มันเป็นวิถีชีวิตของชาวล้านนาหากมีงานปอยหลวงหรืองานวัด งานบวช งานเลี้ยงแขกเมื่อใดเจ้าภาพมักจะนิยมทำแก๋งอ่อมเลี้ยงผู้คนที่มาร่วมงาน
การทำแก๋ง(แกง)อ่อมส่วนมากจะใช้เนื้อสัตว์ใหญ่เช่นวัว ควาย หากไม่มีสัตว์ใหญ่ก็จะนำเนื้อหมู หรือสัตว์ป่า เช่น ฟาน(เก้ง) กวาง เป็นต้น
การเรียกขานชื่อแก๋งอ่อมก็ขึ้นอยู่กับเนื้อสัตว์ เช่น แก๋งอ่อมจิ๊น(เนื้อ)ควาย แสดงว่าเนื้อสัตว์นั้นคือเนื้อควาย หรือแก๋งอ่อมจิ๊นฟาน แสดงว่าเนื้อสัตว์นั้นคือเนื้อฟานหรือเก้ง เป็นต้น
เอกลักษณ์ของการแก๋งอ่อมนั้นต้อง ทำการต้มเนื้อสัตว์ ให้เปลวไฟอ่อนเคี่ยวจนเปื่อยยุ่ย ด้วยลักษณะที่ใช้ความร้อนอ่อนๆนี้เองจึงเกิดสำนวนที่นำมาเปรียบเทียบกับการกระทำอย่างอื่นที่ต้องรับเปลวสิ่งที่ร้อน หรือใช้เวลาที่ต้องให้สำเร็จเสร็จการอย่างใดอย่างหนึ่ง.....
-หน้าหนาวพี่น้องชาวบ้านเมืองไต(ไทยใหญ่)ต่างออกมาอ่อมแดด หมายความทางภาษาไทยใหญ่ว่า หน้าหนาวผู้คนต้องออกมาผิงแดดเพื่อรับการอ่อมไออุ่นจากแสงแดดคลายหนาว
-หนุ่มชาวบ้านชื่อพี่อ้ายสีมอยเพิ่งแต่งงานกับเจ้าสาวชื่อคำหอม กว่าจะลุกขึ้นมาเยียะก๋าร(ทำงาน) ก็ต้องนอนอ่อมกันอยู่บ่ลุกมาสักเตื้อ(สักที)ปล่อยหื้อ(ให้)พ่อเมีย(พ่อตา)คอยท่าที่ในไฮ่(ไร่)อยู่จ้าดเมิน(นาน).......
- เยียะหยัง(ทำอะไร)บ่ดีอ่อมก๋าร(งาน)...หมายความว่าทำอะไรไม่ควรยืดเยื้อ..........จะทำให้เสียเวลามาก
-พี่อ้ายต๋าคำอู่สาวบัวผัดมาเมิน(นาน)อ่อมกันเป็นเวลาหลายปี...หมายความว่า พี่อ้ายต๋าคำและสาวบัวผัดจีบกันมานานก็ยังไม่แต่งงานซักที
แก๋งอ่อมนอกจากจะมีเนื้อสัตว์ที่กล่าวแล้ว ยังมีเครื่องใน เศษเนื้อ ที่ผู้คนล้านนาเรียกกันว่า "ไส้ปุ๋มอุมอาม" ก็เอาใส่ลงไป มิให้ทิ้งขว้าง ด้วยเหตุนี้เองเครื่องปรุงหรือเครื่องแก๋งอ่อมต้องมีใบบ่ะขูด(ใบมะกรูด) เพื่อดับกลิ่นคาวเนื้อสัตว์
ข้อสังเกตอีกอย่างเกี่ยวกับแก๋งอ่อม..หากว่าน้ำแกงเย็นลงเมื่อใดก็จะเห็นไขมันสัตว์ลอยฟูฟ่อง เรียกกันเป็นภาษาล้านนาว่า "มันหยึ้..มันหยึ้ง" เห็นแต่คราบไขมันสีน้ำตาลอมแดง ลอยปิดหน้าน้ำแกง แต่หากเป็นหน้าหนาวแล้วละก็ แก๋งอ่อมจะกระด้างแข็ง กลายเป็นแก๋งอ่อมกระด้าง ..เออถ้าอย่างอี้(อย่างนี้)มันก็ลำ(อร่อย)ไปอีกอย่าง...
บางครั้งละอ่อนร้องไห้งอแง ผู้ใหญ่เอามานอนอ่อมให้ไออุ่นจนละอ่อนหยุดร้องและหลับไป....
แต่หากผู้ใหญ่มัวอ่อมกันอยู่ก็จะเสียเวลาเยียะว่าหากิ๋น(เสียเวลาทำมาหากิน) ..บ่ควรจะอ่อมกั่นเมินนานเกินเหตุ....เสียเวลาที่กำลังอยู่ในยุคเศรษฐกิจพอเพียงไงครับ...
เออ...เล่ามานานเมินเป็นการอ่อมเวลาผู้อ่าน.งเรื่องแก๋งอ่อมก็ขอจบลงก่อนเน้อ...
วัสวดีครับคุณวศิน...
ภาษาเนหือมีความหมายคล้ายกันเป็นส่วนใหญ่.งเพียนงวแต่สำเนียงหรือเสียงที่ออกมาอาจเสียงสูงต่ำอาจเพี้ยนกันบ้างเล็กน้อย...เช่นชาวยวนโยนกเรียกใบพลูว่า "ปู"แต่ภาษาไทยเขินหรือยอง อาจขึ้นเสียงเป็น "ปู๊" อย่างนี้เป็นต้นครับ...
ชาวล้านนา 8 จังหวัดภาคเหนือคำพูดคล้ายกันและสามารถสื่อสารกันได้ดีครับ....
ด้วยความปรารถนาดีจากลุงหนาน.........พรหมมา
มีความสุขมาก
สวัสดีปีใหม่ครับคุณบุษรา....
ขอบคุณที่เข้ามาแว่อ่านและให้คำชมครับ...มีคำหลายๆคำที่น่าติดตามขอให้ติดตามต่อไปจะมีคำให้อ่านอีกครับ....
ด้วยความปรารถนาดีจากลุงหนาน.....พรหมมา
ขอบคุณครับคุณบุษรา...
ขอใหท่านเฮงๆ..รวยๆ..งและมีสุขภาพดีตลอดไปครับ...
จากลุงหนาน...พรหมมา
หน้าหนาวเราชอบนอนอ่อมเมินๆ อุ่นดี..ไม่อยากออกจากผ้าห่มเลยนิ
ใช่มั้ยเจ้า..ลุงหนาน
ไหว้สาคุณต้นส้มฯครับ...
แม่นแล้ว...หากเป็นวันหยุดทำงานละก็ต้องลุกขวายซะหน้อยๆ....ครับ
ด้วยความปรารถนาดีจากลุงหนาน.......พรหมมา
อ่อมปล๋าอ่อมจิ้น ลำลิ้นชิวหา เพื่อหื้อก๋ายา หรรษาห่อนไข้
อ่อมเวียกกึ๊ดก๋าร กิ๋นตานทำได้ เพื่อบุญกำไฮ ฮอมไว้
ขี้คร้านอ่อมดาย ไผบ่ใคร่ได้ เอาตั๋วอย่างไว้ บ่ดี
อ่อมอุ่นไอฮัก ฟูมฟักแสงสี สุขสมฤดี ชีวีดั้นฝ้า
ชีวีดั้นฝ้า
สวัสดีครับคุณสนั่น..ยินดีที่เข้ามาแว่อ่านเน้อ...
หากมีเวลาก็เข้ามาแว่แถมเน้อ...
ด้วยความปรารถนาดีจากหนาน..พรหมมา
คุณลุงพรมหมาคะหนูอยากรู้ว่าคุณลุงเป็นคนจังหวัดอะไรคะ
ตอบไอ้น้อยเด็กเทพ...
ลุงเป็นคนเจีงใหม่แต๊ๆเจ้า.....
ยินดีที่เข้ามามาแว่อ่านเจ้า....
ด้วยความปรารถนาดีจากลุงหนาน....พรหมมา