เสวนาจานส้มตำ ๗: การติดอาวุธทางความคิด?



มีโอกาสดีที่ได้พบปะกับรุ่นน้องที่เป็นครูระดับประถมศึกษาคนหนึ่ง กำลังทานส้มตำที่ตลาดโต้รุ่ง เลยได้รับการชักชวนให้ร่วมวงด้วย จึงเป็นที่มาของการเสวนาจาน

ส้มตำในตอนนี้ครับ

ครู -  " เวลาที่สอนหนังสือที่มีเนื้อหาวิชามากๆ ซึ่งจะสอนไม่ทันบ่อยๆ เลยใช้วิธีให้นักเรียนไปอ่านหนังสือมาก่อน แล้วถาม ตอบ เพื่อกระตุ้นให้นักเรียนขวน

ขวาย กระตือรือร้นอ่านหนังสือ นักเรียนขยันมากๆ ตอนนี้สอนวิชาที่มีเนื้อหาเยอะๆได้อย่างสบาย แต่ก็มีครูอีกคนบ่นให้อีกว่าเราสอนไม่ดี"

นายบอน - "ถ้าจะสอนแบบอธิบายเนื้อหาให้ฟัง สอนไม่ทันเพราะเวลาน้อย หรือว่าพูดประเด็นนั้นมากจนเกินไปหรือเปล่า"

ครู -  "วิชาที่สอนทันตามเวลาก็มีนะ เนื้อหาไม่กี่หน้า ขนาดอธิบายอย่างละเอียด ใช้สื่อการสอนเต็มที่ แต่นักเรียนไม่ค่อยสนใจมากนัก ไม่เหมือนถาม ตอบ

เก็บคะแนนไปเรื่อยๆ"

นายบอน - "ขนาดนักเรียนกระตือรือร้น อ่านหนังสือเพื่อตอบคำถามให้ได้คะแนน อ่านจนจำได้ขนาดนั้นแล้ว ยังบอกว่า สอนไม่ดี  ไม่ดียังไงหรือ หรือว่า จะต้อง

สอนตามแบบที่เคยสอนๆกันมา"

ครู -  "เค้าว่า นักเรียนคิดไม่เป็น  ถ้าเจอคำถามในแบบวิเคราะห์ จะตอบไม่ได้เลย เด็กบอกว่า ครูไม่ได้สอน ไม่มีในหนังสือ"

นายบอน -  "แสดงว่าที่นักเรียนตอบได้ เพราะตอบตามเนื้อหาที่มีในหนังสือเรียน มีคำตอบสำเร็จรูปอยู่แล้ว "

ครู - "ครูคนอื่นบอกว่า นักเรียนคิดไม่เป็น เพราะเอาแต่ท่องจำ อยากให้นักเรียนคิดเป็น"

นายบอน -  "ที่จริงมีครูหลายท่านที่นายบอนพอจะไปสอบถามได้ ถ้าให้นายบอนให้คำแนะนำเวลานี้ ก็อยากให้ตั้งคำถามปลายเปิด เพื่อให้นักเรียนได้ลองฝึกคิด

ซึ่งจะดีกว่า ถามให้ตอบ เพื่อตอบให้ตรงกับคำตอบสำเร็จรูปที่เตรียมไว้ ทำให้นักเรียนมุ่งที่จะค้นหาว่า คำตอบที่ถูกต้องนั้น คืออะไร และพยายามท่องจำไว้ แต่ไม่รู้ว่า

ทำไมคำตอบนั้นถึงถูก ถ้าไปเจอคำถามใหม่ๆ  ซึ่งไม่เคยเห็นมาก่อน ก็นึดไม่ออกว่า จะตอบว่ายังไง"

ครู -  "ตั้งคำถามปลายเปิดหรือ"

นายบอน -  "เป็นคำถามที่ให้แสดงความคิดเห็น ค้นหาคำตอบที่คิดว่าเหมาะสม จะได้เป็นการติดอาวุธทางความคิด และลับคมวิธีคิดให้รอบด้าน เหมือนกับ

ปัญหาชีวิตที่มีคำตอบได้หลายแบบ หลายคนที่คิดไม่ออก เพราะไม่เคยคิด จึงตัดสินใจทำสิ่งที่ไม่สมควรตั้งมากมาย ทั้งที่ความเป็นจริงแล้ว มีคำตอบได้หลายทาง ทั้ง

คิดด้วยตัวเอง หรือคิดไม่ออก ก็ไปปรึกษาคนอื่นๆ ยิ่งจะได้คำตอบที่หลากหลาย มีตัวเลือกให้ตัดสินใจมากขึ้น "

...ก่อนจากกัน นายบอนบอกว่า ถ้าอยากติดอาวุธทางปัญญา ลองเข้า intetnet คลิกไปที่ http://gotoknow.org สิ  จะได้พบกับ

สาระหลากหลายที่จะติดอาวุธทางความคิดได้ทุกๆวัน และจะนำเรื่องที่คุยนี้ ไปบันทึกไว้ใน gotoknow ด้วย.....





นี่คือเสวนาจานส้มตำ กับการพบปะกับเพื่อนรุ่นน้องที่เป็นครูโดยบังเอิญ ได้ประเด็นนี้มาบันทึกไว้ โดยบังเอิญ  แถมยังแนะนำ gotoknow ให้อีก (รวมทั้ง

ได้ทานส้มตำโดยบังเอิญแบบฟรีๆ อีกด้วยนะครับ)



หมายเลขบันทึก: 41972เขียนเมื่อ 1 สิงหาคม 2006 11:27 น. ()แก้ไขเมื่อ 5 มิถุนายน 2012 13:51 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (7)

เห็นบันทึกนี้ของนายบอนแล้วรู้สึกคันปากขึ้นมายิบ ๆ

คันไม้คันมืออยากแสดงความคิดเห็นแต่ว่า "ครู" "อาจารย์" ในสังคมเรานี้ยังเป็นสิ่งที่ยังแตะต้องไม่ค่อยได้นะครับ ก็เลยต้องอดกลั้นไว้หน่อย

แต่ก็ขอสักนิดนะครับ

เผอิญเห็นประเทศไทยที่กำลังย่ำแย่เพราะระบบการศึกษาที่เป็นแบบ Xerox Machine Third Class คือ ผู้สอนที่ทำหน้าที่เป็นเครื่องถ่ายเอกสาร ขั้นที่ 3 คือตั้งแต่เรียนรู้ของเมืองนอก จากเมืองนอก แล้วกว่าก็มาถ่ายสำเนา แบบ "สำเนาถูกต้อง" ให้กับนักศึกษาไทย สงสัยตอนนี้เด็กนักเรียนอย่างพวกเราที่ได้รับผลจากกระบวนการถ่ายสำเนาคงจะเป็นชั้นที่ร้อยแล้วครับ

 

ขออนุญาตพูดคุยด้วยคนหนึ่ง  เห็นเป็นเรื่องเกี่ยวกับครูประถมศึกษา  ตรงกับ Actors ครูอ้อยพอดีค่ะ

วิธีการสอนแบบให้นักเรียนไปอ่านมาก่อนนั้น  ถ้านักเรียนช่วงชั้นที่2 ชั้น ป4-5-6  ก็พอจะปฏิบัติตามคำสั่งของครูผู้สอนได้  คำถามของครูผู้สอนคนนั้นน่าจะเป็นคำถามปลายเปิดที่ฝึกกระบวนการคิดระดับกลางก่อนระดับสูง  หมายถึงฝึกการสังเกต  การบรรยายสิ่งรอบข้าง  ถ้าจะถามว่าครูคนนั้นสอนดีหรือไม่  ไม่ใช่จะตอบได้ง่ายๆ  เพราะต้องดูที่ผลผลิตเสียมากกว่า

การที่คิดว่าสอนนักเรียนไม่ทันหนังสือนั้นเป็นความคิดที่ผิด  ครูทุกคนต้องสอนนักเรียน  ไม่ใช่สอนหนังสือ  สิ่งที่ครูผู้สอนจัดการเรียนรู้นั้นยึด  ความรู้  ทักษะกระบวนการ  เจตคติ  รวมไปถึงคุณลักษณะของวิชานั้นด้วย  ไม่ใช่เปิดหนังสือแล้วถาม ตอบแต่เพียงอย่างเดียว

สำหรับการสอนภาษาอังกฤษไม่ได้ให้นักเรียนไปอ่านมาก่อนหรอกค่ะ  เป็นไปไม่ได้  และจะได้สักกี่เปอร์เซนต์ที่นักเรียนปฏิบัติตามครูสั่งได้  ครูผู้สอนใช้กระบวนการคิดที่ฝึกการสังเกต  โดยใช้คำถาม  ใช้การเปรียบเทียบ  และส่วนใหญ่ใช้ได้ผล  เมื่อนักเรียนตอบได้  แต่ครูก็อย่านิ่งนอนใจ  ต้องใช้การทบทวนเรื่องเดิมทุกครั้ง  และเน้นกระบวนการทำงานที่จะเป็นผลไปสู่คุณลักษณะที่พึงประสงค์ของหลักสูตร  ซึ่งในปัจจุบันหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ.2544  ได้เน้นคุณสมบัติดังที่กล่าวมาแล้ว

แต่ถ้าจะให้ดีในรูปแบบของการถามและตอบ  ครูอ้อยให้นักเรรียนตั้งคำถามเอง  โดยให้เหตุผลว่า  ในชีวิตของความเป็นจริง  นักเรียนต้องใช้ประโยคทั้ง 3 ชนิดในอัตราเท่าๆกัน  ไม่ใช่ตอบแต่เพียงอย่างเดียว  นักเรียนก็เห็นด้วยและให้ความร่วมมือ   ถามได้  และตอบได้  แต่ชอบถามว่า  How old are you ?  ครูก็ไม่คอยชอบคำถามนี้  แต่ก็ต้องตอบไป  โดยย้ำเน้นว่าเป็นคำถามที่ไม่ค่อยน่ารัก  ถือว่าไม่สุภาพนะ

ส่วนการสรุปบทเรียน  ครูอ้อยนิยมให้นักเรียนเขียน Mind Mapping  สรุปเชื่อมโยงความสัมพันธ์  และสามารถอธิบายได้

รู้สึกว่านายบอนชอบกินส้มตำนะ

นายรักษ์สุข (คุณปภังกร) ครับ
   ประเด็น Xerox Machine Third Class นี่ ทำให้หลายคนคิดไม่เป็นนี่ เป็นปัญหาที่กระทบกับนายบอนมากจริงๆครับ ก็บรรดาคนที่รู้จัก ที่คิดอะไรเิองไม่ได้ เวลาเกิดปัญหา ต้องขอตัวไปเปิดหนังสือ หาข้อมูล หาคำตอบก่อน บางที ถ้าลองสังเคราะห์ หาคำตอบด้วยตัวเองดูบ้าง อาจจะแก้ปัญหานั้นได้ดียิ่งขึ้น

ครูอ้อยครับ
  ความเห็นของครูมีประโยชน์มากครับ  จะส่งให้ครู คนที่นายบอนเสวนาส้้มตำได้อ่านด้วย เพื่อการปรับปรุงวิธีการสอน อาจเป็นเพราะ เค้าเป็นครูมือใหม่ ประสบการณ์ในการสอนยังน้อย แต่การใช้ Mind Mapping เป็นความคิดที่ดีทีเดียวครับ เดี๋ยวนายบอนจะหาหนังสือ Mind Mapping ไปให้ครูคนที่มาเสวนาด้วย เอาไปสรุปเชื่อมโยงเนื้อหาอีกที เผื่อว่าจะทำให้รูปแบบการสอนนักเรียน ที่ไม่ใช่สอนหนังสือ ทำได้ดีกว่าเดิม

นั่นน่ะสิครับคุณบอน

ตอนนี้ผมเองก็พยายามจะไม่ทำเหมือนกับเป็น Xerox Machine Two Hundred Class อยู่ครับ แต่ก็ไม่รู้ว่า อาจารย์กับหลักสูตรจะยอมหรือเปล่า ที่เล่นคิดแต่อะไรแปลก ๆ แผลง ๆ ผิดหลักครูบาอาจารย์เขาน่ะครับ

แต่อย่างไรก็จะพยายามสู้ให้ถึงที่สุดครับ เพื่อสิ่งที่ดี ๆ ในอนาคตครับ

แบบนี้แสดงว่า ที่ ม.อุบล มีทั้งแบบ Xerox และไม่ Xerox หรือครับ หรือเป็นการผสมผสานทุกรูปแบบ เพื่อให้สามารถคิดได้อย่างครบทุกด้าน ครอบคลุมทุกประเด็น สำหรับพัฒนบูรณาการศาสตร์

แต่อย่างว่าแหละครับ บางอย่างที่อาจจะดูไม่ดี อย่าง Xerox อาจจะเป็นประโยชน์ก้ได้ในแง่ของการนำไปปรับใช้ ในสังคมที่นิยมการ Xerox  ถ้า Xerox แต่สามารถคิด วิเคราะห์ไ้ด้ โดย Xerox เป็นส่วนเสริม ก็คงจะพอมีประโยชน์เหมือนกันนะครับ

คุณบอน

ไม่รู้ว่าในอดีตครูอ้อยหลงเข้าไปในบันทึกคุณบอนได้อย่างไร  เลยหลงอยู่จนทุกวันนี้  บันทึกแรกที่ครูอ้อยตอบคุณ..

ไม่ได้หลงหรอกครับ ครูอ้อยท่องใน gotoknow เปิดอ่านทุกบันทึกที่น่าสนใจต่างหาก เพียงแต่นายบอนมีจำนวนบันทึกเยอะพอสมควรน่ะครับ
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท