การบริหารเงินคืน 1% ของกลุ่ม เพื่ออนาคต
เงินคืน 1% ของโครงการพัฒนาชีวิตครู(ไม่ควรนำมาเป็นเงินเฉลี่ยคืน) ที่เกิดจากความร่วมมือสามฝ่ายจาก กระทรวงศึกษาธิการ กลุ่มครูที่เป็นสมาชิกของโครงการ และธนาคารออมสิน เป็นข้อตกลงที่ใช้สร้างเงื่อนไขให้ครูมีวินัยทางการเงินและเข้ามารวมกลุ่มกันด้วยกระบวนการพัฒนา ใช้เงินสัจจะเป็นจุดร่วม ส่วนการยื่นขอรับความช่วยเหลือ (กู้เงินมาใช้หนี้)เป็นขั้นตอนหนึ่งที่ครูทุกคนต้องการได้รับอย่างรวดเร็ว โดยต้องมีการพัฒนางานในหน้าที่ สร้างวินัยทางการเงิน ดูแลครอบครัวและอนาคต ควบคู่ไปกับการบริหารเงินและหน้สินที่ค้างชำระ
หลายกลุ่มมีปัญหา เข้าไปบอกเล่าใน blogTodsapol ต้องขอเสนอแนะ ดังนั้น ๑. ความจริงใจของสมาชิก ครู ที่เข้ามารวมกลุ่มกัน สำคัญที่สุด
(เอ๋ย ... ไปช่วยเขาทำไม ขนาดญาติๆเข้ายังไม่ช่วยเลย... โธ่เอย..ครูก็คน ..มันก็มีความโลภน๊ะ....อย่าเอาตัวเข้าไปยุ่งเลยเรื่องเงินเดี๋ยวจะเดือดร้อน.... ช่วยเขาได้ก็ดีในวัน้นที่เขาจะได้เงิน มาหาเราทุกวัน แต่เมื่อได้รับแล้วบ้างก็ลืมมึงแล้วละ ..บ้างก็คิดหวาดระเวงตึงมึงอีก... ???? สารพัดตำเตือนจากมิตร พี่ และผู้ใหญ่ แล้วครูที่เขาดี ๆ พลาดโอกาสล่ะ ... )
๒. ประธานกลุ่ม และคณะกรรมการกลุ่มต้องร่วมกันแก้ปัญหานี้ด้วยการส่งเงินสัจจะที่ค้างชำระให้เป็นปัจจุบัน และคิดกิจกรรมที่ส่งผลต่องานในหน้าที่อย่างต่อเนื่อง
ของกลุ่มผมที่ทำอยู่เพื่อความมั่นคง
1. ใช้การกันเงินคืนหนึ่ง%ที่ได้แต่ละปี หักเป็นเงินฝากสัจจะรายคนรายปีไว้ครบจำนวนเปิดเป็นบัญชีสำรองไว้เพื่อการฝากโอนเป็นรายเดือน ไม่ต้องไปตามเก็บกันทุกเดือน
2. หักไว้เป็นเงินประกันความเสี่ยง 40 % (เพราะวันข้างหน้า ใจคนคาดเดาไม่ได้ ว่าจะเชื่อใจได้มากเพียงไร)
3. หักไว้ 20 % เป็นค่าดำเนินการของคณะกรรมการ เลขา ประธาน ฯ
4. และ 40 % นำมาทำกิจกรรมร่วมกัน (ผมทำโครงการพัฒนาชีวิตครูสู่การปฏิรูปการศึกษา เป็นโครงการต่อเนื่องและปรับกิจกรรมตามบริบท)
ประธานกลุ่มและ/หรือตัวแทนที่สามารถประสานกับธนาคารได้นั้น เป็นผู้ที่มีความสำคัญที่สุด คือ ต้องเสียสละ รู้ข้อมูลของสมาชิกทุกคน โปร่งใส และเป็นกัลญานมิตร
เมื่อใดที่ภถายในกลุ่มเริ่มมีความมั่นมั่นคง ก็จงพิจารณาไปที่ "ผลประโยชน์" เงินย่อมไม่เข้าใครออกใคร และต้องระวังคนใกล้ตัวที่อาจเกิดมิจฉาทิฐิ สร้างปัญหาให้ส่วนรวมเพราะความโลภและความไม่เข้าใจ หรืออาจจะคิดโค่นอำนาจถ้าบริหารให้มีเงินเข้ามาเยอะๆ
ความดีที่ครูได้รับการปลดปล่อย ของบูชาครู ไพบูลย์ วัฒนศิริธรรม ครู เกษม กลั่นยิ่ง และครูอำนาจ สุนทรธรรม ที่จะลืมเสียไม่ได้คือ ธนาคารออมสิน และผู้บังคับบัญชาทุกระดับที่เห็นความสำคัญของโครงการพัฒนาชีวิตครู (ประเทศไทย)
ไม่มีความเห็น