ช่วงระหว่างการประชุมมีการเอ่ยล้อเลียนการพูดคุยข้อตกลงที่ต้องดำเนินการระหว่างโรงเรียนคู่พัฒนา ว่าอย่าให้เป็น Sleeping MOU ก็แล้วกันนะ คุณ Anti Rismayanti , IT Content Officer ของ อินโดนีเซีย เล่าเรื่องจริงประกอบคำว่า Sleeping MOU ด้วยการเอ่ยชื่อของโรงเรียนแห่งหนึ่งในประเทศไทย ตกลงทำสัญญาลงนาม MOU กับโรงเรียนของประเทศอินโดนีเซีย ประมาณ ๗- ๘ แห่งด้วยกัน ระยะเวลาล่วงเลยผ่านมาเนิ่นนานก็ยังไม่มีการดำเนินงานใดๆสักอย่าง กลายเป็น Sleeping MOU
โรงเรียนกำแพงเพชรพิทยาคมยึดหลักแห่งความพอเพียงด้วยการเลือกโรงเรียนคู่พัฒนา เพียงแห่งเดียว แต่คุณ Pesta Maria ซึ่งนั่งเคียงข้างมาตั้งแต่ต้น แจกนามบัตร พูดคุยสอบถามข้อมูลและฝึกภาษาทักทาย แลกเปลี่ยนกันอย่างสนุกสนาน ขอจับคู่ลงนาม MOU ด้วยโดยย้ำว่า สามารถลงนามได้ มากกว่า๒ โรงเรียน ขึ้นอยู่กับเรา เธอเองก็ไปลงนาม กับโรงเรียนอื่นด้วยเหมือนกัน คณะฯของเรามองตากันปริบๆ เดี๋ยวจะว่าใจจืด-ใจดำจึงต้องรับเป็นโรงเรียนคู่พัฒนาไปโดยปริยาย
เธอค่อนข้างจะไฮเปอร์สักนิด( คล้ายๆกันเลย) อัธยาศัยดีเยี่ยม มีวิสัยทัศน์กว้างไกล แกร่ง และคล่องแคล่วเหมาะสมที่จะเป็นผู้บริหารในยุคศตวรรษที่ ๒๑ กล่าวว่า ตนเองก็งานยุ่งมาก แต่ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้จึงต้องมาประชุม และบริหารงานผ่านทางอินเตอร์เน็ต แทน (ปรบมือดังๆให้เล้ย)
ส่วน Mr. Haryadi เป็นผู้บริหารที่มีศักยภาพสูงพอๆกัน แม้ผิวจะขาวผ่องไปตามเชื้อชาติของลูกครึ่งจีน ก็ไม่ได้หมายความว่าจะนั่งเทียน บริหารงานแต่ในห้องปรับอากาศ Don’t Judge a Person by Their cover (Don't judge a book by it's cover ) ถึงแม้จะใช้เวลาศึกษาจากการสนทนาพูดคุย ในระยะเวลาสั้นๆ แต่สาระฯที่ได้จากการแสดงความคิดเห็นและแนวทางการบริหารงานสามารถบ่งบอกระดับภูมิปัญญาได้ในระดับหนึ่ง
ที่น่าชื่นชมคือ เขามีความมั่นใจในการใช้ภาษาอังกฤษสื่อสาร หลายคำถามที่ขึ้นต้นด้วย Question Word เขายังตอบด้วย Yes …..เป็นอันเข้าใจว่า เก็บข้อมูลที่ต้องลงรายละเอียดลึกๆ ไว้พูดคุยกับท่านอื่นของทีมงานโรงเรียนดีกว่า (ฮา)
บางท่านขอทำ MOU กับโรงเรียนที่อยู่ห่างจากภัยธรรมชาติ แต่ติดตรงที่ว่าไม่ได้ศึกษาข้อมูลมาล่วงหน้า จึงไม่รู้แน่ชัดว่าโรงเรียนต่างๆ ตั้งอยู่เขตไหนแน่ จะถามตรงๆก็กลัวเสียมารยาท ตามนิสัยขี้เกรงใจของพี่ไทย (ฮา) เพราะงานนี้มีการแลกเปลี่ยนครู-นักเรียน ด้วยนะ บางคนบอกว่า ยินดีต้อนรับให้ฝ่ายเขามาประเทศไทยแต่สละสิทธิ์ที่จะไปทางโน้น อ้าว..... ได้ไงล่ะจ๊ะ
หลายคนจากวงการอื่นๆ เริ่มเข้าใจแล้วว่า ครูสมัยนี้ไม่ใช่สอนอย่างเดียว ต้องไถนาด้วย เอ๊ยไม่ใช่ ต้องรับงานอื่นๆ ด้วย
" การต้องรับผิดชอบงานหลายอย่าง เป็นโอกาสอันดีที่จะได้ศึกษาเรียนรู้และเพิ่มพูนประสบการณ์ ถือว่าเป็นกำไรชีวิต " นี่เป็นเหตุผลหลักที่ไม่กล้าเกษียณอายุงานก่อนกำหนด คุ้นชินกับภารงานอันวุ่นวายที่เร่งด่วนแบบไฟลนก้น วันละหลายๆเรื่อง การทำงานเช่นนี้หากเป็นธุรกิจของตนเอง คงรวยล้นหรือไม่ก็เจ๊งไปเลย (ฮา)
ไม่ห่วงว่าจะกลายเป็น Sleeping MOU ห่วงแต่ว่าทางอินโดนีเซียจะรับมือกับ Hi-perish MOU ได้หรือปล่าวเท่านั้นเองหากทางสถาบันที่นี่ไฟเขียวละก็.... วุ๊ย!
ขอขอบคุณผู้เข้ามาเยี่ยมชมทุกท่านค่ะ