เชื่อไหม.....
ว่าความแปลกของสถานที่ ความใหม่ในที่ทางหนึ่งใดที่เราพบพาน
ทำให้อารมณ์ ความรู้สึก และความคิด จินตนาการของเราโลดแล่นมากขึ้น
หลากหลายสถานที่ที่แวะไป มักเป็นสถานที่ ที่ก่อเกิดสิ่งดีๆ ขึ้นทุกวัน
อยู่ฝั่งอีสานริมโขงขุ่นมุกดาหาร ก็ให้ความรู้สึกแปลกไปอีกอย่าง
ลงมาใช้ชีวิตในเมืองหลวงก็ตื่นเต้น ชีวิตรีบเร่งเป็นไปตามความเป็นไปของผู้คนส่วนใหญ่ในเมืองใหญ่
มีโอกาสได้แวะไปเยี่ยมห้องพักใครบางคน
บังเอิญเจ้าของห้องชี้ชวนให้ดูรูป ชื่นชมกับไม้หอมต้นหนึ่ง
ชื่ออะไรนะ
อ๋อ ! ต้นพยอม
กลับมาถึงห้องจึงค้นดูบันทึกเล่มเก่าๆ นึกถึงบรรยากาศเมื่อคืนวันที่ตนเองยังวนเวียนอยู่เชียงใหม่
เคยเขียนถึงความงดงามของพยอมอยู่เหมือนกัน
........นึกถึงหนาวนั้น
หน้าหนาว ที่อากาศหนาวเย็นเช่นเคยเหมือนทุกปี
ขะยอมหลายต้น ยามนี้ส่งกลิ่นหอมกลบกลิ่นและสีสันของดอกอื่นสิ้น
กลับจากชมรมที่ตึกขาว เมื่อใกล้แจ้ง เช่นนี้ทุกวัน
ถนนหน้าหอพัก มีขะยอมใหญ่ลำต้นสีดำทะมึนสองต้นขนาบข้างถนนใ
กล้แจ้งก่อนฟ้าสางใสเช่นนี้ หมอกเหมยลงหนักหนานัก
ขะยอมกลีบขาว หนักน้ำค้างและต้องลมหนาวหล่นพราวพรมใต้ร่มแม่แต่หัวค่ำ
ไอชื้นห่มคลุมกลีบดอกที่ร่วงหล่นให้ดูอิ่มตูม
กลิ่นหอมของหมอกเหมย ปนกลิ่นหอมของดอกขะยอมช่างหอมสดชื่นนัก
เดินผ่านใต้ต้นขะยอมเช่นนี้ทุกๆ วันของชีวิต
เดินเลี่ยงและอยากเห็นพื้นดินใต้ต้น มีสีขาวพร่างพราวเช่นนี้เสมอ
หลบและแอบชื่นชมภาพที่งดงามเช่นนี้อยู่เป็นประจำ
ดอกขาวของดอกขะยอม เช่นเช้านี้บริสุทธิ์นักแม้จะร่วงหล่นก็ตามที
ไม่กล้าแม้แต่จะเก็บมาชื่นชมเป็นสมบัติส่วนตัว
และไม่กล้าอย่างยิ่งที่จะย่างเหยียบทับผ่านไป
ชื่นชมและอ้อมหลบ อย่างสดชื่นในเช้าของยามหนาว
นึกถึง........หนาวนั้น
ไม่รู้จักหรอกนะต้นพยอม
แต่สามารถได้ถึงความรู้สึก ทำให้เริ่มต้นที่จะเขียนขึ้นมาอีกครั้ง
ขอบคุณมาก