Love Ocean น่านน้ำแห่งความรัก: “ใช้ความรัก...อยู่เหนือหน้าที่”


น่านน้ำแห่งความรัก สายที่ 6

ทุกหน้าที่ต้องมีกำไร แต่ต้องเป็นกำไรที่ทุกฝ่ายพึงพอใจ 

 

                อะไรเป็นตัวชี้วัดกำไรทางธุรกิจของคุณ?

                หากคุณเป็นพ่อค้าแม่ค้าที่ดำเนินธุรกิจการค้ามายาวนาน คุณจะรู้ดีว่าผลกำไรขาดทุนในแต่ละเดือนมีมูลค่ามากน้อยเพียงใด แต่การดำเนินธุรกิจด้วยแนวทาง “Love Ocean” หรือ “น่านน้ำแห่งความรัก” เราไม่ได้หยุดประเมินความสำเร็จเพียงแค่จำนวนเงินตราที่ได้ในแต่ละเดือน หากต้องวัดจากความรักและความห่วงใยผู้คนรอบข้าง ทั้งลูกค้า คู่ค้า ผู้ผลิต และคู่แข่ง ให้มากเหมือนกับคนในครอบครัวเดียวกัน ซึ่งการกระทำแบบนี้ถือเป็นหน้าที่ทางธุรกิจที่จะเป็นดัชนีชี้วัดที่บ่งบอกได้ว่า ธุรกิจนั้นจะมีความสำเร็จมากเพียงใด มากว่าการวัดที่ได้กำไรมากหรือน้อย

 

                หน้าที่ของผู้ผลิต 

                ลูกค้าย่อมต้องเลือกสินค้าที่ถูกใจในราคาที่คิดว่าคุ้มค่า ฉะนั้นหน้าที่ของผู้ผลิตคือ การผลิตสินค้าคุณภาพที่สร้างกำไรให้กับผู้ซื้อตามราคาที่ตกลงกันไว้ เช่น ราคาสินค้าระดับ A คุณภาพสินค้าก็ต้องเป็นเกรด A

                ผู้ผลิตต้องทำหน้าที่ของการเป็นผู้สร้างสินค้าด้วยความรัก กำหนดราคาสินค้าให้เหมาะสมกับคุณภาพจึงเป็นการแสดงออกถึงความรักและการเอาใจใส่ที่จะสร้างความประทับให้แก่ลูกค้า แต่หากผู้ผลิตฉวยโอกาสขึ้นราคาสินค้าในยามที่สินค้าขายดี หรือมีเหตุการณ์ผันผวนใดๆ ที่ส่งผลกระทบต่อต้นทุนสินค้าเพียงเล็กน้อย จะมีผลกระทบต่อจิตใจของลูกค้าทันที

                ดังนั้นหากผู้ผลิตมีความจำเป็นจะต้องเพิ่มราคาสินค้าตามต้นทุนที่สูงขึ้นตามสถานการณ์ต่างๆ ควรมีการปรึกษาหารือ และสื่อสารไปถึงลูกค้าด้วยพื้นฐานของความเป็นจริงที่มาจากความรักฉันท์พี่น้องในครอบครัวเดียวกัน

 

                หน้าที่เจ้าของแบรนด์ 

                หน้าที่ของการเป็นเจ้าของแบรนด์สินค้า (ตราสินค้า) คือ การเป็นผู้ก้าวนำโลก ต้องเป็นผู้นำที่กล้าเปลี่ยนแปลงตลาดด้วยความรัก และใช้ความรักทำการตลาดสื่อสารประชาสัมพันธ์ให้ลูกค้าได้สัมผัสและรู้จักแบรนด์สินค้าจนกระทั่งซื้อสินค้านั้นไปใช้ในที่สุด

                ประเด็นสำคัญคือ เจ้าของแบรนด์ไม่ควรใช้กลยุทธ์ที่แฝงด้วยเลห์เหลี่ยมอันแยบยลเจาะกลุ่มร้านค้าที่เป็นตัวแทนจำหน่ายสินค้า เพราะร้านค้าจะเป็นสื่อกลางในการขายไปยังลูกค้าอีกที ดังนั้นเจ้าของแบรนด์ควรตระหนักว่า ลูกค้ารายย่อยนั้นเป็นผู้ซื้อที่แท้จริง หากมีการสื่อสารในรูปแบบต่างๆ ให้แบรนด์เป็นที่รู้จัก เจ้าของแบรนด์ก็ไม่จำเป็นจะต้องใช้กลยุทธ์ใดๆ ไปใช้กับร้านค้าให้เดือดร้อน เพราะผู้บริโภคหรือลูกค้ารายย่อยต่างหากที่จะรับรู้ถึงสื่อและเป็นผู้เลือกซื้อสินค้าเอง

 

                หน้าที่ของร้านค้า               

                โดยธรรมชาติของร้านค้าหรือผู้แทนจำหน่ายพบว่ามี 2 กรณี คือ

1. อยากเป็นตัวแทนขายสินค้าแบรนด์ที่มีชื่อเสียง

2. อยากเป็นผู้แทนจำหน่ายแต่เพียงผู้เดียวในพื้นที่นั้น

                หากคิดเช่นนี้ ร้านค้ากำลังสร้างกับดักให้แก่ธุรกิจของตนเอง เพราะทั้ง 2 กรณีนั้น ผู้ผลิตหรือเจ้าของแบรนด์ต่างก็มีความมั่นใจในสินค้า ซึ่งร้านค้าจะต้องทำยอดขายให้ได้ตามเป้าหมายที่ตกลงกันไว้ ซึ่งหากทำไม่ได้ในทั้ง 2 กรณี ก็เป็นที่น่าเสียดายหากโอกาสการเป็นผู้แทนจำหน่ายนั้นจะหลุดมือไป และบ่อยครั้งกับกรณีที่ 2 ที่พบว่าร้านค้าต้องไปกู้หนี้ยืมสินมาซื้อสินค้าให้ครบตามเป้าเพียงเพราะไม่อยากพลาดตำแหน่งการครอบครองพื้นที่ขายแต่เพียงผู้เดียวไป

                ดังนั้นร้านค้าต้องใช้ความรักในการทำธุรกิจ  ไม่หวังจะครอบครองสินค้า แบรนด์ และพื้นที่ไว้แต่เพียงผู้เดียว ให้ความรักด้วยการแบ่งปันผู้อื่นให้ได้ขายสินค้าด้วย ดีกว่าจะสร้างกับดักให้กับธุรกิจของตนเอง

 

                หน้าที่ของลูกค้า หรือผู้บริโภค 

                นักกลยุทธ์และนักการตลาดหลายท่านให้ความสำคัญกับกลุ่มลูกค้าหรือผู้บริโภคถึงขนาดมีคำพูดติดปากว่า “ลูกค้า คือ พระเจ้า” เพราะพบว่าลูกค้าจะเป็นผู้สร้างกลยุทธ์การตั้งราคาบอกผ่าน ที่บวกเผื่อต่อ หรือเป็นผู้สร้างวัฒนธรรมที่ทำให้พ่อค้าตั้งราคาสูงเกินความเป็นจริงเผื่อลูกค้าต่อราคาอีกทอดหนึ่ง และในอีกกรณีที่ลูกค้ามักจะทำตัวเป็นผู้มีอำนาจในการต่อรองจนหมดศรัทธา เช่น แม่ขายขายดอกไม้ ดอกละ 6 บาท หากซื้อ 2 ดอกลดเหลือ 10 บาท ลูกค้ายังไปต่อราคา 2 ดอกในราคา 6 บาท ทั้งที่ราคาจาก 12 บาท ลดเหลือ 10 บาท แล้วก็ตาม

                ด้วยแนวคิดของ Love Ocean แม้ลูกค้าจะเป็นกลุ่มที่สร้างรายได้ให้กับกลุ่มผู้ผลิต เจ้าของแบรนด์และร้านค้าก็ตาม แต่หน้าที่ของลูกค้าควรเป็นผู้สร้างความสมดุลในวงจรธุรกิจ สร้างความพอเหมาะพอดี และไม่ทำตัวให้เป็นผู้ทำงานให้กับกลไกตลาดโดยไม่รู้ตัว

 

 

หนังสือ คู่มือการดำเนินธุรกิจด้วยความรัก "น่านน้ำแห่งความรัก" (Love Ocean) สามารถหาซื้อได้ตามร้านหนังสือชั้นนำทั่วไป

ที่มา: "น่าน้ำแห่งความรัก (Principles of Love Ocean)" ผู้เขียน ประเสริฐ เพชรชื่นสกุล ดร.กิตติพันธ์ คงสวัสดิ์เกียรติ ดร.ชูเกียรติ ชัยบุญศรี และดร.รังสรรค์ สุกันทา สำนักพิมพ์ เพียร์สัน เอ็ดดูเคชั่น อินโดไชน่า ISBN: 9786165590105 (พิมพ์ครั้งที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2553)

หมายเลขบันทึก: 429197เขียนเมื่อ 2 มีนาคม 2011 15:22 น. ()แก้ไขเมื่อ 4 พฤศจิกายน 2014 11:30 น. ()สัญญาอนุญาต: สงวนสิทธิ์ทุกประการจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท