เรื่องเล่าระหว่างวันที่ ๒๑ - ๒๕ มีนาคม ๒๕๕๔


 
  
๒๖   มีนาคม   ๒๕๕๔

เรียน เพื่อนครู ผู้บริหารและผู้อ่านที่เคารพรักทุกท่าน

วันจันทร์ที่ ๒๑  มีนาคม  ๒๕๕๔  ภาคเช้านั่งทำงานเอกสารที่ห้องชั้น ๓ ดูข้อมูล O-NET ของ สพท.ปทุมธานี เขต ๑ ปีนี้ปรากฏว่าคะแนนต่ำลงในบางกลุ่มสาระและสูงขึ้นในบางกลุ่มสาระเมื่อเทียบกับปีกลาย กล่าวคือ ระดับชั้น ป.๖ กลุ่มสาระภาษาไทย ปี ๒๕๕๒ ได้ค่าเฉลี่ย ๓๖.๑๐  ปี ๒๕๕๓ ได้ ๒๘.๔๕  กลุ่มสาระคณิตศาสตร์ ปี ๒๕๕๒ ได้ค่าเฉลี่ย ๓๐.๒๒ ปี ๒๕๕๓ ได้ ๓๐.๕๙ กลุ่มสาระวิทยาศาสตร์ ปี ๒๕๕๒ ได้ค่าเฉลี่ย ๓๔.๘๐ ปี ๒๕๕๓ ได้ ๓๗.๘๔ กลุ่มสาระสังคมศึกษาฯ ปี ๒๕๕๒ ได้ค่าเฉลี่ย ๓๑.๔๐ ปี ๒๕๕๓ ได้ ๔๖.๐๓ กลุ่มสาระภาษาอังกฤษ ปี ๒๕๕๒ ได้ค่าเฉลี่ย ๒๕.๔๗ ปี ๒๕๕๓ ได้ ๑๕.๑๑  ค่าเฉลี่ยรวมเท่ากันทั้ง ๒ ปี คือ ๓๑.๖๐ ในชั้น ม.๓ ปรากฏว่า กลุ่มสาระภาษาไทย ปี ๒๕๕๒ ได้ค่าเฉลี่ย ๓๕.๘๗  ปี ๒๕๕๓ ได้ ๔๒.๙๓  กลุ่มสาระคณิตศาสตร์ ปี ๒๕๕๒ ได้ค่าเฉลี่ย ๒๕.๘๓ ปี ๒๕๕๓ ได้ ๒๔.๙๑ กลุ่มสาระวิทยาศาสตร์ ปี ๒๕๕๒ ได้ค่าเฉลี่ย ๒๘.๘๔ ปี ๒๕๕๓ ได้ ๒๙.๔๗ กลุ่มสาระสังคมศึกษาฯ ปี ๒๕๕๒ ได้ค่าเฉลี่ย ๓๙.๖๓ ปี ๒๕๕๓ ได้ ๔๒.๕๔ กลุ่มสาระภาษาอังกฤษ ปี ๒๕๕๒ ได้ค่าเฉลี่ย ๒๑.๖๓ ปี ๒๕๕๓ ได้ ๑๕.๘๖  ค่าเฉลี่ยรวม ปี ๒๕๕๒  คือ ๓๐.๓๖ ปี ๒๕๕๓ ได้ ๓๑.๑๔   กลุ่มสาระภาษาอังกฤษลดลงมากทั้งสองระดับ ในระดับชั้น ม.๖ ผลประเมินยังไม่ออกมา  บ่ายเดินทางไป สวทช.ติดกับมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต เพื่อมอบประกาศนียบัตรให้นักเรียนที่จบการศึกษาชั้น ป.๖ จากโรงเรียนประถมศึกษาธรรมศาสตร์ที่ห้องประชุมออริทอเรียม โรงเรียนเชิญผู้ปกครองมาร่วมเป็นสักขีพยานด้วย ประธานต้องขึ้นนั่งบนเวทีแบบเดียวกับการมอบปริญญาบัตร ผู้สำเร็จการศึกษาเข้าแถวรับเรียงคนไปจนหมด ได้กล่าวให้โอวาทตามสมควร มีการแสดงของนักเรียนให้ชมอีก ๒-๓ ชุด จึงเสร็จพิธีเดินทางกลับ ทำงานเอกสารจนเย็นมีสมาชิกมาสังสรรค์กันที่สโมสรอยู่ด้วยจนหนึ่งทุ่มเดินทางกลับที่พัก

วันอังคารที่ ๒๒ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๕๔  เช้านี้ไปโรงเรียนคลองบ้านพร้าว ถนนเชียงราก-บางปะหัน เพื่อเปิดการประชุมเชิงปฏิบัติการพัฒนาคุณภาพเเละมาตรฐานการศึกษาเพื่อการประกันคุณภาพภายในสถานศึกษา ของกลุ่มนิเทศฯ เขาเชิญผู้บริหารโรงเรียนมาฟังปรากฎว่าแต่ละโรงเรียนให้ครูมาช่วยฟังด้วยจนล้นห้องประชุม ต้องให้ไปนั่งในห้องเรียนดูทางทีวีวงจรปิด แต่ก็มีบางโรงเรียนที่ผู้บริหารเขาเก่งแล้วจึงส่งเฉพาะลูกน้องมาฟัง เมื่อถึงเวลาประเมินรอบที่ ๓ ของ สมศ. อาจมีปัญหาในทางปฏิบัติได้ หลังพิธีเปิด ผอ.สำเริง ทองมอญพาเดินชมห้องเรียนห้องประกอบจากชั้น ๑ ไปชั้น ๒ ชั้น ๓ ซึ่งเป็นห้องสอบปลายภาคของนักเรียนทั้งระดับประถมศึกษาและมัธยมศึกษา โรงเรียนคลองบ้านพร้าว เป็นโรงเรียนขยายโอกาสที่มีความพร้อมทั้งอาคารสถานที่ อุปกรณ์ เทคโนโลยี ที่สำคัญคือตัวครู อนาคตอาจเปิดสอนเต็มรูปของการศึกษาขั้นพื้นฐาน คือสอนจนจบ ม.ปลาย กลับสำนักงานทำงานแฟ้มเอกสารจนเที่ยง 

 

บ่ายลงไปประชุมคณะกรรมการดำเนินงานโครงการพัฒนาผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษาในระดับเขตพื้นที่การศึกษาตามหลักสูตรการเสริมสร้างคุณธรรม จริยธรรมและจรรยาบรรณของผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษาคุรุสภา เป็นโครงการที่จะพาครู ๒๐๐ คน ทุกสังกัดเข้าอบรมในศูนย์อบรมประจำเขต ซึ่งต้องอาศัยวัดในพระพุทธศาสนาเป็นแกนในการอบรม คณะกรรมการดำเนินงานจึงมาจากทุกสังกัดที่มีโรงเรียนตั้งอยู่ในเขตอำเภอเมือง อำเภอคลองหลวง อำเภอลาดหลุมแก้ว และอำเภอสามโคก ในที่สุดได้ข้อยุติเรื่องสถานที่อบรมใช้ World Peace Valley เขาใหญ่เพราะมีความพร้อมทั้งสถานที่ อุปกรณ์และบุคลากรให้การอบรม ที่สำคัญผู้เข้ารับการอบรมจะมีสมาธิดีกว่าจัดในพื้นที่ใกล้บ้าน ช่วงเวลาที่จัดประมาณต้นเดือนพฤษภาคม ๒๕๕๔ เย็นไปร้านอาหารสมหวังไก่ย่าง ย่านบางพูนตามคำชวนของครูโรงเรียนขจรทรัพย์อำรุง เพื่อแสดงความยินดีในโอกาสที่ได้เลื่อนวิทยฐานะเป็นชำนาญการพิเศษ นาน ๆ จะได้ออกมาฟังระบบเครื่องเสียงภายนอกสักครั้งทำให้ทราบว่า ที่สโมสรดีกว่ากันมาก โดยเฉพาะระบบการค้นหาเพลง ระบบที่ร้านใช้เวลานานมากในการค้นหา ทำให้เสียเงินฟรีเพราะเขาคิดเป็นรายชั่วโมง ประมาณหนึ่งทุ่มเดินทางกลับที่พัก

วันพุธที่ ๒๓ มีนาคม ๒๕๕๔ เช้านัดประชุมข้าราชการในกลุ่มส่งเสริมการจัดการศึกษาไว้เพราะมีปัญหาเรื่องการแบ่งงาน มีผู้ร้องทุกข์ว่าได้รับความเดือดร้อนไม่เป็นธรรม ตนเองรับงานหนักเกินไป จึงนัดประชุมเรียกงานมาดูความหนักเบาของแต่ละคน ส่วนใหญ่พอใจกับงานที่ตนเองรับผิดชอบอยู่เดิม ที่เป็นปัญหาคืองานของคนที่ย้ายไปเขตมัธยมแล้วนำมาแบ่งเพิ่มเติม จึงให้ท่านรองฯ มานะ พุ่มบัว เขียนรายการงานเหล่านี้ออกเป็น ๕ กลุ่มเท่า ๆ กัน ให้จับฉลากเพื่อจัดลำดับเลือกก่อนหลัง ในที่สุดทุกคนก็พอใจ ให้กลับไปทำงานตามปกติ เวลา ๑๐.๐๐ น. ลงไปห้องประชุมเล็ก ความจริงก็เหลืออยู่ห้องเดียว ห้องใหญ่ถูกจัดเป็นที่ทำงานของศึกษานิเทศก์ไปแล้ว ประชุมคณะกรรมการกลั่นกรองการเลื่อนเงินเดือนครั้งที่ ๑ ปีงบประมาณ ๒๕๕๔ พิจารณาผู้บริหารสถานศึกษาและข้าราชการในสำนักงานทั้งข้าราชการครูในระบบวิทยฐานะและบุคลากรทางการศึกษาตามมาตรา ๓๘.ค(๒) ได้จำนวน ได้โควตาก็เป็นอันเสร็จ สำหรับผู้บริหารสถานศึกษาให้ท่านรองฯที่กำกับดูแลประเมินและลงความเห็นเรียงลำดับมาให้ดูเพื่อประกอบการพิจารณา เสร็จจากประชุมชุดแรกต่อด้วยกรรมการกลั่นกรองข้าราชการครูสายงานการสอน มีกรรมการตัวแทน อ.ก.ค.ศ.เขต เข้าประชุมด้วย ๒ ท่าน เป็นการจัดโควตาที่เป็นจุดทศนิยมให้โรงเรียนต่าง ๆ ปีนี้ถือหลักโรงเรียนไหนมีเศษตั้งแต่ ๐.๖ ขึ้นไปปัดเป็น ๑ เสมอหน้ากัน ที่เหลืออีก ๓ จัดให้โรงเรียนขนาดเล็กไป สรุปแล้วปีนี้จะมีโรงเรียนขนาดเล็กเพียง ๑ แห่งที่ไม่ได้โควตาเลื่อน ๑ ขั้น   บ่ายไปห้องประชุมตำรวจภูธรจังหวัดปทุมธานีเพื่อประชุมคณะกรรมการตรวจสอบและติดตามการบริหารงานตำรวจจังหวัดปทุมธานี ( กต.ตร.) ซึ่งได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้ทรงคุณวุฒิด้านการศึกษา มีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธานกรรมการ  ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดและอัยการจังหวัด เป็นรองประธานกรรมการ พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด เป็นกรรมการ นายก อบจ. เป็นกรรมการ ผู้บังคับการกองบังคับการอำนวยการ ตำรวจภูธรภาคเป็นกรรมการ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด เป็นกรรมการ และตำรวจหน่วยตรวจคนเข้าเมือง ตำรวจท่องเที่ยว ตำรวจทางหลวง ตำรวจน้ำ ซึ่งปฏิบัติงานในจังหวัด เป็นกรรมการ ผู้ทรงคุณวุฒิ ๗ ด้าน คือด้านศาสนาหรือวัฒนธรรม นายรัศมี ดำชะไว มัสยิดลำสนุ่น ด้านการแพทย์หรือสธารณสุข นายแพทย์ทรงพล ชวาลพันพิพัทธ์ ผอ.รพ.ปทุมธานี ด้านท่องเที่ยวธุรกิจ นายอรรจน์ สีหะอำไพ ด้านพานิชยกรรม นายพล พิสิษฐเกษม ด้านองค์กรเอกชนสาธารณประโยชน์ นายปกรณ์พัฒน์ เทพเอื้อตระกูล ด้านเกษตรกรรม นายโกศล ลิขิตลัคนา ตัวแทนประชาชน ๓ คน เป็นกรรมการได้แก่ นายสัญญา จิวะจำเริญ  สิบเอกสุจิระ ขอจิตต์เมตต์ และนายวิชาญ เลิศหิรัญเจริญ  คณะกรรมการมีหน้าที่ให้คำปรึกษา ตรวจสอบติดตามผลการทำงานของตำรวจในเขตจังหวัด  การประชุมวันนี้เป็นครั้งแรกจึงได้แนะนำตัวให้รู้จักกัน  มีปัญหาการปฏิบัติงานที่หยิบยกขึ้นมาถกกัน ๒-๓ เรื่อง รวมทั้งปัญหานักเรียนนักศึกษายกพวกตีกันและการเสพสารเสพติด  เลิกประชุมกลับสำนักงานทำงานเอกสารต่อจนเย็น

วันพฤหัสบดีที่ ๒๔ มีนาคม ๒๕๕๔  เช้าเดินทางไปโรงเรียนคลองหนึ่ง(แก้วนิมิตร) เพื่อเป็นประธานมอบประกาศนียบัตรให้นักเรียนที่สำเร็จการศึกษาระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๓ ตามคำเชิญของผู้อำนวยการโรงเรียน โรงเรียนนี้ตั้งอยู่ในชุมชนมุสลิม นักเรียนร้อยละ ๙๕ เป็นมุสลิม หากผู้บริหารและครูไม่เข้าใจวัฒนธรรมประเพณีก็เกิดความขัดแย้งขึ้นได้ แต่หากเข้าใจเข้าถึงก็จะเกิดการพัฒนาที่รุดหน้าไปได้ เคยมาครั้งก่อนมีอาคารเรียนที่ผู้รับเหมาทิ้งงานไว้ มาวันนี้ อบจ.ปทุมธานี จัดงบประมาณก่อสร้างจนแล้วเสร็จในวงเงิน ๑๒ ล้านบาท สามารถใช้ประโยชน์ได้แล้ว พิธีจัดในหอประชุมของโรงเรียน ประธานต้องขึ้นไปนั่งมอบแบบเดียวกับที่โรงเรียนประถมศึกษาธรรมศาสตร์ แต่ที่นี่ให้นักเรียนแต่งครุยจำลอง ตอนจะจบผู้อำนวยการโรงเรียนไปนำครุยคณะศึกษาศาสตร์ระดับปริญญาโท ของ มศว ประสานมิตร มาให้ใส่เพื่อร่วมถ่ายภาพกับนักเรียนและแขกผู้มีเกียรติ ก่อนจบพิธีนายชาญ  พวงเพ็ชร นายก อบจ.ปทุมธานี เดินทางมาถึง ผมมอบเกียรติบัตรให้เป็นการขอบคุณที่อนุเคราะห์โรงเรียน หลังการปราศรัยของท่านนายก อบจ. ผมขอตัวกลับสำนักงาน คณะครูนำข้าวมันไก่และซุปหางวัวมาใส่รถเพื่อไปทานที่เขต  บ่ายนั่งทำงานเอกสารเกี่ยวกับงบประมาณ และความดีความชอบจนเย็น

วันศุกร์ที่ ๒๕ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๕๔ ถึงสำนักงาน ๖ โมงเช้า คณะพร้อมอยู่แล้วประกอบด้วยท่านรองฯ วิรัช ฐิติรัตนมงคล ท่านรองฯ สมมาตร ชิตญาติ ท่านรองฯ มนตรี พรหมลาวัณย์ และคุณวิภาวรรณ พึ่งโยธิน ประชาสัมพันธ์เขต พวกเราแต่งกายด้วยชุดปกติขาว เพื่อรับเสด็จสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ที่หอประชุมแห่งชาติสิริกิตติ์ เนื่องในวโรกาสที่เสด็จมาเปิดงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ การจราจรบนทางด่วนวันนี้นับว่ามีความคล่องตัว ไม่เหมือนเช้าวันจันทร์ที่มักจะติดจนขยับตัวไม่ได้  ไปลงถนนพระราม ๔ ตรงไปเลี้ยวซ้ายแยกคลองเตยก็ถึงที่หมาย เส้นทางที่สะดวกที่สุดในการไปหอประชุมแห่งนี้ คือ รถไฟฟ้าใต้ดิน มีสถานีด้านหน้าพอดี ไม่เคยใช้บริการฟังแต่เขาเล่าว่า ถึงเช้าก็สะดวกไปรายงานตัวรับเอกสาร รับป้ายแสดงตนว่าเป็นผู้รับเสด็จ ขึ้นไปทานกาแฟที่ห้องรับรอง ใครอยากทานข้าวก็มีข้าวกล่องสำเร็จรูปให้เลือก เข้าไปนั่งในหอประชุมด้านหน้าซึ่งถูกจัดเป็นพิธีเปิด เห็นผู้ใหญ่หลายท่านซึ่งเคยมีตำแหน่งใหญ่โตในกระทรวงศึกษาธิการ ได้รับเชิญมาร่วมงานครั้งนี้ด้วย แต่ไม่มีโอกาสไปทักทาย ด้วยที่นั่งอยู่ตอนกลางจะเดินวุ่นวายในที่อย่างนี้ดูจะไม่งาม เวลา ๐๘.๔๕ น. เสด็จถึงห้องประชุม หมอเกษม นายแพทย์เกษม วัฒนชัย องคมนตรี กล่าวรายงานและเบิกตัว ดร.สมเกียรติ  ชอบผล รองเลขาธิการ กพฐ. ดำเนินการอ่านรายชื่อผลการประกวดหนังสือปีนี้และเบิกตัวบุคลเข้ารับรางวัล  ทรงมีพระราชดำรัสตอบ จากนั้นเสด็จพระราชดำเนินเยี่ยมชมบริเวณงานตามพระราชอัธยาศัย พวกเราก็เดินดูร้านหนังสือที่มีออกร้านมากมาย ได้หนังสือถูกใจ ๕-๖ เล่ม ลงไปทานข้าวที่ห้องอาหารแล้วเดินทางกลับสำนักงานถึงเที่ยงพอดี  บ่ายนั่งทำงานแฟ้มเอกสารและเตรียมการจัดอบรมหลักสูตร “กรรมการสอบสวนวินัยอย่างร้ายแรง”(ตามหลักสูตรของ ก.ค.ศ.) ซึ่งเลขาธิการ กพฐ. มีคำสั่งให้รับผิดชอบในฐานะรองประธานคนที่หนึ่ง จะต้องไปจัดอบรมจำนวน ๘ รุ่น รุ่น ๑ กลุ่มนิติกร วันอาทิตย์ที่ ๒๗ มีนาคม – วันพุธที่ ๖ เมษายน ๒๕๕๔ จัดที่สีดารีสอร์ท จังหวัดนครนายก รุ่นที่ ๒ กลุ่มผู้บริหารโรงเรียน  วันจันทร์ที่ ๑๘ – วันพฤหัสบดีที่ ๒๘ เมษายน ๒๕๕๔ จัดที่สีดารีสอร์ท จังหวัดนครนายก รุ่นที่ ๓ กลุ่มรอง ผอ.สพท. วันจันทร์ที่ ๒ – วันพฤหัสบดีที่ ๑๒ พฤษภาคม ๒๕๕๔ โรงแรมริเวอร์ไซด์ กรุงเทพฯ รุ่นที่ ๔ กลุ่มรอง ผอ.สพท. วันพุธที่ ๑๘ –วันเสาร์ที่ ๒๘ พฤษภาคม ๒๕๕๔ โรงแรมริเวอร์ไซด์ กรุงเทพฯ กลุ่มที่ ๕ ผู้บริหารสถานศึกษา วันพฤหัสบดีที่ ๒ – วันอาทิตย์ที่ ๑๒ มิถุนายน ๒๕๕๔ โรงแรมริเวอร์ไซด์ กรุงเทพฯ กลุ่มที่ ๖ ผอ.กลุ่มบริหารงานบุคคล วันพฤหัสบดีที่ ๑๖-วันอาทิตย์ที่ ๒๖ มิถุนายน ๒๕๕๔ สีดารีสอร์ท จังหวัดนครนายก  กลุ่มที่ ๗ ผอ.กลุ่มบริหารงานบุคคล วันเสาร์ที่ ๒-วันอังคารที่ ๑๒ กรกฎาคม ๒๕๕๔ โรงแรมอเล็กซานเดอร์ กรุงเทพฯ รุ่นที่ ๘ กลุ่มผู้บริหารสถานศึกษา วันพุธที่ ๒๐ – วันเสาร์ที่ ๓๐ กรกฎาคม ๒๕๕๔  โรงแรมริเวอร์ไซด์ กรุงเทพฯ  จำเป็นต้องจัดเวลาทำงานที่เขตและการอบรมตามที่ได้รับมอบหมาย และการเรียนของตัวเองให้ลงตัว บกพร่องส่วนใดส่วนหนึ่งไม่ได้  กลับถึงที่พักก่อนพระอาทิตย์ตกดิน 

การปฏิรูป : ภาระอันยากแค้นแสนเข็ญ การเรียกร้องให้มีการปฏิรูปหรือเปลี่ยนแปลงนั้น มิเพียงแต่จะยากเย็นแสนเข็ญเท่านั้น  ในบางครั้งยังต้องเอาชีวิตเข้าเสี่ยงกับภยันตรายนานาประการอีกด้วย แต่นักปรัชญาอย่างหานเฟยและแมคเคียเวลลีต่างก็เป็นนักคิดที่ยอมเสี่ยงชีวิตสนับสนุนให้มีการปฏิรูปเปลี่ยนแปลงโครงสร้างต่าง ๆ ในสังคมเสมอ  นักคิดทั้งสองนี้พยายามเรียกร้องอยู่ตลอดเวลา ให้มีการทบทวนระบบการครองอำนาจอย่างเบ็ดเสร็จของเหล่าเจ้านครรัฐทั้งหลาย  ซึ่งมักจะมิได้อยู่บนพื้นฐานที่ชอบด้วยเหตุผล  ถ้อยอภิปรายของทั้งสองมีความคล้ายคลึงในหลักการกันอยู่มาก และแฝงไว้ด้วยอารมณ์อันร้อนแรงรวดร้าวอยู่เต็มเปี่ยม   นักปฏิรูปสังคมมักจะเป็นผู้ที่ถูกทอดทิ้งให้โดดเดี่ยวพร้อม ๆ กับถูกดูแคลนเหยียดเย้ยไยไพเสมอ ดังนั้น จึงจำเป็นจะต้องทนต่ออารมณ์อันเจ็บปวดที่เกิดจากความเดียวดายให้ได้เสียก่อน มิเช่นนั้น ก็จะไม่สามารถได้ชื่อว่าเป็นนักปฏิรูปได้เลย  ชายสกุลเหอ คนหนึ่งในนครรัฐฉู่ ได้บังเอิญไปพบก้อนหยกธรรมชาติที่ยังไม่เจียระไน ในแถบเทือกเขาฉู่ซาน จึงนำขึ้นถวายต่อลี่หวาง ผู้เป็นเจ้านครรัฐ ลี่หวางจึงบัญชาให้ช่างรัตนชาติทำการตรวจสอบดู และได้รับคำเฉลยตอบกลับมาว่า “นี่เป็นเพียงก้อนหินธรรมดาก้อนหนึ่งเท่านั้น”  ลี่หวางจึงลงโทษชายสกุลเหอในข้อหานำความเท็จมาหลอกลวงผู้เป็นเจ้า ด้วยการตัดขาข้างซ้ายทิ้งไป  ต่อมาเมื่อลี่หว่างถึงแก่พิราลัย อู่หว่างได้ขึ้นเป็นเจ้านครแทน ชายสกุลเหอก็นำเอาหยกก้อนนั้นขึ้นถวายอีกครั้งหนึ่ง  แต่เมื่ออู่หว่างให้ช่างผู้เชี่ยวชาญมาตรวจสอบ ก็ยังคงได้รับคำตอบกลับมาดังเดิมว่า  “นี่เป็นเพียงก้อนหินธรรมดาก้อนหนึ่งเท่านั้น”  อู่หว่างจึงบัญชาให้ตัดขาของชายสกุลเหอทิ้งเสียอีกข้างหนึ่งในโทษฐานที่พยายามหลอกลวงมูลนายเป็นคำรบสอง    เมื่อสิ้นสมัยอู่หวาง  เหวินหวางได้สืบทอดตำแหน่งต่อ  ชายสกุลเหอก็โอบอุ้มเอาหยกก้อนเดิมนั้นไปนอนประท้วงอยู่ ณ เชิงเขาฉู่ซาน ร้องไห้คร่ำครวญอยู่ติดต่อกันนานถึงสามวันสามคืนจนกระทั่งน้ำตาเป็นสายเลือด เมื่อเหวินหวางทราบความ จึงให้ราชวัลลภไปสอบถามถึงสาเหตุแห่งทุกข์ของชายสกุลเหอผู้นั้น “ทั่วทั้งต่ำใต้นี้ มีผู้พิการสูญเสียขานับได้ก็มากมายนัก จะมีอยู่ก็แต่ตัวท่านเท่านั้นที่คร่ำครวญร้องไห้แสดงทุกข์อันสาหัสผิดจากธรรมดาไป”   “ที่ข้าร้องไห้เสียใจมากมายถึงเพียงนี้ มิใช่อาลัยในองคาพยพดอก  แต่เจ็บแค้นแทนก้อนหยกทรงค่าที่อาภัพถูกกล่าวหาว่าเป็นเพียงก้อนหินก้อนหนึ่งเท่านั้น ทั้งตัวข้าผู้ถือสัจจะบริสุทธิ์ก็พลอยถูกกล่าวหาว่าเป็นจอมมุสาหลอกลวงไปด้วย เพราะเหตุดังนี้ดอกที่ทำให้ข้ารันทดระทมใจถึงเพียงนี้”  เหวินหวางเมื่อทราบความ จึงบัญชาให้ช่างจินดาหลวงเจียระไนก้อนหยกนั้นออกมา  ผลปรากฏออกมาเป็นรัตนชาติอันทรงค่าล้ำควรเมือง จึงให้ชื่อหยกก้อนนั้นไว้เพื่อเป็นอนุสรณ์ว่า “ก้อนหยกสกุลเหอ”
          หยกมณีล้วนเป็นที่ชอบชิดพิสมัยของผู้ทรงยศอัครฐาน การที่ชายสกุลเหอ นำหยกธรรมชาติขึ้นถวายเป็นบรรณาการ จะเป็นของแท้หรือของเทียมก็ยังยากที่จะพิสูจน์ในบัดนั้น  แต่ถึงอย่างไรสำหรับผู้รับบรรณาการ ก็มิเห็นว่าจะขาดทุนสูญเสียอะไรไป  กระนั้นก็ตาม กว่าหยกก้อนนี้จะได้รับการพิสูจน์ว่าเป็นมณีล้ำค่า ก็ส่งผลให้ชายสกุลเหอต้องเสียขาทั้งสองข้างไปแล้ว  เพียงกรณียืนยันการพิสูจน์หยกมณีรัตนชาติ  ยังมีความยากแค้นสาหัสสากรรจ์ถึงเพียงนี้ ก็ถ้าหากคิดจะยืนยันพิสูจน์ความควรความถูกต้องของวิธีการปกครอง จะลำบากกว่าสักเพียงไหนคงสุดจะคิดได้ เพราะโดยทั่วไปแล้ว ผู้ปกครองมีอำนาจทั้งหลาย ก็ไม่แน่ว่าจะมีความกระตือรือร้นสนใจการปกครองยิ่งกว่าการสนใจในรัตนจินดา  ด้วยเหตุดังนี้ จึงไม่เป็นการประหลาดนักที่จะไม่มีใครคิดกล้าอย่างชายสกุลเหอที่จะเสนอวิธีการเจียระไนวิถีแห่งการเมืองการปกครองให้แก่ผู้มีอำนาจฟังด้วยความสัตย์ตรงไปตรงมา  การที่ผู้เอ่ยวาจาสนับสนุนการปฏิรูปเปลี่ยนแปลงทั้งหลายนับแต่อดีต ยังไม่มีผู้ใดได้รับโทษถึงประหารเลยนั้น ก็เป็นเพราะว่ายังไม่มีใครตีแผ่จุดอ่อนของผู้มีอำนาจออกมาตรง ๆ นั่นเอง  คำว่า “ก้อนหยกสกุลเหอ” ปัจจุบันใช้เป็นคำพังเพย หมายถึงความเห็น หรือหลักการอันล้ำค่าที่ไม่ได้รับความสนใจใยดีจากใครเลย ที่มาของคำพังเพยนี้ก็คือนิทานในตำรับหานเฟยนี่เอง  ชะตาชีวิตของหานเฟยเองก็พยายามต่อต้านการฉ้อราษฎร์บังหลวงของบรรดาขุนนางอำมาตย์ผู้ใหญ่ และเสนอแนวทางการรวบรวมแผ่นดินที่แตกกระจัดกระจายให้แข็งแรงเป็นปึกแผ่นขึ้นมา แต่ความเห็นทั้งหมดก็ไม่เคยได้รับความสนใจไยดีจากผู้ทรงอำนาจเลยจนน่าท้อ นิทานเปรียบเปรยเรื่องนี้จึงมีเหตุการณ์จริง ๆ เป็นพยานตัวอย่างพิสูจน์ให้เห็นอยู่ดังในกรณีตัวของหานเฟยเอง
          ส่วนแมคเคียเวลลี กล่าวว่า ถ้าคิดจะปฏิรูปก็อย่ามัววาดหวังการยื่นมือช่วยเหลือจากผู้อื่น  ข้อควรตระหนักของนักปฏิรูปทั้งหลาย การริเริ่มแนะนำรูปแบบหรือวิธีการทางการเมืองแบบใหม่นั้น เป็นเรื่องยากเย็นและเต็มไปด้วยอันตรายอย่างยิ่ง นอกจากนี้ หนทางที่จะสำเร็จมีอยู่น้อยเหลือเกิน เหตุผลก็คือ บรรดาผู้ที่ถืออำนาจและผลประโยชน์สูงในระบอบเก่าจะต่อต้านผู้ริเริ่มอย่างรุนแรงในทุกวิถีทาง ในขณะที่ผู้ซึ่งเล็งเห็นประโยชน์ที่ตนจะได้รับจากระบอบใหม่นั้น อย่างมากก็ได้แต่คอยส่งเสียงให้กำลังใจอยู่ข้าง ๆ เท่านั้นเอง ความเฉื่อยชาไม่กระตือรือร้นของผู้สนับสนุนนี้ มีสาเหตุมาจากส่วนหนึ่งจากความขยาดหวาดเกรงฝ่ายปรปักษ์ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีกฎหมายอยู่ในมือและมีสาเหตุหนึ่งมาจากธรรมดาของมนุษย์ซึ่งเต็มไปด้วยวิจิกิจฉา มักจะลังเลและไม่มั่นใจในสิ่งใหม่ ๆ จนกว่าจะแลเห็นผลแล้วในระดับหนึ่ง ผลที่ตามมาก็คือ เมื่อใดที่ฝ่ายคัดค้านการเปลี่ยนแปลงมีโอกาสโจมตีทำร้ายผู้ก่อการแนวคิดใหม่ ก็จะพิฆาตเข่นฆ่าด้วยความเต็มใจและเต็มแรง ส่วนผู้สนับสนุนการเปลี่ยนแปลงจะดำเนินการด้วยแรงกำลังใจเพียงไม่ถึงครึ่งดี ด้วยสาเหตุดังนี้ ฝ่ายผู้คิดจะเปลี่ยนแปลงและผู้สนับสนุนมักจะตกอยู่ในสถานการณ์ที่เสี่ยงต่ออันตรายอยู่เสมอ เพื่อความเข้าใจถ่องแท้ในเรื่องทำนองนี้ จึงจำเป็นต้องพิจารณาว่า ผู้ที่จะปฏิรูปเปลี่ยนแปลงให้เกิดสิ่งใหม่นั้น สามารถกระทำการได้ด้วยตัวของตัวเองหรือจำเป็นต้องพึ่งพาบุคคลอื่น ๆ กล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือ ผู้ริเริ่มก่อการจำเป็นจะต้องชักชวนบุคคลอื่นให้มาช่วยหรือไม่ หรือสามารถที่จะสร้างอำนาจบังคับต่าง ๆ ขึ้นได้ด้วยตัวของตัวเอง  หากเป็นในกรณีแรก ก็จะพบแต่อุปสรรคและความขัดข้องนานาจนมิอาจจะประสบผลอันไพบูลย์ได้เลย  แต่ถ้าเป็นกรณีหลัง คือสามารถสร้างฐานอำนาจเองได้โดยไม่จำเป็นต้องขึ้นอยู่กับกลุ่มหรือบุคคลอื่นแล้ว ก็จะไม่ต้องประสบกับความยากลำบากมากมายนัก  ซึ่งหมายถึงการปฏิรูปการศึกษาด้วย

 กำจัด  คงหนู

ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาปทุมธานี เขต ๑

 

หมายเลขบันทึก: 432796เขียนเมื่อ 25 มีนาคม 2011 20:17 น. ()แก้ไขเมื่อ 5 กุมภาพันธ์ 2014 09:00 น. ()สัญญาอนุญาต: สงวนสิทธิ์ทุกประการจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (3)

เรื่องที่ท่านนำให้อ่านทันสมัย ให้ข้อคิดดี 

                                                 ฝากให้คิด.....เมื่อมองบริวารรอบข้าง

                               
                                 การมองเห็น กับการมองเป็น เป็นสิ่งสำคัญที่สุดของการเป็นมืออาชีพ

ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น  ก็จะตั้งใจทำงานค่ะ

มาอยู่ปทุมยังไม่นานแต่รู้สึกว่า

ครูที่โรงเรียนอบอุ่นดีมากค่ะ  รักกันดี .....

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท