จากการทำงานในระยะหลายปีที่ผ่านมา ที่พบว่ามีข้อผิดพลาดของการทำงาน ในระดับที่ถือได้ว่า “ไม่สำเร็จ” นั้น
มักมีคนกล่าวว่า คนที่ทำงาน “ไม่มีความจริงใจ”
แต่เมื่อผมไปสัมผัสจริงๆ กลับพบว่า ส่วนใหญ่ “มี” ความจริงใจ แต่ไม่ทราบจะทำอย่างไร ให้สำเร็จตามเป้าหมาย
ที่เมื่อประเมินจากการสัมภาษณ์ กลับพบว่าขาด “ความเข้าใจ” ในสถานการณ์ และเนื้องานที่ทำ
ที่ย้อนกลับมาเป็นอุปสรรคใหญ่ประการหนึ่งของการทำงาน
แม้ยังมีคนที่คิดว่าตัวเองเข้าใจ แต่ ก็ยังมีความเข้าใจไม่ตรงกับความเป็นจริง ที่มีประเด็นเกี่ยวข้องกับข้อมูลไม่ครบถ้วน หรือเป็นข้อมูลคนละชุดกัน
ดังนั้นความเข้าใจจึงมีที่มาจากความถูกต้องของชุดข้อมูลที่ได้รับ
เช่น
มีบุคคลทีมีชื่อเสียงท่านหนึ่งเคยกล่าวในที่สาธารณะว่า การทำนาไม่ไถนั้นต้องใช้ฟางคลุมจำนวนมาก อย่างน้อยต้อง ๑๘ ไร่ นำมาคลุม ๑ ไร่ ที่เป็นเรื่องที่ทำยาก ต้นทุนสูง ที่เป็นคนละประเด็นของการทำนาแบบไม่ไถที่ผมทำจริงๆ
หรือมีนักวิชาการที่มีชื่อเสียงโด่งดังทางด้านวิชาการเกษตรท่านหนึ่ง กล่าวในที่ประชุมว่า “การพัฒนาการกเกษตรโดยใช้ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงนั้นทำไม่ได้ในสภาพที่มีการแข่งขัน” ที่แสดงถึงความไม่เข้าใจในหลักการและแนวปฏิบัติของพระราชดำริปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง จนทำให้เผลอพูดออกไปอย่างนั้น
ที่โดยทั่วไป อาจทำให้คนที่ไม่ทราบความจริงเข้าใจผิดไปด้วยได้โดยง่าย
ด้วยความเชื่อถือ หรืเคารพนับถือผู้พูดเหล่านั้น
ดังนั้นการพัฒนาความเข้าใจจึงต้องประกอบด้วย ความตั้งใจ และความรู้ที่มี ที่นำไปสู่การพัฒนาความรู้ ความสามารถ แะความเข้าใจ
และพื้นฐานดังกล่าว ยังต้องมาจากการพัฒนาความสามารถในการใช้ความรู้ เพื่อให้เกิดความเข้าใจอีกด้วย
ดังนั้นงานพัฒนาทั้งหลายที่ต้องการผลสัมฤทธิ์ จึงต้องมีทั้ง
จึงจะทำให้งานพัฒนาต่างๆ บรรลุล่วงไปด้วยดี
ผมเข้าใจอย่างนี้ และจะลองเสนอเป็นแผนการปฏิบัติ และแผนการติดตามประเมินผลการทำงานครับ
ไม่มีความเห็น