ครั้งแรกของครั้งที่สอง
สวัสดีครับ วันนี้ผมได้อัพบล๊อกเป็นครั้งที่สองและน่าจะเป็นครั้งสุดท้าย TT
วันนี้เราจะมาอัพเดทความคืบหน้าในรูปแบบใหม่สไตล์ มิว-นิว together แบบถามและตอบนะครับ
นิว:สวัสดีครับ คุณมิว วันนี้เป็นอย่างไรบ้าง
มิว:สวัสดีค่ะ คุณนิว คือ วันนี้เดี๊ยนและผองเพื่อนออกมารณรงค์
นิว:รณรงค์อะไรครับ !!!! น่าสนใจจังเลย
มิว:อ๋ออ .. รณรงค์ให้ชาวบ้าน หมู่ 9 มาร่วมงานสรุปโครงการลดอ้วน ด้วยผัก ตามหลักวิถีไทย
นิว:แล้วงานมีรายละเอียดยังไงบ้างครับ ???
มิว:ในงานก็มีสรุปโครงการ 7วันหรรษา ลัลล้า ลดน้ำหนัก และร่วมกันรับประทานอาหารเย็นอร่อยๆ กันที่บ้านผู้ใหญ่บ้านค่ะ
นิว:ดูน่าสนใจจังเลยครับ แล้วบรรยากาศการรณรงค์เป็นยังไงบ้างครับ ?
มิว:พวกเราสนุกสนานถึงแม้ว่าคืนก่อนจะทำงานกันดึกดื่น แต่พวกเราทุกคนก็ไม่คิดที่จะยอมแพ้ และสู้ฟันฝ่าเพื่อที่จะประสบความสำเร็จในการรณรงค์ เพื่อให้ชาวบ้านได้รับประโยชน์อย่างถาวร และยั่งยืนค่ะ
นิว:โอ้โห มันยิ่งใหญ่อย่างนั้นเลยหรือครับ น่าสนใจมากเลย คุณป้าในรูปเปรี้ยวจังเลยนะครับ ใส่แว่นกันแดดด้วย
มิว:ก็เก๋ๆอ่ะคะ คุณป้าเค้าแค่ปลูกผักสวนครัวนิดหน่อยเท่านั้นเอง สำหรับงานนี้... เพื่อชุมชน เพื่อสุขภาพของทุกคน... พวกเรายอม ... สู้ตายค่ะ
นิว:!!! งานนี้มีพิธีกร ฅน ค้น คน มาด้วยหรือครับ
มิว:ไม่ใช่ค่า นั่นมัน 1 ในสมาชิกของกลุ่มเราค่ะ
นิว:แล้วรณรงค์เสร็จกันเมื่อไหร่ละครับ เหนื่อยแย่เลย
มิว:ก็ไม่เท่าไหร่หรอกค่ะ แค่เดินตากแดดตั้งแต่ 8 โมงเช้า จนถึง 11โมง อ่ะค่ะ....ข้าวเช้าก็ไม่มีใครได้กิน
นิว:แล้วหลังจากนั้นสมาชิกในกลุ่มทำอะไรกัน ??
มิว:ก็แบ่งเป็นสองกลุ่มอะค่ะ กลุ่มแรกก็เข้าเมืองเพื่อไปซื้อของขวัญ และอีกกลุ่มก็เตรียมงานล้างผักกันอยู่ที่พักค่ะ
นิว:ของขวัญอะไรหรือครับ จะเอาไปให้ใคร ??
มิว:อ๋ออ ก็เป็นของขวัญขอบคุณผู้ใหญ่ และรางวัลต่างๆให้กับผู้เข้าประกวดเมนูสุขภาพผัก
นิว:แล้วเอาอะไรเป็นของขวัญหรือครับ
มิว:ก็เนื่องจากกลุ่มของเราได้เล็งเห็นความสำคัญเรื่องสุขภาพร่วมกับเราได้ทำโครงการ"ลดอ้วนด้วยผัก ตามหลักวิถีไทย" เพราะฉะนั้นของขวัญส่วนใหญ่ก็จะเป็นอาหารเพื่อสุขภาพ ไม่ว่าจะเป็น ข้าวกล้อง ,และธัญพืชต่างๆ ตามซุปเปอร์มาเก็ตชั้นนำทั่วไป อ่ะคะ
นิว:แล้วอาหารสำหรับเย็นนี้เป็นอย่างไรบ้างครับ
มิว:ก็ เป็นส้มตำไทยใส่ผลไม้หลากหลายชนิด เก๋ๆ มีชื่อว่า "ส้มตำ 4 สหาย" หลายคนอาจสงสัยว่าทำไมต้อง 4 สหาย สาเหตุก็คือ มีสหาย 4 คนมาช่วยกันทำไงค่ะ ลองทายกันซิค่ะว่ามีใครบ้าง (ห้ามผวนนะค่ะ ชื่อเมนูของเรา เนื่องจากเป็นเมนูสุขภาพ ถ้าหากผวนจะทำให้เสียสุขภาพจิตค่ะ) อีกเมนูของเราเป็นเมนู "น้ำผักและผลไม้เพื่อสุขภาพ" ประกอบด้วย แอปเปิ้ล มะละกอ กล้วย ส้ม อุ้ย!!! ไม่ใช่ค่ะ ใส่แค่ แอปเปิ้ล ฝรั่ง แครอท ผักกาดหอม มะเขือเทศ ตั้งโอ๋ บัวบกค่ะ
นิว:อาหารดูน่าทานมากเลยนะครับ แล้วรสชาติเป็นอย่างไรบ้างครับ
มิว:ก็ไม่เท่าไหร่อ่ะคะ แค่ทุกคนทานจนหมดแล้วเลียจานจนสะอาด อุ้ยนั่นเดี๊ยนเองค่ะ !!
นิว:กำ...แล้วเรื่องการออกกำลังกายวันนี้มีอะไรบ้างครับ ?
โกะ:ก็...
นิว:ถามมิวครับ !!
เงียบบ....
มิว:ก็วันนี้น้องโกะเค้าก็พาวิ่งไปวัดท่าหัวแหวนด้วยอัตราเร็วคงที่ที่ประมาณ 3.72km/hr ความชื้นสัมพัทธ์ 72% ซึ่งเหมาะแก่การออกกำลังกายอย่างมากค่ะ และวิ่งกลับมาที่บ้านผู้ใหญ่สิริรวมเวลาประมาณ 20.34 นาที ส่วนน้องโบคนงามประจำกลุ่มของเรา ( ไม่ใช่น้องเตี้ยคนสวย ) ได้ทำการแอโรบ๊อกซิ่งที่บ้านผู้ใหญ่
นิว:เอ๊...แล้วแอโรบ๊อกซิ่งนี่มันคืออะไรหรือครับ??
มิว:(น้องมิวนั่งกัดเล็บและไขว่ห้างตอบว่า) ก็...คือการใช้คีตะมวยไทยเข้ามาผสมกับจังหวะแอโรบิค อ่ะค่ะ แบบว่าตามหลักวิถีไทยด้วยอ่ะคะ
นิว:แล้ววันนี้มีอะไรพิเศษๆกว่าวันอื่นๆบ้างมั้ยครับ ??
มิว:ก็มีสมาธิเคลื่อนไหว ซึ่งนำมาจากหลวงพ่อเทียนและสมาธิบำบัด SKT 1-7จากdoctor สมพร มาสอนโดยมีวิทยากรพิเศษจากโรงพยาบาลแหลมสิงห์ คือ พี่จุ๋มจิ๋มของเรานั่นเองค๊าา
นิว:ผมอยากจะไปฝึกจังเลยครับ
มิว:เดี๋ยวว่างๆ น้องมิวจะสอนให้ตัวต่อตัวเลยค่ะ
นิว:เอ่อ งั้นขอถามต่อเลยนะครับ หลังจากเสร็จงานวันนี้แล้วทำอะไรกันต่อครับ??
มิว:ก็..มาเตรียมงานสำหรับวันพรุ่งนี้ค่ะ มีการประชุมงานอย่างเคร่งเครียด เนื่องจากกลุ่มเรางานรัดตัวมากค่ะ ก็เลยต้องเตรียมกันทุกวัน ไม่ค่อยมีเวลาว่างเลยอ่ะคะ
นิว:แล้วหลังจากนั้นทำอะไรกันต่อครับ
มิว:ก็มานั่งอัพบล๊อกนี่ไงละค่ะ !!! เดี๋ยวเค้า ขอตัวไปนอนก่อนนะ งุงิงุงิ เหนื่อยแล้วง่ะ พรุ่งนี้มีงานแต่เช้า เดี๋ยวมาเล่าให้ฟัง ... บาย
นิว:ครับๆ บายครับ
ปล.ถ้าหากเนื้อหาครั้งนี้ไม่สุภาพ กราบขออภัยมา ณ ที่นี้เลยน่ะครับ ทางเรามีเพียงเจตนาที่จะให้ผู้รับชมได้สนุกสนานและอ่านเรื่องราวการทำงานจริงของพวกเรา ผ่านวิธีการใหม่ๆ
ปล2.ขอรับรองว่ากิจกรรมที่กล่าวมานั้นเป็นจริงทั้งหมด
ขอบคุณครับ
ความเห็น (4)
มิว...งานรัดตัวจริงๆ 555
ได้ทั้ง อาหาร ออกำลังกายและบริหารใจ
สุดยอด
"ของขวัญส่วนใหญ่ก็จะเป็นอาหารเพื่อสุขภาพ ไม่ว่าจะเป็น ข้าวกล้อง ,และธัญพืชต่างๆ ตามซุปเปอร์มาเก็ตชั้นนำทั่วไป"
เราจะนำ EBM มาใช้ในชีวิตจริงได้อย่างไร
มีวิธีการใดคุ้มครองผู้บริโภค ไม่ให้ถูก การตลาดครอบงำ
โดยใช้กระแสรักสุขภาพที่เราสร้างขึ้น
(eg.กาแฟลดความอ้วน,จมูกข้าววิเศษเหาะได้)
นี่เป็นคำถามที่ดีมาก ขอขอบคุณมากครับที่ชี้ทางให้เห็น
นี่คำตอบของสมาชิกคนหนึ่งในกลุ่ม
คำตอบ
เนื่องจากในปัจจุบันมีสิ้นค้าเพื่อสุขภาพมากมาย ที่กล่าวอ้างว่าดีเช่นนั้น เช่นนี้ ซึ่งอาจจะไม่มีหลักฐานมาสนับสนุนชัดเจน
สำหรับนิสิตแพทย์แล้ว สามารถนำความรู้ในการหาข้อมูลวิจัยมารองรับว่าเป็นจริงหรือไม่ ซึ่งต้องเจาะในสินค้าแต่ละตัวซึ่งมีอยู่มากมาย
จึงทำให้ทำได้ยากที่จะทำได้ครบ จึงทำได้เพียงแต่สินค้าที่สนใจและพบว่ามีการนำมาใช้อย่างแพร่หลาย
การนำคำตอบที่ได้เพื่อมาขยายแก่ประชาชนในประเทศทำได้ยาก(ถ้านิสิตแพทย์ทำเพียงลำพัง) อาจจะทำได้โดยใช้สื่อ internet แต่อาจจะมีปัญหากับผู้ผลิตสินค้า ส่วนในระดับท้องถิ่นที่นิสิตแพทย์ทำได้ก็อาจขอความร่วมมือกับผู้นำท้องถิ่นเพื่อประชาสัมพันธ์ จัดกิจกรรม เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์เสริมสุขภาพแก่ประชาชน ซึ่งอย่างไรที่ดีที่สุดถ้าจะให้ทำได้จริงๆ รัฐบาล กระทรวงสาธารณสุข ควรนำกฎหมายคุ้มครองผู้บริโภคนำมาใช้อย่างเต็มที่ ควรมีบทลงโทษที่หนักกว่านี้(ตัวอย่างเช่น มีเครื่องดื่มที่กล่าวอ้างว่ามี vitamin B12 บำรุงสมอง ซึ่งยอมเสียค่าปรับ เนื่องบทลงโทษมีผลกระทบน้อย)
ปัจจุบันพวกเราพบว่ากระแสรักสุขภาพของประชาชนมีมากจริงๆ
การใช้กระแสรักสุขภาพมาช่วยป้องกันการครอบงำจากสินค้าเพื่อสุขภาพที่ไม่รู้ว่าได้ผลจริงหรือปล่าวก็จะช่วยทำให้ทำได้ง่ายขึ้น
สิ่งที่ทำได้ คือ ต้องให้ความจริงกับประชาชน(ความรู้) ทำได้ในหลายระดับ ได้แก่ ระดับประเทศ ภูมิภาค จังหวัด จนถึงระดับหมู่บ้าน ครอบครัว
แต่บางครั้งให้ความรู้อาจจะไม่ได้ผล เนื่องจากเป็นความเชื่อ ส่วนบุคคลซึ่งแก้ได้ยาก
ในชุมชนหมู่ 9 ที่เราลงมาสิ่งที่ทำได้อาจนำส่วนนี้ไปแทรกในชมรมที่จะจัดขึ้น เพื่อให้คนในชุมชนได้รับรู้ต่อไป
....ตอบได้ดีมาก..ไอ้น้อง....