ขโมยขึ้นบ้าน


ญาติ ๆ ของคนร้ายเสนอให้เงิน 50,000 บาท เพื่อไม่ให้เอาเรื่อง โดยบอกว่าเดี๋ยวเขาจะไปเจรจากับตำรวจเองโดยต้องให้เงินตำรวจอีกเด้งหนึ่ง แต่ที่บ้านไม่รับเงินบอกว่า ให้เป็นไปตามกฎหมาย

      คิดว่าในบ้านปลอดภัยแล้ว ยังมีขโมยทุบกระจกห้องนอนมาสอยกระเป๋าสะพายไปอีก เหนื่อยที่ต้องไปขึ้นศาลอีกตั้งหลายเดือน โชคดีที่มีเพื่อนบ้านดีและพลเมืองดี ทำให้คนร้ายเข้ารถไม่ทันจึงต้องทิ้งรถไว้ในที่เกิดเหตุ ซึ่งในรถมีใบขับขี่ของคนร้าย ทำให้โดนรวบตัวในวันรุ่งขึ้น

      สงสารไม่อยากเอาเรื่อง แต่กลัวเขากลับมาที่บ้านอีกเพราะรู้ลู่ทาง ยิ่งไปรับเงินเดี๋ยวกลับมาเอาคืน คงไม่คุ้มกับความปลอดภัยของคนในบ้าน งานนี้ต้องขอบคุณพลเมืองดีที่เห็นเหตุการณ์แล้วเดินไปบอกเพื่อนบ้าน สุดท้ายเลยวิ่งตามคนร้ายกันเป็นขบวน แต่ตามไม่ทันเพราะคนร้ายหนีเข้าดงปรือ ซึ่งกว้าง 8 ไร่ จึงต้องล้อมเอาไว้ แล้วเรียกตำรวจกับ อปพร. มาจัดการ แต่ก็คว้าน้ำเหลว

     ตอนดึกตำรวจจึงเอารถมาลากรถคนร้ายไปไว้ที่โรงพัก เสียค่าบริการรถยกไป 800 บาท (ไม่กี่โลเอง) โดยมีพยานตามไปให้ปากคำด้วย งานนี้พยานยืนยันแบบหัวชนฝาว่า เห็นตั้งแต่ตอนงัดแงะและตอนกระโดดลงมาได้และได้พูดคุยกับคนร้ายว่า เป็นคนในบ้านเหรอ แต่คนร้ายไม่คุยด้วย และวิ่งหนีจึงวิ่งไล่ตามกัน

     ช่วงที่ตำรวจตามมาตรวจที่เกิดเหตุ ก็มีคนไปเอารถต้องสงสัยขับออกไป พ่อจึงให้รางวัลนำจับคนร้าย 10,000 บาท ตอนเช้ามีตำรวจท่านหนึ่งตามไปที่บ้านและเอารถกลับมาได้ พวกเราสอบถามคนร้ายว่า ใครมาเอารถไป เขาบอกว่า เขานั่งแท็กซี่มาเอาไป ซึ่งไม่น่าเชื่อว่า เขาจะออกจากที่เกิดเหตุเร็ว เนื่องจากมี อปพร. มาปิดล้อม 20 กว่าคน (คนของน้องชาย) คาดว่า คงเป็นพวกของเขาเพราะรถเป็นของพี่ชาย

     คืนนั้นไปส่งพยานที่บ้านและให้ค่าป่วยการ 600 บาท โดยพ่อบอกว่า เดี๋ยวจะให้ของสมนาคุณเพื่อตอบแทนน้ำใจพยาน (พยานไม่มีโทรศัพท์) พ่ออาจซื้อให้เป็นรางวัล พร้อมเงินสดอีกจำนวนหนึ่ง

     งานนี้มูลค่าทรัพย์สินที่หายรวมมูลค่าสามหมื่นกว่าบาท เพราะเผอิญกดเงินมา เพื่อไปซื้อของที่ห้าง โทรศัพท์ 2 เครื่อง นาฬิกาข้อมือ กุญแจรถคันใหม่ 1 ดอกแบบมีชิพ ค่าเปลี่ยนหมื่นกว่าบาท (เปลี่ยน Distart)  บัตรต่าง  ๆ ซึ่งตำรวจคำนวณเป็นมูลค่าทุกบัตร ราคาทรัพย์สินจึงสูงเพราะผู้เขียนพกบัตรเยอะมาก

