หลักการพื้นฐานที่สุดทางด้านจิตใจหลักการหนึ่งซึ่งปรากฏในปรัชญาอันหลากหลายก็คือ ความคิดเกี่ยวกับการเปิดหัวใจให้กับภาวะ “มันเป็น.....(เช่นนั้นเอง)” แทนที่จะยืนยันว่าชีวิตต้องเป็นไปตามทางที่กำหนดเท่านั้น ความคิดนี้สำคัญมาก เนื่องจากความรู้สึกร้อนรนภายในมีรากเหง้ามาจากความปรารถนาที่จะควบคุมชีวิต และยืนยันว่ามันจะต้องแตกต่างจากที่มันเป็นอยู่ แต่ชีวิตไม่ใช่(หรือแม้แต่ไม่ค่อย) เป็นไปตามที่เราต้องการเสมอ ทว่ามักเป็นไปตามทางของมันเอง ยิ่งเรายอมรับความจริงที่เกิดขึ้นในขณะนั้นจิตใจเราก็ยิ่งสงบสุข
ถ้าเรามีความคิดที่กำหนดไว้ล่วงหน้าว่าชีวิตควรเป็นเช่นไร มันจะเข้าแทรกแซงโอกาสที่เราจะได้ชื่นชมหรือเรียนรู้ชีวิตในขณะปัจจุบันได้ ทั้งยังทำให้เราไม่มีโอกาสได้ระลึกถึงความสามารถของตนเองที่จะแก้ไขปัญหาอุปสรรคต่างๆที่ผ่านเข้ามา ซึ่งอาจเป็นโอกาสดีในการเตือนสติตัวเองอีกด้วย
แทนที่จะมีปฏิกิริยาตอบโต้หรือต่อต้านการพร่ำบ่นของลูกๆ หรือความไม่เห็นด้วยในเรื่องต่างๆของคู่สมรส พยายามเปิดใจให้กว้างและยอมรับปัจจุบันตามความเป็นจริงที่เกิดขึ้น พยายามเปิดใจให้กว้างและยอมรับปัจจุบันตามความเป็นจริงที่เกิดขึ้น พยายามทำใจให้ยอมรับหากเหตุการณ์ต่างๆไม่เป็นไปตามต้องการ หรือถ้าโครงการไม่ผ่านการอนุมัติแทนที่จะรู้สึกพ่ายแพ้เสียใจ ให้ท่านลองดูว่าท่านสามารถบอกกับตัวเองได้หรือไม่ว่า “อ้าว ! ไม่ผ่านการอนุมัติหรือนี่ คราวหน้าฉันจะต้องทำให้มันได้รับการอนุมัติแน่” จากนั้นหายใจเข้าลึกๆและพยายามลดระดับการแสดงปฏิกิริยาตอบโต้สิ่งที่เกิดขึ้นให้น้อยลง
เพียงแต่ท่านเปิดใจต้อนรับสิ่งต่างๆด้วยวิธีนี้ มิได้หมายความว่าท่านพอใจที่ได้รับการพร่ำบ่น การไม่ยอมรับ หรือความล้มเหลว แต่หมายความว่าท่านควรทำตัวให้อยู่เหนือสิ่งดังกล่าว พูดสั้นๆก็คือให้ท่านยอมรับสิ่งที่เกิดขึ้นแม้ชีวิตจะไม่เป็นไปตามที่ท่านได้วางแผนไว้ ถ้าท่านสามารถเรียนรู้วิธีทำใจให้อยู่เหนือปัญหาอุปสรรคและความทุกข์ยากต่างๆของชีวิตประจำวันแล้ว ไม่ช้าท่านจะได้พบว่าสิ่งต่างๆมากมายหลายอย่างที่เคยรบกวนจิตใจท่านอยู่เสมอจะหมดความหมายไปในที่สุด มุมมองต่างๆเกี่ยวกับชีวิตของท่านจะลึกซึ้งยิ่งขึ้น ถ้าท่านต่อสู้กับสิ่งที่ท่านดิ้นรนและพยายามเอาชนะ ชีวิตจะกลายเป็นการทำสงคราม หรือคล้ายกับการเล่นปิงปอง ซึ่งตัวท่านเองจะมีสภาพคล้ายลูกปิงปอง แต่ถ้าท่านยอมแพ้แก่สิ่งที่เกิดขึ้นในขณะนั้น และยอมรับทุกอย่างที่กำลังเกิดขึ้น ทำใจให้คิดว่าเป็นเรื่องธรรมดา ความรู้สึกสงบเยือกเย็นจะเริ่มเกิดขึ้น ทดลองเทคนิคนี้ดูกับสิ่งท้าทายเล็กๆน้อยๆที่ท่านกำลังเผชิญอยู่ ไม่ช้าท่านจะสามารถขยายความตระหนักรู้ในเรื่องนี้ไปใช้กับปัญหาอุปสรรคและความทุกข์ยากที่เป็นเรื่องใหญ่กว่านี้ได้โดยไม่ยาก นี่เป็นวิธีดำรงชีวิตอยู่ต่อไปที่ทรงพลังอำนาจอย่างแท้จริงวิธีหนึ่ง
หลักการทำงานของผู้บริหารก็เช่นกันต้องใจกว้าง ไม่ยึดติดกับอำนาจและเอาความคิดของตนเป็นใหญ่แต่ฝ่ายเดียว ต้องเข้าใจในลักษณะของแต่ละบุคคลของผู้ใต้บังคับบัญชา มีวิสัยทัศน์ที่กว้างไกล มีเมตตา หวังดีต่อผู้ใต้บังคับบัญชาและมีธรรมะผู้นำ หากผู้บริหารเข้าใจผู้ใต้บังคับบัญชารู้ถึงปัญหาและความต้องการแล้วก็สามารถนำข้อมูลเบื้องต้นมาเป็นข้อมูลพื้นฐานเพื่อปรับ ประยุกต์ใช้กระบวนการบริหารให้สอดรับกับลักษณะขององค์กร ลักษณะของแต่ละบุคคล เพื่อพัฒนาสู่เป้าหมายเดียวกันได้ และทุกหน่วยทุกฝ่ายก็สามารถทำงานได้อย่างมีความสุข องค์กรก็เกิดการพัฒนา
ไม่มีความเห็น