ยังมี นักปราชญ์เฒ่า เนาอยู่เมืองหลวง
วันหนึ่ง หมอโหรทวาย บอกดวงเตือนซี้
ซีวีเจ้า เถิงคราวดวงมอด
ฮอดเที่ยงนี้ ระวังไว้เคราะห์เถิง ท่านเอ๊ย
จนกว่า ยามค่ำคล้อย จะหวิดจากความตาย
คราวดวงดับ อย่าลงเฮือนเหย้า
นักปราชญ์ ฟังโหรแจ้ง เกียมตัวคอยเหตุ
ทุกที่ก้าว สติตั้งค่อยระวัง
พอเมื่อ อาทิตย์คล้อย ฮ้อนเฮ่งกายา
ก็จึ่ง ไปสระผม อาบสรงในห้วย
ถือโออุ้ม ผมยาวปะปล่อย
ตากลม แคมท่าน้ำ ผมแห้งจึ่งสิเมือ
เมื่อนั้น พวกพี่เลี้ยง แลลูกซายพระยา
เดินนำหา ซอกบ่เห็นเด็กดื้อ
เลยมาพ้อ นักปราชญ์ยืนแคมท่า
ถือโอ ผมพาดหุ้ม คือด้ามดั่งหัว
เขาก็ ปบต่าวย้อน ทูลบอกพระยาเมือง
นักปราชญ์ถือหัวคน อยู่แคมสายห้วย
คงแม่น สังหารน้อย เอาโตไหลล่อง
บุตรชาย ตายจากแล้ว เหลือไว้แต่หัว พระเอ๊ย
พระยาเมือง คั่งแค้น ตัดสั่งคำเคือง
สูจง ไปสังหาร นักปราชญ์แทนความแค้น
เพชฌฆาต เปียไปพ้อ* มัดจูงนักปราชญ์
หวังจัก ปลิดชีพถิ้ม ตามเบื้องบ่งการ
นักปราขญ์ ครวญคิดพ้อ คล้อยค่ำจะหวิดตาย
เลยอุบายถาม พวกสิเอาไปฆ่า
พ่อนี้ ครองเมืองฮู้ บันหาร้อยแปก
บัดว่า พ่อมอดม้วย ใผสิซ้อนสืบแทน พ่อเด้
ให้ลูก ไปซอกเจี้ย มาขีดเขียนเอา พ่อถ้อน
ภูมิปัญญาหลาย สิถ่ายเทเถิงเจ้า
เขาก็ สองหูตั้ง จดคำสอนสั่ง
เขียนขีดเลื้อย จนเท้าค่ำแลง
พอเมื่อ อาทิตย์คล้อย ท้าวน้อยต่าวคืนโฮง*
กลับจาก ไปเลิงเลาะ เที่ยวเมืองลืมเหย้า
มวลชน จนเจฮ้อง เถิงหูเพชฌฆาต
นักปราชญ์ หวิดเคราะห์ฮ้าย ผะหยาล้ำลื่นพระยา หั้นแล้ว
(18 กันยา 2010)
* เปียไป (ลาว) - รีบไป
* โฮง - โรง เรือนเป็นที่อยู่ของเจ้าเมือง หรือพระยา
ไม่มีความเห็น