ตามที่ได้เขียนภาคแรกเพื่อบรรยายสภาวะธรรมข้างทางบนเส้นทางแห่งการฝึกตนเอาไว้ที่ มีสติอยู่กับปัจจุบันขณะ = Presencing ? แล้วนั้น วันนี้มีความเข้าใจใหม่เพิ่มขึ้น จึงขอนำมาเขียนเป็นบันทึกภาคต่อ เพื่อให้ท่านผู้รู้มาช่วยชี้แนะครับ
พลานุภาพของ "การมีสติอยู่กับปัจจุบัน"
ธรรมดาที่ไม่ธรรมยิ่งนัก
ในตอนที่ ๑ ผมได้แบ่งสภาวะของจิตใจออกเป็น 4 ระยะ ดังนี้ครับ
- ระยะที่จิตสงบ (อย่างอริยชน)
- ระยะเปลี่ยนแปลงจากจิตสงบ(อย่างอริยชน) ไปสู่ จิตวุ่นวาย (อย่างปุถุชน)
- ระยะที่จิตวุ่นวาย (อย่างปุถุชน)
- ระยะเปลี่ยนแปลงจากจิตวุ่นวาย (อย่างปุถุชน) ไปสู่ จิตสงบ
โดยตั้งประเด็นเป็นข้อสังเกตุไว้ประมาณว่า จะประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันได้อย่างไร ? และพยายามบอกว่า ทุกระยะมีประโยชน์ เป็นธรรมชาติ เป็นเช่นนั้นเอง
ทุกสภาวะ (สภาวะทั้ง 4) ผมเข้าใจว่า
1. เป็นธรรมชาติที่ต้องเกิดขึ้น มีขึ้น ตั้งอยู่ และก็ดับไป นั่นหมายความว่า เราต้องเข้าใจ เห็นว่า มันเป็นเช่นนั้นเอง เราควรเรียนรู้ที่จะใช้สภาวะทั้ง 4 เป็นโจทย์ธรรม หรือตัวซ้อมที่จะช่วยให้เราพัฒนาสติ+ปัญญา นั่นหมายความว่า แต่ละคนจะมีช่วงของระยะทั้ง 4 ความยากลำบากและวิธีการปฏิบัติก็จะแตกต่างกันไปตามภูมิธรรมนั่นเอง
2. ฝึกมาสักพักท่านจะพบว่า การดำรงไว้ซึ่งระยะที่ 1 หรือ การมีจิตใจที่สงบนั้น เป็นสิ่งจำเป็นพื้นฐานสำคัญยิ่ง เพราะธรรมชาติของจิตคือ ความสงบ หรือ การมีสมาธิ นั่นเอง เมื่อจิตใจท่านสงบหรือเป็นสมาธิ ท่านก็จะมีปัญญา สามารถดำเนินชีวิตประจำวันได้อย่างถูกต้องและมีประสิทธิภาพที่สุดนั่นเอง
คำถามต่อมาคือ ในการดำเนินชีวิตประจำวันเราจะทำจิตใจให้มีความสงบได้อย่างไร ?
เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่งคะท่าน ดร.สุรเชต เพราะคนเราถ้าขาดสติ ก็จะทำให้การดำเนินชีวิตเป็นไปอย่างสับสนวุ่นวาย แต่ในระยะที่จิตสงบเป็นสิ่งที่ทำได้ยากมาก เพราะคนส่วนใหญ่ยังอยู่ในขั้นปุถุชนค่ะ
พลานุภาพของ "การมีสติอยู่กับปัจจุบัน"
ธรรมดาที่ไม่ธรรมยิ่งนัก
ถูกต้องค่ะมีสติอยู่กับปัจจุบัน
สติ ต้องอยู่กับปัจจุบันเหมือนที่กล่าวมาแน่ๆค่ะ
สวัสดีและขอบคุณท่านทั้งหลายที่กรุณาแวะมาทักทายครับ
ผมว่า "ความเพียร" เป็นสิ่งสำคัญยิ่งอีกอย่างหนึ่งที่ทำให้เราพัฒนาจิตใจของเราได้ดีมากขึ้น
เพียรปฏิบัติ ดูเหมือนไม่ก้าวหน้า แต่เมื่อพิจารณาให้ดีจะเห็นว่า เราก้าวหน้าไปไม่น้อยเลย
ตัวผมเอง หลังจากที่ได้เขียนบันทึกนี้แล้ว ก็ได้ลองพยายามหาแนวทางในการเข้าสู่ความสงบในชีวิตการงานประจำวัน เมื่อเข้าสู่ความสงบได้แล้วก็หาทางรักษาสภาวะความสงบนั้นไว้ให้นาน จะได้มีปัญญาในการดำเนินชีวิตยิ่งขึ้นเมื่อจิตใจสงบ
หนึ่งในแนวทางการพยายามรักษาสภาวะจิตใจให้สงบนั้น คือ "การมีสติอยู่ในปัจจุบันขณะ" ด้วยอินทรีย์ยังไม่แก่กล้า ก็พบว่า อนิจจัง สภาวะความสงบก็เป็นอนิจจัง คือ ไม่เที่ยง เดี๋ยวสงบ เดี๋ยววุ่นวายไปตามเหตุปัจจัยทางโลก ทำให้เกิดความเบื่อหน่ายเจ้าจิตใจนี่นักว่า ช่างฝึกยากเหลือเกิน...
จนไม่กี่วันมานี่เอง เริ่มสังเกตุเห็นว่า ความว่างสงบดำรงอยู่ได้เป็นเวลานานยิ่งขึ้นครับ จะคอยดูต่อไปว่า จะสงบได้นานเพียงใด อะไรคือเหตุปัจจัย แล้วนำมาเขียนเป็นบันทึก ลปลล. ต่อไปครับ