เรือหางยาวลำน้อยติดเครื่อง ได้เร่งความเร็วออกจากฝั่ง เพื่อมุ่งสู่กลางแม่น้ำ..ปากอ่าวไทย ซึ่งเป็นที่ไว้อาลัยสำหรับญาติพี่น้องของใครหลายคนในการนำผลธุลีอังคาร มาลอยน้ำ ณ ที่แห่งนี้..
หลายปีก่อน โศกนาฏกรรมที่เกิดกับตระกูลทางเหนือในเครือญาติที่นามสกุลใช้กันน้อยที่สุดในวงวาน.. ได้ลาลับโลกด้วยวัยเพียง 20 เศษอีกคนหนึ่ง.. เรื่องที่จะเล่า เป็นอุทธาหรณ์สำหรับคนที่สนใจอ่านเกร็ดชีวิต หรือเบื้องหลังละครโรงใหญ่ในชีวิตอีกบทหนึ่ง..
ครอบครัวหนึ่งซึ่งรกรากมาจากคนจากชนบททั้งคู่.. อยู่กินกันมาได้ระยะหนึ่งก็มีธิดาด้วยกันสองคน.. ซึ่งเป็นที่รักของทั้งสองเป็นที่สุด.. สมหมายอาชีพทำงานขับรถตู้ประจำบริษัทประเภทค้าผ้า ส่วนศรีไพร..เป็นแม่บ้าน อยู่บ้านดูแลทุกคนในครอบครัวด้วยปกติเสมอมา..
ผ่านร้อนหนาวเรื่องราวต่างๆ ในครอบครัว หลายครั้งที่ทั้งสองทะเลาะกันด้วยความใจร้อนและโผงผางของผู้เป็นจ่าบ้าน.. อารมณ์รุนแรงและไม่เหมือนใคร.. ด้วยวัยกลางคน ลูกสาวเริ่มโตพอที่จะรู้เรื่องบางอย่าง..และดูแลตัวเองได้บ้างแล้ว.. สมหมายพาหญิงสาวคนหนึ่ง ซึ่งอายุห่างจากตนรอบกว่าๆ ศรีไพรน้อยใจกับการกระทำผู้เป็นสามีที่รักกันมานาน.. มีเรื่องราวต่างๆ ที่ทำให้ศรีไพรต้องเจ็บตัว ด้วยความหูเบาของสมหมายที่่หลงใหลผู้หญิงใหม่และนำมาอยู่ในชายคาบ้านเดียวกัน บ่อยครั้งที่ศรีไพรต้องเจ็บตัวกับการกระทำของสามี ซึ่งถูกสมาชิกคนใหม่เป่าหู ปั่นหัว..
ในที่สุดศรีไพรจึงได้ย้ายตัวเองออกจากบ้านที่เคยเช่าอยู่ร่วมกันสี่คนพ่อแม่ลูก เดี๋ยวนี้กลายเป็นอดีตที่ขมขื่นที่สุดในชีวิต ลูกทั้งสองผู้เป็นพ่อขอเอาไว้เลี้ยงเอง..ซึ่งเป็นต้นเรื่องราวของโศกนาฏกรรมในเรื่องนี้..
บุตรสาวทั้งสองของสมหมายและบุตรชายอีกสองคนที่เกิดจากเมียคนใหม่ที่สมหมายพาเข้าบ้านเมื่อหลายปีก่อน.. ชีวิตของสมหมายนับว่าสุขสบายในระดับหนึ่ง ลูก 4 คน กับเมียยังเด็กที่พอจะสั่งอะไรให้ได้ดั่งใจ สมหมายจึงเลี้ยงลูกได้อย่างสบาย ไม่อนาทรเรื่องราวเรื่องญาติพี่น้อง..
ทุกครั้งที่นัดพบปะกับญาติพี่น้องจะเล่นพนันทุกครั้ง สนุ๊กเกอร์ หรือเล่นไพ่ตามแต่จะตกลงกัน ลูกเมียนั้นทิ้งไว้ข้างหลัง เพราะบรรดาญาติพี่น้องคงช่วยดูแลได้ เรื่องกิน-ดื่ม สมหมายไม่สนใจ บุหรี่มีบ้างแต่ไม่ค่อยซื้อเอง.. อายุเข้าหลักสี่.. สมหมายยังไม่มีทรัพย์เป็นของตน.. เพราะบ้านไม่ต้องเช่าอยู่กับบริษัท ทรัพย์สินเงินทองมีแต่ของตน ไม่เคยให้เมียใหม่จับต้องเงินแต่อย่างใด ให้เป็นรายวัน อยากได้อะไรตนจะเป็นผู้จัดการทั้งหมด..
ผ่านวันคืนเดือนปี ลูกเมียเก่า เริ่มโตเป็นสาว สวย กำลังเรียนอยู่มัธยมต้น โรงเรียนใกล้กับแคมป์ที่พัก ด้วยความที่เป็นคนน่ารัก จึงมีคนสนใจบุตรสาวเป็นธรรมดา วรรณ เมียใหม่ที่มีลูกด้วยกันอีกสองคน ไม่พอใจในพฤติกรรมของเด็กสาวทั้งสองจึงหาเรื่องยุให้พ่อของเด็กลงโทษเป็นประจำ..
..ใบหน้าที่เขียวช้ำ ตาแดงก่ำน้ำตาไหลซึมออกมาจาเบ้าทั้งสอง.. ร่างกายที่บอบช้ำไปตัว..หญิงสาวทั้งสองจึงตัดสินใจเข้าพบฝ่ายปกครองของโรงเรียน เพื่อแจ้งให้ทราบเกี่ยวกับพฤติกรรมอันทารุณของผู้เป็นพ่อ.. เรื่องราวของอมนุษย์จึงได้ถูกเปิดโปง..
หลังจากที่สมหมายได้ถูกตำรวจจับกุมตัว ในคดีข่มขืนกระทำชำเราบุตรสาวตนเองกักขังหน่วงเหนี่ยว ทารุณกรรม ฯลฯ อีกหลายกระทง ได้รับการสารภาพจว่า ลูกสาวตนทั้งสาวและสวย เสียดายถ้าหากจะมีชายหนุ่มอื่นมาแทะเล็ม จึงอยากจะได้มาเป็นสมบัติของตัวเอง ไม่อยากให้คนอื่นได้ยุ่งเกี่ยว..และรับสารภาพว่าได้ทำหลายครั้งเวลาเมียและลูกเผลอ..
ยังมีคำสารภาพอื่นอีกหลายอย่างเกี่ยวกับพฤติกรรมของสมหมายเมื่อครั้งยังเป็นวัยรุ่น เรื่องการข่มขืนน้าสาว หลานสาว และญาติๆ อีกหลายคน.. ซึ่งเป็นเหตุการณ์คนในครอบครัวไม่เอาเรื่องเพราะกลัวจะเสื่อมเสียแก่ตัวสมหมายเอง..
ปริม ลูกสาวคนโต และ ปราย คนรอง.. สวยไม่แพ้กัน แต่เมื่อเกิดคดีความที่บัดสีของพ่อที่ทำต่อลูกจึงต้องหลบภัยไปอยู่ที่บ้านรองรับพิเศษของมูลนิธิ เพื่อความปลอดภัยของหญิงสาวทั้งสอง และหลังจากนั้นผู้เป็นพ่อก็ไม่ได้ข่าวคราวอีกเลย..
แม่ของหญิงสาวทั้งสองจบชีวิตลงหลังจากอยู่กินกับสามีใหม่ได้ไม่กี่ปี..ด้วยโรคที่นิยมเกิดขึ้นในหมู่กลุ่มเสี่ยง ปริมและปราย เดินทางไปงานศพของแม่..เพื่อเป็นการสั่งลาครั้งสุดท้ายและไม่ได้รับข่าวสารจากหญิงทั้งสองอีกเลย
ชีวิตของหญิงสาวทั้งสองโลดโผน ในสังคมที่ต้องอยู่ให้ได้ ไม่มีญาติคนไหนรู้เรื่องราวแท้จริงว่าปริมและปรายอยู่ที่ไหนกันแน่ มีแต่เสียงโทรศัพท์ที่โทร.มาคุยกับบรรดาป้า และอาที่รักและเป็นห่วงแต่ไม่เคยได้ยินว่าสาวน้อยทั้งสองโทร.มาเบียดเบียนเรื่องเงินทอง แต่ชีวิตของทั้งสองผ่านร้อน ฝน ทุกข์ทนอยู่แห่งไหน ปริมและปรายไม่เคยบอกให้ใครรู้ แม้กระทั่งจดหมายถึงผู้เป็นพ่อ..
ความดิ้นรนเพื่อให้อยู่รอด ทั้งสองคนจึงพยายามเรียนให้จบการศึกษา แม้จะอยู่ในความอุปการของใครก็ตาม..และแล้ว
ปรายใช้ชีวิตค่อนข้างไฮโซ กับชีวิตที่ลิขิตเอง โดยได้รับการเลี้ยงดูจากหนุ่มๆ หลายคนที่คบควงด้วย จึงมีเงินใช้สอยไม่ขาดมือ การแต่งตัวและเฟอร์นิเจอร์ทันสมัยกว่าเพื่อนรุ่นเดียวกัน ส่วนปริมอยู่กับสามีที่ต่างจังหวัด แต่ละวันส่วนใหญ่สนุกกับการเล่นอินเตอร์เนต เพราะสามีทำงานมีหน้าตา และเงินทอง ในแต่ละคืนจึงชอบเที่ยวสถานเริงรมย์กลับถึงบ้านเช้าทุกวัน....
ปริมยอมย้ายตัวเองจากจังหวัดทางภาคเหนือหนีแฟนคนที่อยู่ด้วยปัจจุบัน.. เข้ามาหาปรายผู้น้อง และตั้งใจจะทำงานในบริษัทการสื่อสารแห่งหนึ่ง.. เมื่อสอบได้ ปริมก็หาที่อยู่ที่สะดวกและง่ายต่อการเดินทางไปทำงานกับชายหนุ่มคนใหม่.. ข่าวคราวทราบถึงผู้เป็นพ่อ.. หลังจากที่เข้ารับโทษทัณฑ์ทางกฎหมายร่วมเจ็ดปี.. พยายามติดต่อกับลูก แต่บรรดาญาติพี่น้องพยายามปกปิดเรื่องราวของเด็กทั้งสอง..
หญิงสาวทั้งสองผจญโลกกว้าง ต่อสู้ด้วยหนึ่งสมองสองมือสองเท้า ด้วยตนเอง หาอุบายเพื่อยังชีวิตให้อยู่รอดกับเสือสิงห์กระทิงแรด.. จนรอดมาได้ด้วยวัยยี่สิบกว่า..
วันเวลาผ่านไปไม่ถึงสามเดือน..ข่าวเศร้าของปริม กับอุบัติเหตุแท็กซี่ชนอย่างแรง จนร่างกระเด็นจากจุดเกิดเหตุ ไปไกล ดับสยอง..!! พี่และน้อง ในตระกูลซึ่งอายุ ช่วงวัยกำลังไล่กัน กำลังสนุกสนานกับการใช้ชีวิตที่มีขอบเขต กำลังรู้จักสวดมนตร์ภาวนาขอพรจากพระพุทธ กำลังศรัทธาในพระธรรม และเชื่อฟังคำสอนของพระสงฆ์ผู้ปฏิบัติดี... กำลังจะมีชีวิตใหม่ในอ้อมกอดของพี่น้องที่เคยเล่นด้วยกันตั้งแต่เด็ก แต่ไม่เคยได้เจอกัน.. ต้องหนีจากกันไกลเสียแล้ว..
ญาติพี่น้องรวมถึงเพื่อนในอินเตอร์เน็ตของปริม มา่ร่วมงานกันอย่างคับคั่ง ผู้เป็นพ่อซึ่งเป็นต้นเหตุฯ ในเรื่องราวทั้งหมด นั่งรำไห้ต่อหน้าร่างสาวน้อย..ที่กำลังนอนนิ่งภายใต้ผ้าห่มลายการ์ตูนสีฟ้า..
สัปเหร่อผู้หญิงสามคน ง่วนกับการจัดเตรียมอุปกรณ์ในงานทั้งหมด ตั้งแต่วันแรกที่เข้ามาในงานวัด และวัดสุดท้าย...
เสียงสัญญาณดังขึ้น สายลมที่พัดมาอย่างแรงเมื่อจะเิริ่มพิธีการฌาปนกิจ.. เสียร้องไห้โหยหวนมาแต่ไกล..คล้ายกับเธอ..ปริม.. ทุกคนรู้สึกหนาวเย็น และได้ยินเช่นเดียวกัน...
เช้าวันรุ่งขึ้นหลังจากเสร็จพิธีประชุมเพลิง ญาติพี่น้อง และผู้ที่ได้ชื่อว่าพ่อ.. มาร่วมกันเก็บอัฐิ เพื่อนำไปลอยอังคารตามที่นัดหมายกัน... ห่อผ้าขาวขลิบชมสีฟ้า ในพานขนาดย่อม พี่เตยญาติผู้พี่ที่รักปริมมากที่สุดคนหนึ่ง เป็นคนเชิญอัฐิของน้องรักร่วมเดินทางไปที่กลางลำน้ำใหญ่..
เมื่อเรืออยู่ในจุดที่จะปล่อยอัฐิ อังคารในห่อผ้า บรรดาญาติพี่น้อง ร่วมกันโปรยดอกไม้ จุดประทัด เพื่อเป็นการขอขมาพระแม่คงคา และขอฝากผงธุลีอังคารของน้องสาวสุดที่รักให้อยู่อย่างร่มเย็น..
ห่อผ้าถูกส่งให้ผู้เป็นพ่อได้ปล่อยลงสู่ก้นอ่าว แต่แล้ว.. เมื่อห่อผ้าหลุดจากมือผู้เป็นพ่อ.. กลับดิ่งลงสู่ก้นอ่าวโดยไม่มีสัญญาณแห่งความอาลัยอาวรณ์ไว้เลย
สิ้นสุดกันทีกับชาติภพนี้.. สิ้นสุดกันทีกับวิบากเวรที่เคยทำกัน อโหสิให้เค้านะ..ปริม
ไม่มีความเห็น