนเล่น
มีเป้าหมายของเกมส์ มีบรรยากาศของการเล่น
เป้าหมายของเกมส์ที่สุดแล้วก็คือ ใบรับรองของ
ผู้มีอำนาจว่า สามารถผ่านด่านของเกมส์เพื่อนำใบรับรอง
นั้นไปทำมาหากิน ตามอำนาจของใบรับรอง
ดังนั้นเป้าหมายของเกมส์จึงไม่ใช่ความสุขระหว่าง
การเล่นเกมส์
เกมการศึกษา แข่งขันเพื่อ อะไรกัน แข่งขันเพื่อที่จะ
เข้าไปสู่คะแนนสูง หรือโค้งปกติด้านหน้า เพื่อจะให้
คะแนนนั้น ๆ ปรากฎแต้มในใบรับรองนั้น
เกมการศึกษาชนิดนี้ แยกผู้ชนะและผู้แพ้ ตามกติกา
จากการวัดประเมิน ซึ่งจะมีผู้ชนะเพียง สิบเปอร์เซ็นต์
จะปล่อยให้คนแพ้ถึงเก้าสิบเปอร์เซ็นต์
กลยุทธ์ของเกมการศึกษานั้นมีอยู่หลายอย่าง ได้แก่
วิธีการตามปกติก็คือ ใช้ความสัมพันธ์ระหว่างตนเองกับ
กรรมการ เพื่อให้แต้มของเกมส์มีคะแนนนำ ใช้การให้
สินบนกับกรรมการ เช่นการเรียนพิเศษมีผลต่อแต้มคะแนน
ยุทธศาสตร์ทางเศรษฐกิจการบำรุงเลี้ยงดี มีผลต่อการเล่นเกม
ความท้าทายต่อเกมนั้นไม่มี ไม่มีการจูงใจ เป็นการแข่งขัน
ที่ไม่มีความสุขระหว่างเล่น เป็นการบังคับให้เล่น
กติกาการเล่นก็คือการปฏิบัติตามกฎของการแข่งขันจากภายนอก
ไม่ได้ตั้งกติกาเล่นเอง ท่าทีต่อกรรมการ จะเป็นผู้คุมกฎการเล่น
ที่จะละเมิดไม่ได้ หน้าที่ของกรรมการสนใจการคุมกฎ มากกว่า
ชีวิตของคนเล่น ความสุขของคนเล่น เมื่อมีคนใดเล่นนอกกติกา
ก็จะถูกลงโทษ กติกานี้ผู้เล่นไม่มีสิทธิ ไม่มีทางเลือกอันใดใน
การเล่นเกมนี้ แม้แต่จะตั้งกติกาใหม่ ๆ
จะว่าไปแล้ว กติกาของเกมการศึกษาที่เล่นกันนี้ ได้ถูกสร้างขึ้น
จากผู้เชี่ยวชาญจากหลาย ๆ แห่งที่ลงลึกกันไปคนละทาง กำหนด
กติกาที่มีความละเอียด และก็ฝึกอบรมกรรมการให้ควบคุมการเล่น
แบบควบคุมให้ละเอียด ต้องทำให้เครียดเหมือนกับกำจัดจุดอ่อน
วันหนึ่งมีผู้ตั้งคำถามกับเกมนี้ว่า ทำไมไม่ให้ผู้เล่นมีส่วนร่วมในการ
กำหนดกติกาและควบคุมเกมเอง ผู้เชีี่ยวชาญการเล่นเกมบอกว่า
ไม่ได้จะต้องเดินตามเกมนี้เป็นเรื่องถูกต้องแล้ว จากความรู้สึก
ประหลาดที่ยิ่งเล่นก็ยิ่งเครียด ทำให้หลายคนก้าวออกจากเกม
ไปสร้างกติกาของเกมใหม่ หาผู้เล่นใหม่ ๆ หลายคนก้าวเข้าสู่
เกมส์ที่เร้าใจกว่า คือร้านเกมส์ การก้าวของเขาไปยังร้านเกมส์
น่าสนใจกว่าเกมการศึกษานั้นมาก อาจเป็นเพราะการตัดสินใจ
ไปให้พ้นจากกรรมการคุมเกมส์ ไปเล่นเกมส์เอง
ส่วนกรรมการทั้งหลาย ก็เป็นผู้เล่นเกมส์ตามกติกานั้นมาและก็
ได้ใบรับรองว่าเล่นเกมส์เสร็จแล้ว เขาจึงได้รับจ้างเป็นกรรมการต่อ
จึงวนเวียนอยู่ในเกมส์นั้น วิธีการง่ายที่สุดสำหรับผู้คุมเกมส์ก็คือ
บอกทางเดินในเกมส์ แล้วทำหน้าที่ส่งต่อไปยังกรรมการคนอื่น ๆ
ไม่มีใครบอกว่า เราสามารถวิพากษ์เกม วิพากษ์คน ได้ เราสามารถ
เปลี่ยนกติกา หรือรูปแบบการเล่นได้ เช่นให้ผู้เล่นเกมคิดได้เอง
เป้าหมายอาจไม่ใช่ใบรับรอง แต่เป็นความสุขจากการเล่นเกม
ดังนั้น เมื่อทราบกลยุทธ์ กลวิธีของเกม เราก็สามารถก้าวข้าม
หรือสร้างกติกาใหม่ ๆ ได้ ปรับวิธีการเล่น เปลียนเป้าหมาย
ก็จะทำให้เกมนี้มันท้าทายได้
บางทีเด็กที่ไปเล่นร้านเกมส์อาจเห็นความท้าทายของกติกาใหม่
วิธีการเล่นใหม่ ๆ จนลืมร้านเกมส์ไปเลยก็ได้
I like the idea of 'learning' as 'challenge'. Learning is a step in winning. Another step is actually 'doing'. Dreaming only works in sleep, doing works when real life. ;-)
ผมเห็นด้วยนะครับ และผมก็ใช้หลากหลายวิธีในการส่งเสริมการเรียนรู้ของสมาชิกครับ
อ่านเรื่องการศึกษาที่ท่านผอ.เชื่อมโยงกับเกมส์แล้วรู้สึกว่าเกมส์การศึกษาในอนาคตอาจจะเร้าใจผู้เรียนได้จริง ถ้าผนวกกับเรียนรู้แล้วฝากธนาคารเป็นการสะสมความรู้เพื่อความสำเร็จตามความถนัดและอาจจะทำให้มีความสุขมากกว่าเกมส์ที่บังคับให้ทุกคนต้องเล่นแม้ไม่ชอบหรือไม่ถนัดก็ต้องเล่นให้จบเกมส์และเมื่อจบเกมส์ผลที่ได้มาคือใบรับรองว่าผ่านเกมส์ แต่จะลึกซึ้งหรือไม่ยังบอกไม่ได้ หากเล่นไม่จบก็ไม่ได้ใบรับรองซึ่งต้องออกมาเล่นเกมส์ทางสังคมที่ยากยิ่งขึ้นจริงหรือเปล่าครับ