      จากเหตุการณ์นี้ตอนนี้เลยไม่กล้านอนบนบ้าน รอให้พ่อทำบ้านใหม่ โดยติดตั้งเหล็กดัดเพิ่มรอบบนบ้าน เว้นหน้าบ้าน (เพราะเดี๋ยวจะเหมือนคุกไป) ตอนนนี้น้องสาวเริ่มรวบรวมเงินแล้ว คาดว่า คงหมดเงินอีกเยอะ และน้องสาวบอกว่า ต่อไปนี้ไม่ให้หลานน้ำผึ้งตามขึ้นไปนอนอีกแล้ว จนกว่าพ่อจะทำบ้านเสร็จ

       เพราะโดยปกติน้ำผึ้งจะขึ้นไปนอนด้วย แต่วันนั้นน้ำผึ้งนอนหลับไปก่อน เลยไม่ได้ตามขึ้นไป หากตามขึ้นไปก็จะไปนั่งเล่นที่เตียงนอน รอป้าอาบน้ำ ไม่อยากคิดเลยว่า หากวันนั้นน้ำผึ้งนั่งอยู่ แล้วคนร้ายหน้ามืดเอาไม้หรือเหล็กแหลมพุ่งเข้ามา (เป็นเหล็กที่ผู้เขียนเอาขึ้นไปวางบนบ้านเพื่อสอยมะม่วง) และโดนน้ำผึ้งจะเกิดอะไรขึ้น น้องสาวจึงโกรธมาก

       พวกเราจึงเอาเรื่อง เพราะเหตุเกิด 2 ทุ่ม แถมมีคนอยู่อีก เขายังกล้าก่อเหตุ พี่สาวและพี่ชายของคนร้ายเสนอเงิน 50,000 บาท เพื่อปิดคดี และต้องจ่ายตำรวจอีกเด้ง ผู้เขียนคิดว่า มันไม่ยุติธรรมสำหรับเขา อยากจะบอกกับเขาว่า เขาควรให้น้องชายสำนึกผิดด้วยตนเอง ไม่ใช่ตามล้างตามเช็ดให้แบบนี้

       เพราะขนาดคดีนี้เขายังไม่ยอมรับเลยว่า เอาเงินและของไป บอกว่า กระเป๋าสะพายขาดจึงทิ้งทรัพย์สิน ซึ่งไม่น่าเป็นไปได้ ผู้เขียนถามว่า ทำไมก่อเหตุ เขาบอกว่าติดหนี้พนันบอล ซึ่งอีกแล้วเหรอ ไม่เคยคิดเลยว่า เงินของฉันจะต้องไปจ่ายให้กับพวกพนันบอล ก็นะ! รอให้เขารับโทษไปบ้างก่อนเพื่อให้สำนึกผิด ตอนไปศาลอาจสงสาร ให้โอกาสเขาอีกก็ได้ต้องดูเหตุการณ์และความประพฤติของเขาก่อน

       วันที่สอบปากคำได้สอบถามคนร้ายว่า ทำไมเลือกบ้านพี่ น้องเขาบอกว่า บ้านดูมืดดี (บนชั้น 2 มีผู้เขียนนอนคนเดียว กว่าจะขึ้นบ้านก็ดึก เลยยังไม่มีใครเปิดไฟ) และดูมีฐานะจึงลงมือก่อเหตุ

 หมายเหตุ : 1. บันทึกเหตุการณ์เพื่อกันลืม  โดยเหตุเกิดวันจันทร์ที่ 4 เมษายน 2554 เวลา 20.00 น.

                     2. จำเลยชื่อนายสมพงษ์ สำนักโนน อายุ 33 ปี พักอาศัยอยู่ที่จังหวัดสมุทรสาคร

                     3. ส่วนพยานชื่อ นายบุญเลี้ยง สารภี เป็นคนศรีสะเกษ ต้องขอชื่นชมพลเมืองดีและเพื่อนบ้านที่ดี

 

หมายเลขบันทึก: 434446เขียนเมื่อ 7 เมษายน 2011 11:52 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 ธันวาคม 2012 13:40 น. ()สัญญาอนุญาต: สงวนสิทธิ์ทุกประการจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (8)

บันทึกเรื่องจริงอันน่าตื่นเต้น

น่าจำเป็นบทเรียน


  • ขอขอบคุณทุกท่านที่แวะมาให้กำลังใจ
  • ผู้เขียนขอแชร์ประสบการณ์ คือ
  • ในการสอบปากคำ ตำรวจที่ต้องการเป่าคดี
  • จะให้ญาติของคนกระทำความผิดมาขอเจรจากับผู้เสียหาย
  • เพื่อชดใช้ค่าเสียหาย โดยตำรวจจะบอกว่า เป็นการบรรเทาโทษให้เขา
  • วันนั้นผู้เขียนกับน้องสาวไม่ต้องการรับเงิน แต่จะให้เขารับโทษจากการกระทำความผิดบ้าง
  • ไม่ใช่ให้พี่น้องตามล้าง ตามเช็ดเพื่อเป่าคดี ผู้เขียนว่า มันไม่ยุติธรรมสำหรับพี่น้อง
  • แต่ก็เข้าใจว่า ญาติใคร ๆ ก็รักและห่วง
  • แต่อยากจะบอกเขาว่า พวกเขาควรให้น้องได้รับบทเรียนบ้าง
  • น้องสาวถามเขาว่า เคยกระทำความผิดไหม ทางญาติอ่ำอึ้งบอกว่า ไม่มี
  • แต่เมื่อวานไป สน.บางขุนเทียนเพื่อลงชื่อในคำกล่าวหา ตำรวจบอกว่า เขามีคดีลักทรัพย์อีกคดี
  • ผู้เขียนถามตำรวจว่า วันนั้นถ้ารับเงินเขาก็หลุดไม่มีคดี ใช่ไหม ตำรวจบอกว่า ใช่
  • อ้าว! มิน่าตำรวจอ่ำอึ้ง ต้องการปิดคดีนี่เอง
  • มีคนที่ทำงานที่ศาลเรียกกรณีแบบนี้ว่า การเป่าคดี
  • พ่อบอกว่า ตอนนี้ต้องการให้เขารับโทษ แต่อนาคตอาจยอมรับการชดใช้ค่าเสียหาย
  • เพื่อผ่อนโทษให้เขาบ้าง คือ พวกเราก็สงสารเพราะเป็นมนุษย์คนหนึ่งซึ่งอาจหลงผิดไปได้บ้าง
  • แต่เขาต้องรับโทษบ้าง เพื่อให้สำนึกผิด
  • ก็ไม่รู้ว่า พวกเราคิดผิดหรือผิดถูก กับการที่เราจะให้อภัยเขาบ้าง
  • ตำรวจถามเขาว่า โกรธผู้เขียนที่เอาเรื่องไหม เขาบอกว่า ไม่
  • น้องสาวบอกว่า แล้วใครเขาจะบอก ต่อไปนี้ คือ พวกเราต้องระวังตัวให้มากขึ้นกว่าเดิมเท่านั้น

 

  • เมื่อวานซื้อแบรนด์รังนกไปให้ตำรวจชุดที่ทำคดี ราคาเกือบ 1,000 บาท
  • เงินสด 10,000 บาท ที่พ่อให้รางวัลนำจับกับตำรวจ
  • หากไปเอารถที่ก่อเหตุคืนมาได้ และเอาคนกระทำความผิดมารับโทษ
  • ผู้เขียนขอชื่นชมตำรวจท่านนี้ ที่ตามไปเอารถที่นำมากระทำความผิดคืน
  • คือ ร.ต.ท.กิตติศักดิ์ บุญเสริมศักดิ์
  • ส่วนท่านนี้เป็นเจ้าของคดี คือ ผู้กองภมร โพธิ์ขาว

มาเป็นกำลังใจให้ค่ะ..เข้าใจและเห็นใจผู้ที่เจอกับเหตุการณ์แบบนี้..ขอบคุณที่นำมาแบ่งปันประสบการณ์..เป็นกำลังใจให้อีกครั้งค่ะ...

  • ขอบคุณค่ะ
  • จากเหตุการณ์นี้ทำให้เห็นว่า มีตำรวจไฟแรงและน่าชื่นชมอยู่อีก 1 ท่าน
  • คือ ร.ต.ท.กิตติศักดิ์ บุญเสริมศักดิ์
  • ซึ่งในวันรุ่งขึ้นขับรถไปส่งภรรยาและลูกเสร็จ ก็ตีรถไปบ้านของคนร้าย
  • จึงเห็นว่า รถคันก่อเหตุยังอยู่ที่บ้าน จึงประสานกับตำรวจท้องที่
  • และโทร.มาที่ สน.บางขุนเทียน ขอหมายจับ เพื่อยึดรถกลับมาไว้ที่โรงพัก
  • ขณะนั้นผู้เขียนและน้องสาวก็อยู่ที่ สน.บางขุนเทียน ผู้กองภมร ยังชวนน้องสาวไปด้วย
  • น้องสาวบอกว่า ถ้าเขายิงกัน ฉันไม่ตายเหรอ ผู้กองบอกว่า เออจริง
  • สักพัก ญาติพี่น้องของคนกระทำความผิดพาน้องมามอบตัว
  • ผู้กองภมร จึงโทร.บอก หมวดฮุ่ย (ร.ต.ท.กิตติศักดิ์ บุญเสริมศักดิ์) กลับ
  • บอกว่า เขามามอบตัวแล้ว เดี๋ยวให้คนที่บ้านของเขาขับรถมาที่โรงพัก
  • เมื่อวานไป สน.บางขุนเทียน รถที่ยึดไว้ ไม่อยู่
  • ถามผู้กองภมรบอกว่า เอาไปฝากที่บ้านรองผู้กำกับฯ เพราะกลัวหาย
  • กรณีนี้ไม่แน่ใจว่า สน. บางขุนเทียน ปฏิบัติต่อรถของกลางแบบนี้ได้ด้วยเหรอ
  • งง!
  • เมื่อวานทำบุญกระดูกบรรพบุรุษ
  • ญาติ ๆ จึงเดินดูรอบบ้าน
  • ปรากฏว่า บนระเบียงบ้านมีรอยเท้าคน บนผนังกำแหง โดยเฉพาะห้องน้ำ
  • มีร่องรอยคนปีน คือ มีรอยฝ่ามือดำ ๆ (บ้านทาสีขาว) เต็มเลย
  • วันนั้นผู้เขียนกำลังอาบน้ำด้วย ญาติ ๆ แซวว่า โดนถ่ายคลิปบ้างหรือเปล่า
  • นั่นสิ! เพราะวันนั้นหน้าต่างห้องน้ำด้านบนเปิด 1 บาน
  • ตอนนี้เวลาจะอาบน้ำ ต้องแหงนขึ้นไปมอง
  • ช่วงนี้ชีวิตหลอนมาก จะทำอะไรก็พยายามล็อกบ้านตลอด
  • ไม่เว้นแม้แต่ตอนกลางวัน พวกเราทุกคนในบ้านกลัวกันหมด
  • ผู้เขียนซื้อต้นโกสนมาปลูกหน้าบ้านก็โดนพ่อบ่นว่า รก
  • โอ๊ย! วิตกจริตกันไปหมดเลย
  • เมื่อวานไปโรงพักบอกกับตำรวจว่า มีเพื่อนบ้านเห็นคนกระโดดลงหน้าบ้าน 1 คน
  • หลังบ้าน 1 คน เราก็ไม่ได้ถามว่า เขามากี่คน
  • ผู้กองภมรฯ บอกว่า จับได้คนเดียวก็เอาเท่านี้ล่ะ
  • เฮ้อ! ตำรวจไทย จงเจริญ

เข้ามาขอบคุณ คุณน้ำผึ้งสีชมพู นะครับ

ที่กรุณาเข้าไปให้กำลังใจ ลูกชาย

คราวที่ถูกรถชน

...

อ่านบันทึกนี้แล้วใจหายเช่นกัน นะครับ

ตอนนี้ ไม่ทราบ คดีความเป็นอย่างไรบ้างนะครับ

สิ่งที่โชคดีที่สุดคือความปลอดภัยของหลานน้ำผึ้งนะครับ

เป็นกำลังใจให้ในการสร้างสิ่งที่เห้นว่าปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน นะครับ

  • ขอบคุณค่ะ
  • ตอนนี้รอขึ้นศาลค่ะ
  • คือ ไม่ยอมความ
  • ทราบมาว่า ขโมยมีคดีติดตัวอยู่ 9 คดี
  • น่ากลัวมาก ตำรวจบอกว่า มีอยู่คดีเขาสู้คดีหมดเงินไปเป็นแสนแล้ว
  • พอมาคดีนี้ เขาเลยเกรงใจพี่น้องไม่ให้ประกันตัว
  • คือ คดีนี้มีพยานและหลักฐานพร้อมค่ะ
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท