เดินตามหลังผู้ใหญ่ สบายใจเป็นที่สุด


ถึงเวลาที่ผมจะต้องออกไปแนะนำตัวเอง ซึ่งผมบอกตามตรงว่า ความรู้สึกกลัว...ที่ผมมีตลอดการเดินทางในครั้งนี้ก็คือ การที่ผมได้เข้ามาอยู่ในคณะครั้งนี้ที่มีแต่ผู้ใหญ่ๆ ไม่ว่าทั้งวัยวุฒิและคุณวุฒิ ซึ่งผมก็เกรงว่าผมจะทำอะไรไม่เหมาะสมรึเปล่า แต่เมื่อก้าวมาแล้วนี้ครับก็คงจะถอยกลับไม่ได้แล้ว

  

ตอนนี้พวกเราทุกคนก็ได้ผ่านด่านการตรวจคนเข้าเมืองกันอย่างเรียบร้อยแล้ว สิ่งต่อไปที่พวกเราต้องทำตามคำแนะนำของคุณพิเชษฐ์ก็คือการไปตรวจกระเป๋าเดินทางที่จำลำเลียงขึ้นมาบนสายพาน ก็เพราะว่าในการเดินทางครั้งนี้ทางได้มีบริการรับส่งกระเป๋าเดินทางจนถึงห้องพัก ซึ่งเราจะได้พบกระเป๋าเราอีกหนึ่งครั้งหนึ่งก็ตอนเราเข้าที่พักเรียบร้อยแล้ว จึงต้องตรวจเช็คอีกครั้งหนึ่งเพื่อความถูกต้อง

                จากนั้นพวกเราก็ได้เดินออกสู่ประตูทางออกของสนามบิน เพื่อไปขึ้นรถที่ได้จัดเตรียมไว้ โดยในการเดินครั้งนี้พวกเราไปกันทั้งหมด 32 คน มีหัวหน้าทัวร์คือคุณพิเชษฐ์สุดยอดไกด์จากไทยสิริทัวร์ และมัคคุเทศก์ท้องถิ่น คือคุณสมหวัง ที่เรากำลังจะออกไปพบบริเวณหน้าประตูทางออก

                เมื่อทุกอย่างพร้อมทั้งคนและกระเป๋าเดินทางของทุกๆคน รถของเราก็ได้เริ่มขับเคลื่อนออกจากสนามบิน ขณะที่อยู่บนรถ ทางคุณพิเชษฐ์ก็ได้มีการกล่าวต้อนรับอย่างเป็นทางการอีกครั้งหนึ่ง และได้มีการแนะนำคุณโชคชัย  เดชศิริอุดม (คุณโจ) ซึ่งเป็นผู้ดูแลคณะ EXCUTIVE GO CLUB ในการเข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ จากนั้นคุณโจก็ได้เริ่มการแนะนำผู้ใหญ่หลายๆท่านที่เข้าร่วมการเดินทาง และก็ถึงเวลาที่ผมจะต้องออกไปแนะนำตัวเอง ซึ่งผมบอกตามตรงว่า ความรู้สึกกลัว...ที่ผมมีตลอดการเดินทางในครั้งนี้ก็คือ การที่ผมได้เข้ามาอยู่ในคณะครั้งนี้ที่มีแต่ผู้ใหญ่ๆ ไม่ว่าทั้งวัยวุฒิและคุณวุฒิ  ซึ่งผมก็เกรงว่าผมจะทำอะไรไม่เหมาะสมรึเปล่า แต่เมื่อก้าวมาแล้วนี้ครับก็คงจะถอยกลับไม่ได้แล้ว และเมื่อผมได้เริ่มแนะนำตัว ผมก็ได้กล่าวถึงชื่อ-นามสกุล โรงเรียนที่สอนอยู่ กิจกรรมที่ทำเกี่ยวกับหมากล้อม และประโยคที่ผมตั้งใจกล่าวออกไปก็คือ “ ครั้งนี้เป็นครั้งแรกในชีวิตที่ขึ้นเครื่องบิน ถ้าผมทำอะไรเปิ่นๆก็ขออภัยนะที่นี้ด้วยครับ” หลังจากที่ผมพูดจบก็มีเสียงดังขึ้นมาว่า “ขึ้นเครื่องครั้งแรก ก็มาไกลถึงเมืองจีนเลยนะ” แล้วก็มีเสียงหัวเราะตามมาทำให้ผมรู้สึกสบายใจขึ้นอย่างมาก

 

  หลังจากที่ได้แนะนำตัวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทางคุณพิเชษฐ์ก็ได้มีการแจกซิมโทรศัพท์ให้กับคณะของเราทุกคน เพื่อใช้ในการติดต่อสื่อสารขณะที่เราอยู่ที่นี้ เมื่อรถของเรากำลังเคลื่อนที่อยู่นั้นผมก็ได้เริ่มสังเกตสิ่งต่างๆที่อยู่รอบๆตัว โดยสิ่งที่ต้องปรับก็คือการจราจร เพราะว่าในประเทศไทยของเรานั้น เราจะใช้การเดินรถทางด้านขวาเป็นหลัก ซึ่งที่ประเทศจีนนี้เขาจะใช้ทางด้านซ้าย ทำให้สิ่งที่เราเห็นอยู่บนท้องถนนต่างๆจะกลับด้านกลับประเทศไทยเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นประตูทางขึ้นหรือลง ป้ายรถเมล์ที่ใช้จอด และเมื่อผมมองออกไปด้านนอกขณะที่รถกำลังติดไฟแดงอยู่นั้น ผมก็ได้มองเข้าไปในรถแท็กซี่ก็เห็นบางอย่างที่จากประเทศไทย ก็คือในส่วนของคนขับรถนั้น  เขาจะมีแผ่นพลาสติกใสกั้นระหว่างคนที่ขับกับผู้โดยสาร ซึ่งผมมองในความรู้สึกส่วนตัวว่าเขาคิดดีนะที่ทำแบบนี้ มันเป็นความปลอดภัยเล็กๆที่ทั้งคนขับรถและผู้โดยสารอยู่ด้วยกัน แล้วผมก็ย้อนกลับมาคิดถึงเมืองไทยว่าทำไมเราถึงไม่ทำบ้าง สงสัยอาจจะเป็นเพราะคนไทยอาจจะคิดว่าพอกั้นพลาสติกแล้ว ความใกล้ชิดของคนขับรถกับผู้โดยสารคงน้อยลงเลยไม่คิดจะทำกระมั่งครับ (เป็นเพียงแค่ความคิดนะครับ)

หมายเลขบันทึก: 417311เขียนเมื่อ 30 ธันวาคม 2010 09:56 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 17:49 น. ()สัญญาอนุญาต: สงวนสิทธิ์ทุกประการจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)

วาระส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่

 

         คิดใดสมมุ่งหวังดังปรารถนา

         ขอให้การเดินทางสร้างตำรา

         มีความเจิญก้าวหน้าสถาพร

                   ปลอดภัยจากโรคาพยาธิ

                   มีอำนาจสุขโขสโมสร

                   มีชื่อเสียงก้องไกลไทยนคร

                   คอยปันป้อนความรู้สู่สังคม

                              จากใจ......ธนา   นนทพุทธ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท