"เธอ"ชื่อเฮียะวัยไม่กำดัด..๗๒ปี...เธอบอก(แต่แลดูเหมือนอายุยี่สิบเจ็ดจริงๆ)"เธอ"ก้มๆเงยๆอยู่ในดงมะลิ...ที่ยังคงสภาพเหมือนเมื่อหกสิบปีที่แล้ว...ทั้งที่รอบนอกเป็นป่าเมืองไปแล้ว...คูน้ำรอบคันสวนมะลิมีเรือพลาสติคเก่าๆลอยอยู่...น้ำที่เริ่มจะมีกลิ่นไม่สู้ดีคงจะเป็นที่โคลนเริ่มเน่าไปตามสภาพเพราะจุลินทรีย์ในดินคงจะเหนื่อยล้ากับการทำงานเต็มทนกับการทำหน้าที่ของมัน..หล่อนแอบคิด...
ยายเฮียะมีรายได้จากการเก็บมะลิขายวันละห้าถึงหกพันบาทเมื่อหล่อนถามถึง..หล่อนนึกไปถึงเงินเดือนกรรมกรโรงงานซึ่งจะต้องขายแรงงานต่อเดือนเพื่อได้เงินจำนวนนี้มาเพื่อยังชีพ...หล่อนถามต่อด้วยความอยากรู้อยากยิน...แล้วเงินรายได้เนียะเอาไปทำอะไร.."เธอ" ตอบสั้นๆ..เลี้ยงหลาน..บางคนจบปริญญาโทไปแล้ว...เธอพูดเรื่อยๆจากคำถามที่พรั่งพรูออกจากปากเจ้าหล่อน....
.."เหนื่อยแล้วซินะ"...เป็นคำถาม..ที่.."เธอ"เอ่ยเมื่อได้ยินเสียงคำบอกลาจากหล่อน...หล่อนวางโพงน้ำที่รดต้นมะลิ..และละจากสิ่งที่ทำด้วยความเต็มใจ.เช้าวันนี้..."หล่อน"ตอบ"คำถาม"ด้วยเสียงอู้อี้ในลำคอ...ถึงคำว่า"เหนื่อย"..ว่ามันไม่ใช่...หากแต่ว่า.....
.....ท่านผู้อ่านที่รัก...ท่านไปคิดกันเอาเองแล้วกัน..ว่า"หล่อน"คิดอะไร............
สวัสดีค่ะคุณมะเดื่อ..เข้าใจคิดจัง...อิอิ....ยายธีเจ้าค่ะ..อ้ะๆๆๆ
สวัสดีค่ะ คุณยายธี
...หากแต่ว่า มีความสุขที่ได้ทำ...ค่ะคุณยายธี
สวัสดีค่ะ..คุณน้ำชา...นี่ก็เป็นอีกมุมหนึ่งของความคิด...ขอบคุณค่ะ (แทนหล่อน)..ยายธี
สวัสดีครับ คนที่ทำแบบนี้ได้ น่าจะมีความสุขนะครับ