การออมทรัพย์เป็นสิ่งดีและพยามยามออมทรัพย์กันเพื่อขจัดปัญหาทางการเงินในอนาคต แต่ถ้าทุกคนออมโดยเก็บเงินไว้กับตัวเฉย ๆ ก็จะไม่เกิดผลงอกเงยขึ้น ไม่ได้ประโยชน์เท่าที่ควร หลักที่ถูกต้องของการออมทรัพย์ก็คือ จะต้องทำให้เงินที่ออมได้นั้นเกิดประโยชน์อย่างใดอย่างหนึ่ง บางคนอาจจะนำไปฝังดิน (เป็นประโยชน์กับไส้เดือนถ้าฝังลึก) บางคนฝากไว้กับญาติพี่น้องหรือคนสนิทชิดเชื้อที่ไว้วางใจได้ (เพื่อให้เขาเอาไปหมุนใช้ก่อน) เหมือนชูชกฝากเงินไว้กับพ่อนาง อมิตดา การกระทำเหล่านี้ยังไม่ปลอดภัยเท่าที่ควร ฝังไว้แล้วอาจหลงลืม หรือมีคนเห็นอาจจะขโมยขุดไปได้ ที่พบบ่อยในพื้นที่ชนบท เกษตรกรมักนำเงินเก็บออมไว้ไปแอบซ่อนไว้เก็บไว้ในฉางข้าว บางครั้งก็ถูกมดปลวกหรือหนูกัดแทะเสียหายชำรุดไปก็มี บางคนเก็บไว้ในกระบอกไม้ไผ่ ที่ใช้ทำเป็นเตียงนอน ไม่ยอมนำออกใช้จ่าย ตายไปลูกหลานช่วยกันผ่ากระบอกได้เงินจำนวนแสนบาท สู้อุตสาห์ก็บออมไว้หลายปี แต่ผลสุดท้ายก็ต้องให้ผู้อื่นเอาไปใช้
ลู่ทางในการนำเงินออมไปทำให้เกิดประโยชน์นั้น ถ้าจะพูดถึงสังคมเมือง ราษฎรมักจะนำเงินออมไปฝากธนาคาร ฝากสหกรณ์ออมทรัพย์ เล่นแชร์ ซื้อพันธบัตรรัฐบาล หรือนำไปลงทุนในบริษัทห้างร้าน ถือหุ้นสหกรณ์ ถือหุ้นธนาคารที่เขาเปิดโอกาสให้ถือ หรือนำไปเป็นเงินวางมัดจำเพื่อซื้อบ้านแล้วผ่อนส่ง หรือนำไปลงประกันภัย ประกันชีวิต ฯลฯ ในการลงทุนต้องทำอย่างรอบคอบอย่าคิดว่าการลงทุนน้อยแต่ได้ดอกผลสูงเป็นการดีเสมอไป เช่น ลงทุนในบริษัทการเงิน หรือบริษัทเงินทุนต่าง ๆ การเล่นแชร์ หรือออกเงินให้กู้นอกระบบ เรียกเก็บดอกเบี้ยร้อยละห้าร้อยละสิบ ใช้วิธีตามเก็บคืนเป็นรายวันรายเดือนรายปีตามแต่จะถนัด การลงทุนประเภทนี้มักเป็นกิจการที่เสี่ยงภัยสูง แถมยังเป็นการเอาเปรียบสังคม บางครั้งดอกเบี้ยไม่ได้และต้นเงินก็พลอยหายไปด้วย และอาจถึงตายได้ด้วย การนำเงินออมไปลงทุนหรือฝากอย่างรอบคอบนั้นต้องพิจารณาข้อดีข้อเสีย ต่าง ๆ กันไป คือ ความปลอดภัย สภาพคล่อง ผลตอบแทน และความแปรสภาพเงินที่นำไปวางไว้ให้ตีกลับมาเป็นรูปเงินสด เช่น ถ้าวางเงินออมไว้ในรูปที่ดิน เวลาจะตีกลับมาเป็นเงินสด ก็ต้องประกาศขายที่ดินแล้วรอให้มีคนมาซื้อ ผ่านนายหน้า ผ่านหนังสือพิมพ์กว่าจะตกลงราคากันได้ ทำสัญญาซื้อขาย โอนโฉนดกัน กว่าจะได้เงินมาใช้เวลานานหลายวันหลายเดือนหรือเป็นปี แต่ถ้านำไปฝาก เรียกว่า เงินฝาก เวลาจะแปรสภาพตัวเลขในบัญชีเงินฝากไว้ตีกลับมาเป็นตัวเงินสด ก็ไปถอนออกมาใช้ได้ทันที เรียกว่ามีสภาพคล่อง ส่วนความสะดวกนั้นขึ้นอยู่กับบริการ เช่น ไปถอนเงินที่ธนาคารหรือสหกรณ์บางแห่งต้องรอนานหน่อย จะฝาก จะถอน จะเอาหมอนไปด้วย อย่างนี้คงไม่ไหว สำหรับสมาชิกสหกรณ์ขอแนะนำให้ช่วยกันฝากกับสหกรณ์ เพราะนอกจากจะทำให้เรามีเงินแล้ว ยังเป็นการเพิ่มทุนให้กับสหกรณ์ของเราเอง
ประเภทของเงินฝากสหกรณ์
สหกรณ์การเกษตรที่จัดตั้งขึ้นในชนบทนั้นเปรียบเสมือนธนาคารของชาวเกษตรกรสมาชิกบางคนมีรายได้น้อยอาจออมทรัพย์ไว้แต่ละครั้งเป็นจำนวนน้อย จะนำไปลงทุนอะไรก็ไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วย การฝากเงินไว้กับสหกรณ์นับว่าเป็นการดี สามารถเลือกแบบแผนการออมได้ตามใจชอบ ซึ่งมีอยู่ด้วยกันหลายวิธีด้วยกันให้เลือก ดังนี้
1. เงินฝากประเภทออมทรัพย์ เป็นเงินฝากประเภทฝากเข้าถอนออกตามความพอใจ และเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องหมุนใช้เงินอยู่เป็นประจำ มีมากก็ฝากเข้าเก็บไว้มาก ยามจำเป็นต้องใช้ก็ถอนออกมาใช้ได้ทันทีในวันที่สหกรณ์เปิดทำการ
2. เงินฝากประเภทประจำ สำหรับคนที่มีเงินเหลือเก็บมาก ๆ ฝากไว้กินดอกเบี้ยเสียเป็นส่วนใหญ่ คือ ฝากไว้โดยมีกำหนดระยะเวลา เช่น ประจำ 3 เดือน. 6 เดือน, 12 เดือนหรือมีเป้าหมาย แล้วค่อยถอนหรือจะถอนเฉพาะดอกเบี้ยออกมาใช้เมื่อครบกำหนดระยะเวลา แต่ถ้าถอนก่อนกำหนด 3 เดือน สหกรณ์ก็จะไม่คิดดอกเบี้ยให้
3. เงินฝากประเภทสัจจะออมทรัพย์ การฝากเงินประเภทนี้เป็นการฝากทีละเล็กน้อยเท่ากันเป็นประจำทุกเดือน เป็นการฝึกนิสัยให้สมาชิกรู้จักออมอย่างมีระเบียบ โดยเริ่มแผนการออมด้วยจำนวนเงินที่แน่นนอนจำนวนหนึ่ง ครั้งละน้อย ๆ ตามกำลังความสามารถ ใช้กฎแห่งสัจจะว่าจะฝากเงินภายในกำหนดระยะเวลาที่แน่นอนจึงจะถอนกลับคืนไป เช่น 5 ปี, 10 ปี หรือเก็บไว้เป็นเงินสะสม หรือเงินบำเหน็จรางวัลสำหรับชีวิตการทำงานของแต่ละคน
ประโยชน์ของการฝากเงินกับสหกรณ์
1. ความมั่นคงปลอดภัย เพราะถ้าท่านเก็บเงินไว้กับตัวจำนวนมาก อาจจะเป็นเหตุให้เกิดภัยขึ้นได้ง่าย ไม่ว่าจะเป็นภัยจากธรรมชาติ เช่น ไฟไหม้ น้ำท่วม ปลวกกิน หนูกัด เป็นต้น หรือไม่ก็ภัยจากคนกันเองที่จะหาภัยมาให้ ถ้าท่านเก็บเงินไว้ที่บ้านอาจถูกลัก ถูกขโมย จี้ปล้น หรือแม้แต่การพลั้งเผลอหลงลืม ซึ่งล้วนแต่เป็นที่มาของการ "สูญ" ของเงินที่เราอุตส่าห์หามาด้วยความเหนื่อยยาก การเอาเงินไปฝากไว้กับสหกรณ์ จึงเป็นการป้องกันมิให้เกิดความเสียหายขึ้นกับเงินของเรา สหกรณ์จะต้องรับผิดชอบเงินของสมาชิก โดยมีระบบรักษาความปลอดภัยมีระบบการเก็บรักษา การตรวจสอบ และควบคุมมิให้เสียหายหรือรั่วไหล เนื่องจากสหกรณ์ก็คือ สถาบันหนึ่งของสังคมที่มีฐานะเป็นนิติบุคคล มีการส่งเสริม ตรวจตรา ดูแลจากหน่วยงานของทางราชการที่มีส่วนรับผิดชอบ ได้แก่ กรมส่งเสริมสหกรณ์ กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ ซึ่งทั้งสองกรมสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และยังมีผู้ตรวจสอบกิจการที่เลือกมาจากที่ประชุมใหญ่ของสหกรณ์มาคอยตรวจสอบอีกทางหนึ่งด้วย
2. ได้รับผลตอบแทน ที่เรียกว่า ดอกเบี้ย เพราะถ้าไม่มีผลตอบแทนก็คงจะไม่มีประโยชน์ที่เราจะเอาเงินไปฝากสหกรณ์ เงินฝากทุกประเภทที่ฝากไว้กับสหกรณ์ก็จะได้รับดอกเบี้ยเป็นผลตอบแทนให้แก่ผู้ฝากทุกคน ตามระเบียบว่าด้วยเงินฝากของสหกรณ์ เช่น ดอกเบี้ยที่เกิดจากเงินฝากของทุกคนจะถูกฝากกลับทบเข้าไปเป็นเงินต้นโดยอัตโนมัติ เป็นระบบเงินต่อเงิน ไม่ต้องกลัวว่าฝากเงินไว้กับสหกรณ์เมื่อไม่ได้ไปติดต่อแล้วสหกรณ์จะไม่จ่ายดอกเบี้ยให้ เงินทุกบาทในบัญชีเงินฝากของสมาชิกทุกคน สหกรณ์จะคิดดอกเบี้ยให้ทุกวันสิ้นปีทางบัญชีของสหกรณ์
3. ความสะดวก สหกรณ์การเกษตรหรือสหกรณ์ออมทรัพย์เครดิตยูเนียน ส่วนใหญ่จะตั้งอยู่ในท้องถิ่นภูมิลำเนาที่สมาชิกตั้งบ้านเรือนอยู่ สหกรณ์เปรียบเสมือนธนาคารของชาวชนบท ที่จัดทำขึ้นโดยการถือหุ้นของชนบท และตั้งขึ้นเพื่อชาวชนบท เป็นการร่วมมือกันเพื่อให้เงินสะพัดหมุนเวียนอยู่ในหมู่บ้านของตนเอง สมาชิกทุกคนควรร่วมมือกันฝากเงินและถอนคืนไปใช้ยามจำเป็น ดังคำขวัญที่ว่า "ยามมีให้ฝาก ยามยากให้ถอน ยามเดือดร้อนให้กู้" ผู้ที่ทำงานในสหกรณ์ที่เรียกว่า พนักงานสหกรณ์ ส่วนใหญ่ก็เป็นบุตรหลานของสมาชิกในละแวกนั้น สมาชิกมักจะรู้จักมักคุ้นกันเป็นอย่างดี การเดินทางไปถอนเงินที่สหกรณ์ มักจะได้รับความเป็นกันเองมากกว่าสถาบันการเงินที่ใหญ่ ๆ สหกรณ์เองก็ได้วางแผนสำรองเงินไว้บริการด้านการถอนเงินของสมาชิก มิให้เกิดความเดือดร้อน นอกจากนี้ สหกรณ์ยังมีการเชื่อมโยงเงินฝากกับชุมนุมสหกรณ์การเกษตรระดับจังหวัด ซึ่งเปรียบเสมือนศูนย์กลางทางการเงินของสหกรณ์การเกษตร เพื่อความคล่องตัวทางการเงิน และพร้อมที่จะบริการให้สมาชิกถอนคืนเงินฝากได้เสมอ
4. ใช้ประกันเงินกู้ หลายท่านอาจจะสงสัยว่าเมื่อมีเงินฝากอยู่แล้วทำไมจึงต้องกู้ยืมเงินมาใช้อีก ทำไมจึงไม่ถอนเงินฝากนั้นมาใช้ คำตอบมีอยู่ว่า เช่น เงินฝากที่ฝากไว้นั้นเป็นเงินฝากประจำ มีระยะยาว ในขณะที่ความจำเป็นต้องใช้เงินกู้นั้นเป็นความจำเป็นระยะสั้น ๆ เราก็จะกู้เงินโดยใช้เงินฝากของตัวเองเป็นประกัน เพราะระยะต่อมาเราสามารถหาเงินมาใช้หนี้ได้ และเราก็จะไม่เสียผลประโยชน์ที่ได้รับจากผลตอบแทนที่จะได้ก็ต่อเมื่อฝากเงินให้ครบกำหนดตามระยะเวลาที่ฝาก การใช้เงินฝากเป็นหลักประกันผู้ให้กู้ (สหกรณ์) เต็มใจอย่างยิ่งที่จะให้กู้ เพราะเป็นหลักประกันชั้นดียิ่งพอ ๆ กับการใช้หุ้นค้ำประกัน
5.ได้รับความเชื่อถือ การมีเงินฝากนั้นแสดงว่า คุณต้องเป็นผู้ที่พอจะมีฐานะหรือมีฐานะอยู่แล้ว ในทางกลับกันเงินฝากนั่นเอง จะเป็นเครื่องยืนยันฐานะของเรา เป็นการสร้างเครดิต ความเชื่อถือให้แก่สมาชิกในสายตาของสหกรณ์ วันหนึ่งข้างหน้าหากจำเป็นต้องการกู้เงิน หรือซื้อสินค้าเชื่อจากสหกรณ์ ก็ย่อมได้รับความเชื่อถือไว้วางใจเป็นพิเศษ ต่างกับสมาชิกที่กู้เงินจาก สหกรณ์เพียงอย่างเดียวและสมาชิกผู้มีเงินฝากย่อมได้รับความเชื่อถือที่ดีกว่า นอกจากนี้ การที่เอาเงินไปฝากไว้กับสหกรณ์ เราสามารถทวงถามและถอนคืนได้ทุกเมื่อ ก็เปรียบเสมือนเราเป็นเจ้าหนี้ของสหกรณ์โดยปริยาย เป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้กับตนเองอีกด้วย
6. ได้บุญกุศลช่วยชาติบ้านเมืองและสังคม การที่เรานำเงินไปฝากกับสหกรณ์ นอกจากจะทำให้เรามีเงินเหลือเป็นการส่วนตัวแล้ว โดยทางอ้อมเรากำลังประกอบคุณงามความดีอันเป็นกุศลกรรมอีกทางหนึ่งด้วย ตามปกติคนเราแม้จะมีเงินทองมากมายอย่างไรก็ตาม ถ้าไม่มีอาชีพปล่อยเงินกู้กินดอกเบี้ยแล้วละก็ จะให้ผู้อื่นยืมเงินที่อุตส่าห์เก็บออมไปใช้นั้นเป็นเรื่องยาก แม้จะเป็นญาติสนิทกันก็ตาม ถ้าเงินที่จะยืมมีจำนวนมากและคนที่ยืมมีนิสัยหรือพฤติกรรมไม่น่าไว้วางใจคงไม่ให้กู้อย่างแน่นอน แต่ถ้าเรานำเงินไปฝากกับสหกรณ์ เงินฝากนี้ก็จะถูกนำไปปล่อยเป็นสินเชื่อเพื่อการลงทุนประกอบอาชีพให้กับเพื่อนสมาชิกในสหกรณ์การเกษตรส่วนใหญ่จะถูกนำไปปล่อยให้เกษตรกรกู้ยืม เพื่อใช้จ่ายตามความจำเป็นและบรรเทาความเดือดร้อนหรือเพื่อใช้ในการทำการเกษตร บางส่วนถูกนำไปปล่อยเป็นสินเชื่อเพื่อการปรับปรุงที่อยู่อาศัย ก่อสร้างเคหะสถาน สร้างฉาง สร้างโรงเรือนต่าง ๆ และอื่น ๆ อีกมากมาย นับเป็นการสร้างสรรค์สังคม มีส่วนร่วมในการพัฒนาชนบทของประเทศ ผลประโยชน์นี้ตกแก่ส่วนร่วมและหมู่คณะอย่างกว้างขวาง ช่วยเพิ่มรายได้ภายในชาติ ยกระดับการกินอยู่ของพลเมืองให้สูงขึ้น ช่วยชาติบ้านเมืองลดปัญหาภาระหนี้สินที่ประเทศไทยต้องเป็นหนี้ต่างชาติ เพราะการที่คนในชาติกู้เงินจากธนาคาร ซึ่งเงินส่วนหนึ่งเป็นเงินกู้จากประเทศเพื่อนำมาให้ประชาชนกู้ยืม ก็เท่ากับส่งเสริมให้คนในชาติเป็นหนี้ต่างชาตินั่นเอง วิธีการเช่นนี้ไม่มีประเทศใดในโลกเห็นว่าเป็นวิธีการที่ถูกต้อง แต่ถ้าคนทุกคนร่วมกันฝากเงินแล้วกู้เงินของตนไปใช้ โดยผ่านการบริหารงานของสหกรณ์ ก็เท่ากับเราเป็นหนี้เงินของเราเอง เราต้องรับผิดชอบส่งคืน เงินทองก็ไม่รั่วไหลไปนอกประเทศ และไม่ต้องเป็นหนี้ต่างชาติเพิ่มขึ้นอีกด้วย ทั้งยังทำให้เงินออมเป็นพลังสำคัญทางการเงิน เพื่อสร้างสรรค์ประเทศชาติให้มีความมั่นคงทางการเงิน
7. สร้างความสำนึกที่มีต่อส่วนรวม การฝากเงินของเราไว้กับสหกรณ์ เป็นการสร้างสำนึกในการมีส่วนร่วมของเหล่าสมาชิกสหกรณ์ทุกคน เพื่อช่วยกันเพิ่มทุนดำเนินงานให้กับ สหกรณ์ โดยไม่ต้องกู้หนี้ยืมสินจากภายนอกมาใช้ ลดการพึ่งพาบุคคลอื่นทำให้สหกรณ์สามารถยืนด้วยขาตนเอง เป็นไปตามอุดมการณ์ที่ว่าช่วยตนเองและช่วยเหลือซึ่งกันและกัน โดยการประหยัดและออม เมื่อสมาชิกฝากเงินไว้กับสหกรณ์มาก ก็เท่ากับสหกรณ์มีเงินทุนเพิ่มมากขึ้นเป็นเงาตามตัว สหกรณ์ก็สามารถทำธุรกิจและขยายบริการได้มากขึ้น เป็นการอำนวยประโยชน์ต่อสมาชิกได้อย่างทั่วถึง ผลกำไรที่ได้ก็เต็มเม็ดเต็มหน่วย ไม่ต้องหักรายได้ไปจ่ายให้กับเจ้าหน้าที่ เรากู้ยืมเงินเขามาลงทุน ยิ่งสหกรณ์มีกำไรมากเท่าไร ก็สามารถนำมาปรับปรุงการขยายงาน จัดสรรเงินปันผลและเฉลี่ยคืนให้กับสมาชิกได้เต็มที่ นอกจากนี้กำไรสุทธิที่ได้จากการประกอบการ สหกรณ์ยังสามารถจัดสรรเป็นทุนสาธารณประโยชน์ สนับสนุนสวัสดิการให้แก่มวลสมาชิก บุคคลในครอบครัว ตลอดจนช่วยเหลือชุมชนที่สหกรณ์ตั้งอยู่ได้มีความมั่นคง สหกรณ์เข้มแข็ง ย่อมเกิดความศรัทธาจากบุคคลอื่นหรือสถาบันต่าง ๆ ที่ได้เห็นถึงความร่วมมือร่วมใจอย่างเหนียวแน่นของมวลสมาชิกสหกรณ์ที่เสียสละเก็บเงินออมเงินแล้วนำไปฝากไว้กับกลุ่ม กลุ่มนำไปฝากกับสหกรณ์ สหกรณ์นำไปฝากกับชุมนุมสหกรณ์ จึงเป็นการสนับสนุนด้านเงินทุนให้กับ ขบวนการสหกรณ์อย่างแท้จริง
ขอบคุณครับคุณ - ประสิทธิ์ - หนูกุ้ง. ที่ให้กำลังใจ โครงการสัจจะนี้ผมร่วมกับสหกรณ์การเกษตรนาหม่อม ส่งเสริมให้พี่น้องเกษตรกรนำเงินมาฝากตั้งแต่ปี พ.ศ.2529 ปัจจุบันนี้เขาก็ยังทำกิจกรรมนี้กันอยู่ครับ เท่าที่ทราบตัวเลขเงินฝากทั้งหมดประมาณ 900 กว่าล้านบาท
เดิมสหกรณ์นี้มีทุนดำเนินงานประมาณ แสนกว่าบาท ปัจจุบันนี้มีทุนดำเนินงานทั้งสิ้นประมาณ 1,000 กว่าล้านบาท
ขอบคุณมากครับ คุณฐานิศวร์
ถ้าหากคนไทยใช้เศรษฐกิจแบบสหกรณ์เป็น และเข้าใจหลักการวิธีการอย่างถูกต้องสังคมไทยคาดว่าน่าจะดีว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบันครับ