บัวสี่เหล่า คืออุปมาเปรียบบุคคลเหมือนดอกบัว 4 จำพวก ที่อยู่ในฐานะของบุคคลที่สามารถฝึกสอนให้รู้ธรรมได้และไม่ได้ในทางพระพุทธศาสนา เรื่องราวที่พระพุทธเจ้าเปรียบบุคคลเสมือนบัวจำพวกต่าง ๆ นั้น เป็นข้อความที่ปรากฏในคัมภีร์อรรถกถา (คัมภีร์ชั้นหลัง) และพระไตรปิฏก ว่าเมื่อแรกที่พระพุทธเจ้าได้ทรงตรัสรู้ พระองค์ได้พิจารณาว่าพระธรรมที่พระองค์ทรงบรรลุนั้นมีความละเอียดอ่อนสุขุมคัมภีรภาพ ยากต่อบุคคลจะรู้ เข้าใจและปฏิบัติได้ แต่ต่อมาได้ทรงพิจารณาอย่างลึกซึ้งแล้ว ทรงเห็นว่าบุคคลในโลกนี้มีหลายจำพวก บางพวกสอนได้ บางพวกสอนไม่ได้ เปรียบเสมือนบัว 4 เหล่า (ตามนัยอรรถกถามี 4 เหล่า[1]) หรือ 3 เหล่า (ตามนัยพระไตรปิฎกมีเพียง 3 [2])
อนึ่ง มีความสับสนถึงเรื่องการเปรียบบุคคลด้วยบัว 3 เหล่าตามนัยพระไตรปิฎก คือสับสนนำข้อความในปุคคลวรรค ที่เปรียบบุคคลเป็น 4 เหล่า [3] มาปะปนกับข้อความในอรรถกถา (คัมภีร์ชั้นหลัง) ที่เปรียบดอกบัวเป็น 4 เหล่า[4] ซึ่งเป็นความเข้าใจที่ผิด เพราะในพระไตรปิฏกพระพุทธองค์ตรัสเปรียบบุคคลเหมือนดอกบัวเพียง 3 เหล่าเท่านั้น
เมื่อพิจารณาจากบัวสี่หรือสามเหล่าดังกล่าว ความในมติอรรถกถากล่าวว่ายังมีมนุษย์บางจำพวกที่ไม่สามารถสอนได้ (อเวไนยสัตว์) ในขณะที่หากพิจารณาจากพระพุทธพจน์จากมัชฌิมนิกาย มัชฌิมปัณณาสก์ ตามพระไตรปิฎก มนุษย์ทุกคนมีสิทธิ์ที่จะตรัสรู้ธรรมเช่นเดียวกับที่พระองค์ตรัสรู้ได้ (เวไนยสัตว์) กล่าวคือพระพุทธองค์ทรงพิจารณาแล้วว่ามนุษย์ที่ยังสามารถสอนให้รู้ตามได้ยังมีอยู่ จึงทรงตกลงพระทัยในการนำพระธรรมที่ทรงตรัสรู้มาสั่งสอนเวไนยสัตว์
ในพระไตรปิฏก พระพุทธองค์ทรงพิจารณาตามคำเชื้อเชิญของสหัมบดีพรหมที่เชิญให้พระองค์แสดงธรรม พระพุทธองค์จึงทรงพิจารณาตรวจสัตว์โลกด้วยพุทธจักษุ และทรงเห็นว่า สัตว์โลกที่ยังสอนได้มีอยู่ เปรียบด้วยดอกบัว 3 จำพวก ดังความต่อไปนี้
ตามนัยอรรถกถา ได้อธิบายบุคคล 4 ในปุคคลวรรค พระไตรปิฏก ปนกับอุปมาเปรียบบุคคลด้วยดอกบัว 3 เหล่าใน มัชฌิมนิกาย มัชฌิมปัณณาสก์ โดยลงความเห็นว่าบุคคล 4 ที่พระพุทธองค์ตรัสในปุคคลวรรค เปรียบกับดอกบัว 3 เหล่า (โดยเพิ่มบัวเหล่าที่ 4 เข้าไปในบุคคล 4 ในปุคคลวรรค) ดังนี้
(จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี)
..เห็นบัวขาว พราวอยู่ในบึงใหญ่..
บัวสี่เหล่าแบ่งแยกคนได้สี่ประเภท หลักคำสอนที่น่านำมาพิจารณานะครับ
ท่านกว๊ธรรมโสภณ ค.ห.๑
ในชีวิตจริงช่วงหลังๆถึงปัจจุบัน
พบบัวเหล่าที่สี่มากเลยค่ะ
แม้แต่คำสอนของพระพุทธเจ้า
เขายังโต้แย้ง..น่ากลัวมากค่ะ
..
แต่ก็มีกัลยาณมิตรอยู่ในสามเหล่าแรก
ตัวเองก็พยายามค่ะที่จะไม่เป็นเหล่าที่ ๔
บัวงาม ยามแสง ทองส่อง
ปรองดอง เรียนรู้ ศึกษา
ท่องบ่น สนใจ นำพา
รู้ค่า แล้วจึง รับไป
อยากให้ลูกศิษย์เป็นบัวเหล่าที่ 3 ก็พอค่ะ
คุณครูป.๑ ค.ห.๒
ขอบคุณที่มาร่วมต่อกลอนไพเราะค่ะ
ลูกศิษย์ไม่เป็นบัวเหล่าที๔
ครูก็โล่งใจแล้วนะคะ
@@@บัวหนึ่งสูงค่าน่าคิด
บัวสองตามติดเติมฝัน
บัวสามโอกาสมากพลัน
บัวสี่ตันตีบหนทาง@@@
คุณkrugui Chutima ค.ห.๓
ขอบคุณคุณครูที่มร่วมต่อกลอนไพเราะ
สั้นๆ กระชับ ครบสี่เหล่า ได้ความหมายตรงใจมากค่ะ
สวัสดีค่ะ อาจารย์กุลมาตา
ขอคุณสำหรับเรื่องราวเเละข้อคิดดีๆเเก่ชีวิตนะคะ เราจะเป็นบัวเหล่าไหนเราเลือกได้
ที่จะทำ
สวัสดีค่ะ
หนูปูเปี้ยว ค.ห.๔
ขอบคุณหนูเช่นกันค่ะ
ครูดีใจที่หนูเป็นเด็กดี คิดเป็น
ครูมั่นใจว่าหนูเรียนจบออกไป
เป็นอนาคตของชาติที่พัฒนาชาติให้เจริญแน่นอนค่ะ
ธรรมรักษานะคะ บัว ๓ เหล่าแรก เลือกเป็นได้ค่ะ