บัญชีรายการยา รพ.สต.(ยาฉีด1) จ.ขอนแก่น


 บัญชีรายการยาสถานีอนามัย(ยาฉีด1) จ.ขอนแก่น

(จัดทำโดย คณะทำงานพัฒนาระบบริการเภสัชกรรม  โครงการพัฒนาระบบยาในหน่วยบริการปฐมภูมิและความปลอดภัยด้านยาในชุมชน จ.ขอนแก่น)

Adrenaline   Injection   Atropine sulphate

10 % Calcium gluconate      

Chlorpheniramine   Maleate   Injection 

Dexamethasone Injection 

Diazepam Injection   

Diclofenac   Injection 

Furosemide Injection 

Glucose 50% hypertonic inj

สารละลายกลูโคสและโซเดียมคลอไรด์ 

สารละลายกลูโคสและน้ำ 

Hyoscine – N – Butylbromide   Injection  

Lidocaine HCL 2%  inj.

Medroxyprogesterone acetate (DMPA).

Metoclopramide   Injection 

Sodiumchloride   Injection (Normal   Saline 0.9%)

Tetanus Toxoid 

 

Adrenaline   Injection

ส่วนประกอบ 

                ใน  1  มิลลิลิตร  ประกอบด้วยตัวยา   Adrenaline   1  มิลลิกรัม

ข้อบ่งใช้ 

1.   ฉีดเข้าใต้ผิวหนังหรือเข้ากล้าม   เพื่อรักษาภาวะช็อค , อาการแพ้อย่างเฉียบพลัน , อาการหอบหืดเฉียบพลัน

2.   ใช้ควบคุมอาการเลือดไหลไม่หยุด

ขนาดและวิธีการใช้

  1. บรรเทาอาการหดเกร็งของหลอดลมอย่างเฉียบพลันในภาวะช็อค  หรือ  Anaphylaxis

-   เด็ก     ฉีดเข้าใต้ผิวหนัง 0.01 มิลลิกรัม ต่อกิโลกรัม   ขนาดสูงสุดที่ให้ได้ คือ 0.5 มิลลิกรัม

-  ผู้ใหญ่   ฉีดเข้าใต้ผิวหนังหรือเข้ากล้าม  0.2 – 0.5 มิลลิกรัม ต่อกิโลกรัม   ขนาดสูงสุดที่ให้ได้ คือ 1 มิลลิกรัม   อาจให้ซ้ำได้ทุก 15 นาที  2  ครั้ง   ต่อจากนั้นให้ยาซ้ำได้ทุก 4 ชั่วโมง

  1. ใช้สารละลาย 0.1% (1  มิลลิกรัมต่อมิลลิลิตร)  หยดหรือพ่นในจมูก  ลดอาการคั่งในจมูก
  2. ใช้เป็นยาห้ามเลือดเฉพาะที่   ใช้สารละลาย  0.002-0.1%   ทาหรือพ่นผิวหนัง

คำเตือน  ข้อควรระวัง  และข้อห้ามใช้

1.    ห้ามใช้ในผู้ป่วยที่แพ้ยา   หรือส่วนประกอบของยานี้

2.    ใช้ยาอย่างระมัดระวังในผู้ป่วยสูงอายุ   ทารก   และเด็ก   ผู้ป่วยโรคหัวใจ   หลอดเลือด   ความดันโลหิตสูง   โรคเบาหวาน   โรคหืดหลอดลม

3.    ไม่มีรายงานความปลอดภัยจากการใช้ยาในหญิงมีครรภ์

อาการไม่พึงประสงค์

                1.  ทำให้เกิดอาการวิตกกังวล   ปวดศีรษะ   ใจสั่น

                2.  การฉีดยาซ้ำบริเวณเดิม   อาจทำให้เนื้อเยื่อบริเวณนั้นตายได้

 

Atropine sulphate  Injection

ส่วนประกอบ 

                 ใน 1 มิลลิลิตร ประกอบด้วยตัวยา Atropine sulphate 0.6 มิลลิกรัม  

ข้อบ่งใช้ 

- ต้านพิษของสารฆ่าแมลงกลุ่ม organophosphates และ carbamates ที่เกิดจากการกระตุ้น muscarinic receptor

- ต้านฤทธิ์ยาที่ทำให้การเต้นของหัวใจช้าลง ได้แก่ digitalis หรือ beta blockers

- ต้านฤทธิ์สารที่เป็น cholinergic เช่น เห็ดบางชนิด

ขนาดและวิธีใช้

  1. กรณีภาวะเป็นพิษจากสารยาฆ่าแมลงกลุ่ม organophosphates และ carbamates ผู้ใหญ่ 1-5 mg ทางเส้นเลือดดำ เด็ก 0.05 mg/kg ทางเส้นเลือดดำ ให้ซ้ำทุก 5 ถึง 10 นาที จนเห็นฤทธิ์ atropine ชัดเจน ได้แก่ ปากแห้ง คอแห้ง หัวใจเต้นเร็ว ในรายที่ภาวะเป็นพิษรุนแรงอาจต้องใช้ atropine จำนวนหลายกรัมในการแก้พิษ
  2. กรณีหัวใจเต้นช้าจากยาประเภทอื่น ผู้ใหญ่ 0.5-1 mg ทางเส้นเลือดดำ เด็ก 0.01-0.05 mg/kg โดย ไม่เกิน 0.5 mg ทาง เส้นเลือดดำ ให้ซ้ำได้ตามความจำเป็น การให้เกิน 3 mg ถ้ายังไม่เห็นผลจากการรักษาควรหยุดให้ ยกเว้นในกรณีหัวใจเต้นช้าจากยา organophosphates สามารถให้ในขนาดสูงกว่านี้

คำเตือน ข้อควรระวัง และข้อห้ามใช้ 

  1. ต้อหิน เนื่องจาก atropine จะเพิ่มความดันในลูกตา
  2. ผู้ป่วยความดันโลหิตสูงทำให้หัวใจเต้นเร็ว และมีภาวะหัวใจล้มเหลว
  3. มีการอุดกั้นในทางเดินปัสสาวะจากการเกร็งตัวของ urinary sphincter

อาการไม่พึงประสงค์  

  1. ปากแห้ง ตาพร่า รูม่านตาขยาย เพิ่มความดันในลูกตา ปัสสาวะไม่ออก ท้องผูก ทำให้ angina pectoris เลวลง

ในผู้ใหญ่ที่ได้รับ atropine น้อยกว่า 0.5 mg ทางเส้นเลือดดำอย่างช้าๆ อาจทำให้หัวใจเต้นช้า

10 % Calcium gluconate

ส่วนประกอบ

                      10 % Calcium gluconate in 10 ml amp. ( 1 ml มี 0.45 mEq )

ข้อบ่งใช้

ใช้เพื่อเพิ่มระดับแคลเซียมในพลาสมา ภาวะเกร็งกระตุกจากภาวะพร่องไทรอยด์ฮอร์โมน หรือใช้เสริมการรักษาโรคอื่นๆ เช่น กระดูกอ่อน เปราะ

ขนาดและวิธีการใช้ 

ภาวะ Hypocalcemia
                 -เด็กแรกเกิด-1เดือน : 200 – 800 mg/kg/day โดยแบ่งให้วันละ 4 ครั้ง
                 -เด็ก อายุ 1 เดือน – 12 ปี : 5-15 mcg/kg/min เพิ่ม cardiac output
                 -ผู้ใหญ่ : 2 – 15 g/day โดยแบ่งให้วันละ 4 ครั้ง
ภาวะ Hypocalcemic tetany
         - เด็กแรกเกิด-1เดือน : 100 – 200 mg/kg/dose และอาจให้ต่อในขนาด 500 mg/kg/day โดยแบ่งให้วันละ 3 – 4 dose
         - เด็ก อายุ 1 เดือน – 12 ปี: 100 – 200 mg/kg/dose ( 0.5 – 0.7 mEq/kg/dose ) over 5 – 10 min และอาจให้
            ซ้ำได้ทุก 6 – 8 ชม.หรือให้ตามแบบ infusion ขนาด 500 mg/kg/day
          - ผู้ใหญ่: 1 – 3 g ( 4.5 – 1.6 mEq ) อาจให้ต่อจนกว่าผลการรักษาจะเป็นที่น่าพอใจ

Calcium antagonist toxicity, Magnesium intoxication
                 - เด็ก อายุ 1 เดือน – 12 ปี: 60 - 100 mg/kg/dose
                 -ผู้ใหญ่ : 500 – 800 mg -Max dose : 3 g/dose ( Maximum dose : 50 mg/kg/min )

คำเตือน ข้อควรระวัง และข้อห้ามใช้ 

                อาจเกิด เฉื่อยชา คลื่นไส้อาเจียน  และควรรักษาตามอาการ

อาการไม่พึงประสงค์ 

-หัวใจเต้นผิดจังหวะ

- หากมี Ca ++ สูง  อาจทำให้กล้ามเนื้ออ่อนแรง  ปวดบริเวณกระดูก

- ถ้ามียารั่วซึมออกมานอกหลอดเลือด จะทำให้เกิดเนื้อเยื่อตายได้

Chlorpheniramine   Maleate   Injection

ส่วนประกอบ 

                ใน  1  มิลลิลิตร  ประกอบด้วยตัวยา   Chlorpheniramine   maleate     10  มิลลิกรัม

ข้อบ่งใช้ 

บรรเทาอาการแพ้ เช่น ไข้ละอองฟาง   และลมพิษ

ขนาดและวิธีการใช้

                 การบรรเทาอาการแพ้ทันที (ที่ไม่ใช่ Anaphylactic   shock)  ให้ฉีดเข้าใต้ผิวหนัง   เข้ากล้ามเนื้อ   หรือเข้าหลอดเลือดดำอย่างช้าๆ ขนาด 10-20 มิลลิกรัม   โดยให้ผู้ป่วยอยู่ในท่านอนราบ   ถ้าจำเป็นอาจให้ได้สูงสุดไม่เกิน 40 มิลลิกรัม  ใน 24 ชั่วโมง

คำเตือน  ข้อควรระวัง  และข้อห้ามใช้

1.   ห้ามใช้ในผู้ป่วยที่แพ้ยา   หรือส่วนประกอบของยานี้

2.   ยานี้อาจทำให้เกิดอาการง่วงซึม   ไม่ควรขับขี่ยานยนต์   หรือทำงานเกี่ยวกับเครื่องจักรกล

3. ไม่ควรใช้ในเด็กแรกเกิด   หรือหญิงในระยะให้นมบุตร   เพราะยาถูกขับออกทางน้ำนม   นอกจากนี้ฤทธิ์ของยาอาจยับยั้งการหลั่งน้ำนมด้วย

4.  ไม่ควรใช้ในการรักษาโรคทางเดินหายใจส่วนล่างและโรคหืด   เพราะฤทธิ์ยาทำให้น้ำคัดหลั่งเหนียวหนืด   ทำให้เสมหะขับยาออกมา

5.    เก็บยานี้ไว้ที่อุณหภูมิ  8-15 องศาเซลเซียส   และอย่าให้ยาถูกแสงสว่าง

อาการไม่พึงประสงค์

                1.  อาการสงบระงับ   ทำให้ง่วงจนถึงหลับ

                2.  คลื่นไส้   อาเจียน  ท้องร่วง  ท้องผูก  ปวดศีรษะ  สายตาพร่า  หูอื้อ  กระวนกระวาย  ฝันร้าย 

 

Dexamethasone 4 mg/ml inj.

ส่วนประกอบ 

                ใน 1 มิลลิลิตร ประกอบด้วยยา  Dexamethasone SO4     4   มิลลิกรัม  

ข้อบ่งใช้ 

ใช้เป็นยาต้านอักเสบและแก้แพ้  เช่น รักษาอาการแพ้ชนิดรุนแรงหรือเรื้อรัง เช่น หืด แพ้ยา โรคภูมิแพ้ทางผิวหนัง หรือกลุ่มโรคออโตอิมมูน  

ขนาดและวิธีใช้ 

- เด็ก 0.08-0.3 มก./กก./วัน เข้ากล้าม หรือเข้าหลอดเลือดดำ แบ่งให้ทุก 6-12 ชั่วโมง 

- ผู้ใหญ่ฉีดวันละ 4-20 มก.  เข้ากล้าม หรือเข้าหลอดเลือดดำ แบ่งให้ทุก 6-12 ชั่วโมง 

คำเตือน ข้อควรระวัง และข้อห้ามใช้ 

ห้ามใช้ในคนที่เป็นแผล  โรคติดเชื้อรา โรคติดเชื้อไวรัสบางชนิด ต้อหิน หรือคนที่แพ้ยากลุ่มนี้ 

1. ควรใช้เท่าที่จำเป็น อย่าพร่ำเพรื่อ อย่าใช้เป็นยาลดไข้แก้ปวด หรือแก้อักเสบ โดยที่ยังไม่ทราบสาเหตุ
2. ควรใช้ยาลดกรดกินควบด้วยทุกครั้ง เพื่อป้องกันการระคายกระเพาะ
3. พิษในระยะสั้น อาจทำให้แผลกำเริบ น้ำตาลในเลือดสูง (อาจเป็นเบาหวานได้) ลดภูมิต้านทานของ   ร่างกายทำให้ติดเชื้อ (เช่น วัณโรค ปอดอักเสบ) ได้ง่าย
4. พิษในระยะยาว ทำให้บวมฉุ กระดูกผุหักง่าย แผลหายช้า มีจ้ำเขียวขึ้นตามผิวหนัง เกลือแร่ในร่างกายเสียความสมดุล เป็นต้อกระจก ต้อหิน ความดันโลหิตสูง หน้าบวม มีหนวดขึ้น เป็นสิว โรคจิตประสาท
5. ผู้ป่วยที่ใช้สเตอรอยด์ติดต่อกันนาน ๆ เมื่ออาการดีขึ้น ต้องค่อย ๆ ลดขนาดของยาลงทีละน้อย เพื่อให้ต่อมหมวกไตค่อย ๆ ฟื้นตัวขึ้น หากหยุดยาทันทีโดยที่ต่อมหมวกไตยังฟื้นตัวไม่ดี ก็อาจเกิดอันตรายถึงตายได้ เนื่องจาก "ภาวะวิกฤตจากต่อมหมวกไตฝ่อ" 
6. ควรระมัดระวังในการใช้ในผู้ที่มีภาวะหัวใจล้ม ไตวาย ความดันโลหิตสูง เบาหวาน กระดูกผุ ผู้ที่เคยมีประวัติวัณโรค

ผลข้างเคียง
อาจทำให้เป็นเบาหวาน ความดันโลหิตสูง โรคแผลเพ็ปติกกำเริบ บวม กระดูกผุ แผลหายช้า ติดเชื้อง่าย

Diazepam   Injection

ส่วนประกอบ

                ใน  2  มิลลิลิตร  ประกอบด้วยตัวยา   Diazepam   10  มิลลิกรัม

ข้อบ่งใช้

  1. ใช้บรรเทาอาการวิตกกังวล ประสาทตึงเครียด กระวนกระวาย นอนไม่หลับ
  2. ใช้ระงับอาการชักแบบ Status epilepticus
  3. ใช้คลายกล้ามเนื้อในระยะที่มีอาการชักกระตุกขอกล้ามเนื้อเนื่องจากสาเหตุจาก เช่น กล้ามเนื้ออักเสบ หรือโรคบาดทะยัก
  4. ใช้บรรเทาอาการกระวนกระวายหรือสั่นหรือการเกร็งตัวของกล้ามเนื้อ ในระยะที่เลิกดื่มสุรา

ขนาดและวิธีการใช้

ผู้ใหญ่     

1. ลดอาการวิตกกังวล

 – IM หรือ IV ขนาด 2-10 มก. อาจซ้ำได้ใน 3 หรือ 4 ชม. ตามความจำเป็น

2.ระงับชักในโรคลมชัก

- IV ขนาดเริ่มต้น 5-10 มก.ให้ซ้ำได้ใน 10-15 นาที ขนาดยาสูงสุดไม่เกิน 30 มก.  ถ้าจำเป็นอาจให้ยาซ้ำได้ใน 2-4 ชั่วโมง

3.คลายกล้ามเนื้อ  

- ฉีดเข้ากล้ามเนื้อหรือหลอดเลือดดำ ขนาดเริ่มต้น 5-10 มก. อาจซ้ำได้ใน 3 หรือ 4 ชั่วโมงตามความจำเป็น

   สำหรับโรคบาดทะยัก อาจจำเป็นต้องให้ขนาดยาสูงไม่เกิน 20 มก. ทุก 2-8 ชั่วโมง

4.ใช้บรรเทาอาการในระยะที่เลิกดื่มสุรา

- IM หรือ IV ขนาดเริ่มต้น 10 มก.จากนั้นตามด้วยขนาด 5-10 มก.ทุก3หรือ4 ชม. ตามความจำเป็น

เด็ก อายุ 5 ปีขึ้นไป

  1. ระงับชักในโรคลมชัก

-IV ขนาดเริ่มต้น 1 มก.ให้ซ้ำได้ใน 2-5 นาที ขนาดยาสูงสุดไม่เกิน 10 มก. ถ้าจำเป็นอาจให้ยาซ้ำได้ใน 2-4 ชั่วโมง

  1. คลายกล้ามเนื้อในโรคบาดทะยัก

-ฉีดเข้ากล้ามเนื้อหรือหลอดเลือดดำ ขนาดเริ่มต้น 5-10 มก. อาจซ้ำได้ใน 3 หรือ 4 ชั่วโมง

                เด็กอายุ 1 เดือน ขึ้นไป 5 ปี

  1. ระงับชักในโรคลมชัก

-IV ขนาดเริ่มต้น 0.2-0.5 มก.ให้ซ้ำได้ใน 2-5 นาที ขนาดยาสูงสุดไม่เกิน 5 มก. ถ้าจำเป็นอาจให้ยาซ้ำได้ใน 2-4 ชั่วโมง

  1. คลายกล้ามเนื้อในโรคบาดทะยัก

-ฉีดเข้ากล้ามเนื้อหรือหลอดเลือดดำ ขนาดเริ่มต้น 1-2 มก. อาจซ้ำได้ใน 3 หรือ 4 ชั่วโมง

คำเตือน  ข้อควรระวัง  และข้อห้ามใช้

อาจเสพติดและให้โทษ ต้องใช้ตามคำสั่งแพทย์เท่านั้น**

อาการไม่พึงประสงค์

                - ผลจากการกดประสาทส่วนกลาง อาจทำให้เกิดอาการง่วงนอน กล้ามเนื้อทำงานไม่ประสานกัน เมื่อยล้า มึนงง สับสน หรือมีอาการประสาทหลอน

- การฉีดยาเข้าทางหลอดเลือดดำเร็วเกินไป อาจทำให้เกิดการกดการหายใจ ความดันเลือดต่ำ หรือหัวใจหยุดเต้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในผู้สูงอายุหรือผู้ป่วยหนัก

Diclofenac   Injection

ส่วนประกอบ

                ใน  3  มิลลิลิตร (1 ampule)  ประกอบด้วยตัวยา   Diclofenac    75  มิลลิกรัม

ข้อบ่งใช้

-  ใช้รักษาเกี่ยวกับโรคข้อกระดูก   หรือกล้ามเนื้ออักเสบ เช่น Rheumatoid   arthritis , Osteoarthritis , Myositis

-     ใช้ระงับปวดภายหลังการผ่าตัด

ขนาดและวิธีการใช้

ฉีดเข้ากล้ามเนื้อบริเวณสะโพก   75  มิลลิกรัม   วันละ  1 ครั้ง   แต่ในรายที่อาการรุนแรงมากสามารถเพิ่มขนาดขึ้นได้เป็นวันละ 2 ครั้ง

คำเตือน  ข้อควรระวัง  และข้อห้ามใช้

1.    ห้ามใช้ในผู้ป่วยที่แพ้ยานี้ , Aspirin  หรือ NSAIDs อื่นๆ

2.    ห้ามใช้ในหญิงมีครรภ์   และหญิงให้นมบุตร

3.   ระวังการใช้ยากับผู้ป่วยโรคหอบหืด   โรคกระเพาะอาหาร-ลำไส้อักเสบ   และผู้ป่วยที่มีภาวะเลือดออกง่าย

4.    ระวังการใช้กับผู้ป่วยที่การทำงานของตับ – ไตบกพร่อง  ,  ผู้สูงอายุ

อาการไม่พึงประสงค์

                ปวดท้อง   กระเพาะอาหาร – ลำไส้เป็นแผล  ,  มีผื่นขึ้น  ,  ปวดศีรษะ  ,  มีอาการคั่งน้ำและบวม  ,  การทำงานของตับ – ไต  และระบบเลือดผิดปกติ

Furosemide inj.

ส่วนประกอบ

ใน 2 มิลลิลิตร ประกอบด้วยตัวยา Furosemide 20 มิลลิกรัม

ข้อบ่งใช้ 

                ใช้เป็นยาขับปัสสาวะเพื่อรักษาอาการบวมและคั่งของน้ำ ซึ่งเป็นผลมาจากโรคหัวใจ  โรคตับ  หรือใช้เพื่อรักษาโรคความดันโลหิตสูง

ขนาดและวิธีใช้

                -เด็ก  เข้ากล้าม หรือเข้าหลอดเลือดดำ 1 mg/kg/dose 

                -ผู้ใหญ่ เข้ากล้าม หรือเข้าหลอดเลือดดำ 20-40 mg/dose ทุก 6- 12 ชั่วโมง

คำเตือน ข้อควรระวัง และข้อห้ามใช้

                ห้ามใช้ในคนที่แพ้ยา หรือส่วนประกอบของยา

  • ยานี้อาจทำให้ร่างกายสูญเสียธาตุโพแทสเซียมได้ ดังนั้นแพทย์อาจสั่งจ่ายธาตุโพแทสเซียมเสริม หรืออาจแนะนำให้ท่านกินอาหารบางชนิดที่มีธาตุโพแทสเซียมในปริมาณสูง เช่นกล้วย ส้ม มะเขือเทศ เพิ่มมากขึ้น
  • ยานี้อาจทำให้เวียนศีรษะ อย่าขับรถ ควบคุมเครื่องจักร ปีนที่สูง หรือทำงานที่เสี่ยงอันตราย จนกว่าจะแน่ใจยาไม่มีผลต่อตัวท่านและควรหลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ เพราะจะทำให้มีอาการเวียนศีรษะมากขึ้น
  • เพื่อลดอาการเวียนศีรษะ ควรหลีกเลี่ยงการเปลี่ยนท่าทางอย่างรวดเร็วโดยเฉพาะอย่างยิ่งในผู้สูงอายุ
  • ยานี้ทำให้ผิวไวต่อแสงกว่าปกติ ควรหลีกเลี่ยงแสงแดดหรือสวมเสื้อผ้าป้องกันอย่างมิดชิด และควรใช้ผลิตภัณฑ์กันแดด

อาการไม่พึงประสงค์จากการใช้ยา

ความดันเลือดต่ำรุนแรง หลอดเลือดหัวใจอักเสบทำให้ตาย หัวใจหยุด หัวใจเต้นช้า เวียนศีรษะรุนแรงคล้ายจะหมดสติ ปวดท้องรุนแรง ตับอักเสบ เลือดจาง ภาวะพร่องเม็ดเลือดทุกชนิด เม็ดเลือดขาวต่ำ    การเห็นภาพเป็นสีเหลือง ตาพร่า เป็นพิษต่อหู มีอาการที่อาจบ่งชี้ว่ามีปัญหาเกี่ยวกับไต

Glucose 50% hypertonic inj

ส่วนประกอบ
                      ใน 100 มิลลิลิตร ประกอบด้วยตัวยา Dextrose 50 กรัม

ข้อบ่งใช้
ใช้ในกรณีที่ต้องการพลังงานอย่างรวดเร็ว เช่น ในผู้ป่วยเมาสุรา

ขนาดและวิธีใช้

                     ใช้ฉีดเข้าเส้นเลือดดำอย่างช้าๆ

คำเตือน ข้อห้ามใช้ และข้อควรระวัง
1. การให้แบบ IV Infusion ต้องให้ช้าๆ ผ่านทางเส้นเลือดขนาดใหญ่ (Central Vein ) ไม่ควรผสมร่วมกับ Whole Blood
2. อาจทำให้รู้สึกร้อนในตัว เนื่องจากมีความเข้มข้นสูง
3. ถ้าเครื่องมือฉีดยาไม่สะอาด อาจทำให้มีอาการหนาวสั่น หรือหลอดเลือดดำอักเสบได้ 
4. ห้ามใช้ในผู้ป่วยที่ไม่ถ่ายปัสสาวะ (Anuria) เลือดออกในสมอง (Intracranial Hemorrhage) เลือดออกไขสันหลัง (Intraspinal Hemorrhage)
5. Hypertonic Solution มักทำให้เกิดการระคายเคืองและอาจเกิดภาวะน้ำตาลในเลือดสูง และปัสสาวะมีสีน้ำตาลมากกว่าปกติอาการข้างเคียง
อาจเกิดอาการเจ็บปวด , ระคายเคืองเส้นเลือด ,หลอดเลือดดำอักเสบ (Trombophlebitis) ตรงบริเวณที่ให้ยา เกิดอาการไม่สมดุลของน้ำและเกลือแร่ในร่างกาย บวม โปแตสเซียมในเลือดต่ำ

 

สารละลายกลูโคสและโซเดียมคลอไรด์

D-5-NSS ขนาด 500 มิลลิลิตร  และ 1000 มิลลิลิตร , D-5-NSS/2 ขนาด 500 มิลลิลิตร  และ 1000 มิลลิลิตร

ส่วนประกอบ

                -   D-5-NSS            ประกอบด้วย  Dextrose 5% ใน 0.9%  Normal  Saline  Solution

                -   D-5-NSS/2         ประกอบด้วย  Dextrose 5% ใน 0.45%Normal  Saline  Solution

ข้อบ่งใช้

เป็นสารอาหารและเป็นตัวทำละลายสำหรับยาหลายชนิดที่ให้โดยปล่อยเข้าเส้นเลือดดำอย่างช้าๆ

ขนาดและวิธีการใช้

                ให้โดยการปล่อยเข้าหลอดเลือดดำขนาดทั่วไป  500-1,000  มิลลิลิตร   โดยใช้  5% dextrose   ปรับตามอาการและขนาดตัวผู้ป่วย

คำเตือน  ข้อควรระวัง  และข้อห้ามใช้

                ไม่ควรฉีดเข้าผิวหนัง   เพราะจะระคายเคือง   น้ำและเกลือแร่ที่ฉีดจะซึมเข้าเซลล์   อาจทำให้เนื้อเยื่อโป่งพอง   และทำให้เนื้อเยื่อเน่าตายได้               

 

 

สารละลายกลูโคสและน้ำ

D-5-W  ขนาด 500 มิลลิลิตร  และ 1,000 มิลลิลิตร

ส่วนประกอบ

                 D-5-W     ประกอบด้วย  Dextrose 5% ใน  Water (for   injection)

ข้อบ่งใช้

เป็นแหล่งของพลังงานและน้ำ    อาจผสมใน IV  fluid  อื่นๆ ที่เข้ากันได้

ขนาดและวิธีการใช้

                ความเข้มข้นและขนาดของยาขึ้นอยู่กับอายุ   น้ำหนักตัว   และอาการของผู้ป่วย

คำเตือน  ข้อควรระวัง  และข้อห้ามใช้

                ห้ามใช้ในผู้ป่วย Diabetic   coma   ซึ่งมีระดับน้ำตาลในเลือดสูง

อาการไม่พึงประสงค์

                1.  การให้  5% Dextrose   injection   ติดต่อกันเป็นเวลานานๆ   อาจทำให้หลอดเลือดดำอักเสบ

                2.  อาจเกิดไข้   การติดเชื้อบริเวณที่ฉีดยาหรือหลอดเลือดดำอักเสบ

Hyoscine – N – Butylbromide   Injection

ส่วนประกอบ

                 ใน  1  มิลลิลิตร   ประกอบด้วยตัวยา  Hyoscine – N –Butylbromide  20  มิลลิกรัม

ข้อบ่งใช้

ใช้สำหรับฉีดเพื่อลดอาการปวด   มวนท้อง   แน่นจุกเสียด   ปวดบริเวณท้องน้อย   ในรายที่มีการบีบตัวมากเกินไปเนื่องจากมีนิ่วในถุงน้ำดีหรือไต    และใช้บรรเทาอาการปวดประจำเดือน

ขนาดและวิธีการใช้

ใช้ฉีดเข้ากล้ามเนื้อหรือเข้าเส้นโลหิตดำ   ครั้งละ 20 มิลลิกรัม (1  ซีซี)    วันละ  3 ครั้ง   อาจให้อีกครั้งหลังจาก  30  นาทีถ้าจำเป็น

ข้อควรระวัง

                ในกรณีฉีดเข้าเส้นโลหิตดำ   อาจพบว่าอัตราการเต้นของชีพจรเพิ่มขึ้นเล็กน้อย   หากใช้ยานี้ในปริมาณสูง   อาจทำให้สายตาพร่าได้เล็กน้อย   แต่อาการจะค่อยๆ หายไปเอง

คำเตือน

                1.  ผู้สูงอายุ   หรือเด็กอายุต่ำกว่า 6 ปี   ควรใช้ตามแพทย์สั่ง

                2.  ห้ามใช้ในโรคต้อหิน

                3.  หากเกิดอาการชีพจรเต้นเร็ว   มึนงง   หรือสายตาพร่า   ให้หยุดใช้ยา

ข้อห้ามใช้

ยานี้ไม่ควรฉีดกับผู้ป่วยที่มีอาการผิดปกติ   ดังต่อไปนี้

                -   โรคต้อหิน

                -   โรคลำไส้อุดตัน

                -   หัวใจเต้นเร็ว

                -   ลำไส้ใหญ่ขยายตัวผิดปกติ

 Glucose 50% hypertonic inj

ส่วนประกอบ

ความเข้มข้น  2%   20 ml  ( ในน้ำยา 1 ml จะมีตัวยาละลายอยู่ 20 mg )

ข้อบ่งใช้

Lidocaine   เป็นยาชาเฉพาะที่  ทีใช้รักษาการเต้นผิดจังหวะของหัวใจห้องล่าง  ( ventricular arrhythmia )  และใช้เป็นยาเฉพาะที่เพื่อป้องกัน หรือ บรรเทาความเจ็บปวดเฉพาะที่

ขนาดและวิธีใช้

                ยา Lidocaine มี oral  bioavailability ต่ำ และมีระยะเวลาในการออกฤทธิ์สั้นมาก จึงสามารถที่จะให้ยาในลักษณะ  intravenous bolus ได้ โดยเฉพาะเมื่อเริ่มต้นการรักษา เพื่อให้ได้การตอบสนองต่อยาในทันที  ขนาดยาในการ  bolus  คือ 1-2 mg/kg ตามด้วยการหยดเข้าหลอดเลือดดำอย่างต่อเนื่อง ( continuous infusion ) ด้วยขนาด 1- 4 mg/min  สำหรับ  ventricular arrhythmia

คำเตือน ข้อควรระวัง และข้อห้ามใช้

1. ในรายที่ผู้ป่วยเด็กอ่อนเพลียมาก ได้รับอาหารไม่เพียงพอ หรือผู้สูงอายุ ควรลดขนาดของยาให้ต่ำลง
2. ในกรณีที่ผู้ป่วยเป็นสตรีกำลังตั้งครรภ์ ไม่ควรใช้ขนาดสูง เพราะอาจเป็นอันตรายต่อทารกในครรภ์
3. ห้ามฉีดเข้าหลอดเลือดดำของผู้ป่วย ซึ่งมีตับหย่อนสมรรถภาพ ทั้งนี้ เพราะตับเป็นอวัยวะสำคัญในการกำจัดสารพิษของยานี้
4. ไม่ควรให้ยานี้แก้ผู้ป่วยที่เป็นโรค Heart Block หรือโรคที่เกี่ยวกับความผิดปกติในการนำผ่านกระแสประสาทภายในหัวใจ หรือในรายที่หัวใจเต้นช้ากว่าปกติ หัวใจวาย หรือความดันโลหิตต่ำลง

อาการไม่พึงประสงค์

อาจมีอาการมึนงง ตาพร่ามัว อ่อนเพลีย ชักและหมดสติได้ ทำให้ความดันต่ำ กดการเต้นของหัวใจ ทำให้หัวใจเต้นช้า และหยุดทำงานได้

DMPA

ส่วนประกอบ

                Medroxyprogesterone acetate 150 mg ชนิดฉีด

ข้อบ่งใช้

ใช้เป็นยาคุมกำเนิด

ขนาดและวิธีการใช้

                ขนาดที่ใช้ 150 มิลลิกรัม ฉีดเข้ากล้ามตรงสะโพก ฉีดทุก 3 เดือน ลักษณะของยา เป็นผลึกแขวนลอยสีขาว ตกตะกอน เวลาฉีดต้องเขย่า เวลาดูดจะเป็นฟอง

คำเตือน   และข้อห้ามใช้

1.  ห้ามใช้ยานี้กับผู้ป่วยโรคหลอดเลือดอุดตัน และโรคตับ

2. ไม่ควรใช้ในสตรีที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดหลอดเลือดอุดตัน เช่น มีประวัติเป็นโรคหลอดเลือดอักเสบ โรคอ้วน เบาหวาน และความดันโลหิตสูง

3.  ระมัดระวังการใช้ในสตรีที่สูบบุหรี่โดยเฉพาะสตรีที่อายุมากกว่า 35 ปี ควรปรึกษา แพทย์ก่อนใช้ยา

4. สตรีที่สงสัยหรือกำลังตั้งครรภ์

5. สตรีที่ยังไม่มีบุตร เนื่องจากภาวะเจริญพันธ์จะกลับมาช้า และไม่แน่นอน

6.  สตรีที่มีเลือดออกผิดปกติโดยไม่ทราบสาเหตุ

อาการอันไม่พึงประสงค์

1. อาจมีเลือดออกมากหรือออกนาน พบไม่บ่อยนัก สามารถพบแพทย์เพื่อตรวจและบำบัดให้หายได้

2. เลือดออกกระปริบกระปรอย พบได้ค่อนข้างบ่อยในเข็มแรกๆ ประมาณ ร้อยละ 30 ปัญหานี้ไม่รุนแรง แต่ก็ก่อให้เกิดความรำคาญได้ ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ผู้ใช้เลิกฉีดต่อ

3. การขาดระดู พบได้บ่อยที่สุด เนื่องจากยาคุมไปทำให้เยื่อบุโพรงมดลูกฝ่อและบาง จึงไม่มีประจำเดือน หลังจากหยุดฉีดไปแล้ว 9 - 12 เดือนมดลูกก็จะกลับคืนสภาพเดิม

4. อาจมีน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นได้ เพราะเชื่อกันว่า ฮอร์โมนนี้ไปกระตุ้นต่อมความอยากอาหาร  ทำให้น้ำหนักตัวเพิ่มได้ ดังนั้นสตรีที่อ้วนจึงไม่แนะนำให้ฉีด

5. อาการปวดศีรษะ อาจพบได้ในบางราย แต่ไม่รุนแรงและหายเองได้

Metoclopramide   Injection

ส่วนประกอบ

                 ใน  2  มิลลิลิตร (1  ampule)  ประกอบด้วยตัวยา  Metoclopramide  10  มิลลิกรัม

ข้อบ่งใช้

-     ป้องกันอาการคลื่นไส้   อาเจียน ที่เกิดเนื่องจากสาเหตุต่างๆ

-   ใช้ในผู้ป่วยที่มีการเคลื่อนไหวของทางเดินอาหารน้อยกว่าปกติ   หรือกระเพาะอาหารบีบตัวน้อยกว่าปกติ

ขนาดและวิธีการใช้

-   ผู้ใหญ่                 ฉีดเข้ากล้ามเนื้อหรือหลอดเลือดดำ  10 มิลลิกรัม   วันละ 4 ครั้ง  ก่อนอาหาร 30 นาที  และก่อนนอน   หรือหยอดเข้าเส้นเลือดดำ 2 มิลลิกรัมต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม  ก่อนได้รับยาที่ทำให้เกิดอาการอาเจียน 30 นาที   อาจให้ซ้ำได้ทุก 2 หรือ  3 ชั่วโมง

-   เด็ก 6-14 ปี         ฉีดเข้าหลอดเลือดดำ  2.5-5 มิลลิกรัม  ครั้งเดียว

-   เด็กต่ำกว่า 6 ปี  ฉีดเข้าหลอดเลือดดำ  0.1 มิลลิกรัมต่อน้ำหนักตัว  1  กิโลกรัม   ครั้งเดียว

คำเตือน  และข้อควรระวัง

1.   ควรใช้ด้วยความระมัดระวังในหญิงมีครรภ์  หญิงระยะให้นมบุตร  เด็ก   ผู้สูงอายุ   ผู้ป่วยโรคหอบ หืด   ความดันโลหิตสูง   และโรคตับ

 2.   ยานี้อาจทำให้เกิดอาการง่วงซึม   จึงไม่ควรขับขี่ยานยนต์   หรือทำงานเกี่ยวกับเครื่องจักรกล

3.  เมื่อใช้ยาร่วมกับแอลกอฮอล์   ยานอนหลับ   หรือยากดประสาทส่วนกลางตัวอื่น  จะเสริมฤทธิ์กัน   ทำให้เกิดอาการง่วงนอนมากขึ้น

4.  ระวังการใช้ยานี้ร่วมกับยาอื่นๆ เช่น ยากลุ่ม Anticholinergic  , ยาที่ทำให้เกิดอาการผิดปกติทาง Extrapyramidal  และยาแก้ปวดในกลุ่ม Opium

5.   การฉีดยาเข้าหลอดเลือดดำ   ต้องฉีดช้าๆ   โดยใช้เวลาไม่น้อยกว่า 1-2 นาที   เนื่องจากการฉีดอย่างรวดเร็ว  อาจทำให้ผู้ป่วยเกิดอาการกระวนกระวายอย่างรุ

หมายเลขบันทึก: 427983เขียนเมื่อ 23 กุมภาพันธ์ 2011 15:23 น. ()แก้ไขเมื่อ 22 มิถุนายน 2012 21:27 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท