ชื่อเรื่อง การพัฒนาบุคลากรในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบโครงงาน
โรงเรียนน้ำใสวรวิทย์ อำเภอพนมไพร จังหวัดร้อยเอ็ด
ผู้ศึกษา นางศศิธร พิมพา
ปีที่พิมพ์ 2553
บทคัดย่อ
การพัฒนาครูให้มีความรู้ความสามารถในการจัดการเรียนการสอนให้บรรลุเป้าประสงค์ของการเรียนรู้ของผู้เรียนและเป็นไปตามพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 และ(ฉบับแก้ไขเพิ่มเติม) พ.ศ. 2545 มาตรา 22 ที่บัญญัติไว้ว่า “การจัดการศึกษาต้องยึดหลักว่าผู้เรียนทุกคนมีความสามารถเรียนรู้และพัฒนาตนเองได้ และถือว่าผู้เรียนสำคัญที่สุด” และในการจัดการเรียนรู้แบบโครงงานเป็นกระบวนการที่จะส่งเสริมให้ผู้เรียนสามารถพัฒนาตนเองตามธรรมชาติและสนองตอบต่อการค้นพบองค์ความรู้ด้วยตนเองได้ การศึกษาครั้งนี้มีความมุ่งหมายเพื่อพัฒนาครูโรงเรียนน้ำใสวรวิทย์ อำเภอพนมไพร จังหวัดร้อยเอ็ด ให้มีความรู้ ความเข้าใจ และสามารถจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบโครงงานได้ตามกรอบการศึกษา 5 ขั้นตอน
คือ 1) การคิดและการเลือกหัวเรื่อง 2) การวางแผน 3) การดำเนินงาน 4) การเขียนรายงาน และ 5) การนำเสนอผลงาน โดยใช้หลักการวิจัยปฏิบัติการ (Action Research) ดำเนินการพัฒนาเป็น 2 วงรอบ ซึ่งแต่ละวงรอบประกอบด้วย การวางแผน การปฏิบัติ การสังเกต และการสะท้อนผล กลยุทธ์ที่ใช้ในการพัฒนา ได้แก่ การประชุมเชิงปฏิบัติการ การนิเทศภายใน และการนิเทศแบบเพื่อนช่วยเพื่อน กลุ่มผู้ร่วมศึกษามี จำนวน 4 คน ประกอบด้วย ผู้ศึกษา ครูผู้สอนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4-6 กลุ่มผู้ให้ข้อมูลเพิ่มเติม จำนวน 48 คน ได้แก่ วิทยากร จำนวน 1 คน ครูวิชาการ และนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4-6 จำนวน 45 คน จากห้องเรียนละ 15 คน เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล ได้แก่ แบบทดสอบ แบบประเมิน แบบสัมภาษณ์ แบบสังเกต แบบบันทึก และแบบนิเทศการตรวจสอบข้อมูลยึดหลักการตรวจสอบข้อมูลแบบสามเส้า และนำเสนอผลการศึกษาโดยวิธีพรรณนา
ผลการศึกษาพบว่า การพัฒนาบุคลากรในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบโครงงานในวงรอบที่ 1 โดยใช้กลยุทธ์การประชุมเชิงปฏิบัติการ และการนิเทศภายใน ทำให้ครูส่วนใหญ่มีความรู้ ความเข้าใจ และสามารถดำเนินการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบโครงงานได้ครบ 5 ขั้นตอน แต่ยังมีบุคลากรบางส่วนยังขาดทักษะและความชำนาญในการเขียนแผนการจัดการเรียนรู้แบบโครงงาน และยังนำแผนการจัดการเรียนรู้แบบโครงงานไปใช้ในการสอนจริงได้ไม่ดีเท่าที่ควรต้องดำเนินการพัฒนาในวงรอบที่ 2 โดยใช้กลยุทธ์การนิเทศแบบเพื่อนช่วยเพื่อน เพื่อช่วยกันให้คำปรึกษาแนะนำช่วยเหลือ ครูผู้ร่วมศึกษาที่ยังขาดทักษะและความชำนาญในการเขียนแผนการจัดการเรียนรู้แบบโครงงาน ทำให้ครูผู้ร่วมศึกษาทุกคนมีความรู้ ความเข้าใจ มีทักษะและความชำนาญมากขึ้น และสามารถดำเนินการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบโครงงาน ทั้ง 5 ขั้นตอน ได้ดีขึ้น ทำให้ผู้เรียนมีความรู้ความเข้าใจในขั้นตอนการจัดทำโครงงาน 1) การคิดและเลือกหัวข้อของโครงงาน มีการใช้คำถามที่กระตุ้นการคิดเชิงแก้ปัญหาและมีการช่วยพิจารณาในการเลือกหัวข้อได้เหมาะสม 2) การวางแผนในการจัดทำโครงงาน ส่งเสริมให้ผู้เรียนรู้จักการวางแผนในการทำงานและสามารถจัดทำเค้าโครงโครงงานได้ 3) การดำเนินงานจัดทำโครงงานผู้เรียนสามารถลงมือดำเนินงานตามแผนที่วางไว้ได้ มีการสังเกต เก็บบันทึกข้อมูล วิเคราะห์สังเคราะห์ แปรผลและสรุปผลได้ 4) การเขียนรายงาน ผู้เรียนสามารถจัดทำรายงานได้ตามรูปแบบของการจัดทำรายงานโดยครูเป็นผู้แนะนำวิธีการและให้ศึกษาตัวอย่างโครงงาน 5) การนำเสนอผลงาน ผู้เรียนสามารถนำเสนอผลงานหน้าชั้นเรียนได้ ทุกคนกล้าแสดงออกและมีความสุขกับการเรียน
โดยสรุป การพัฒนาบุคลากรในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบโครงงาน โรงเรียนน้ำใสวรวิทย์ อำเภอพนมไพร จังหวัดร้อยเอ็ด โดยใช้กลยุทธ์การประชุมเชิงปฏิบัติการการนิเทศภายใน และการนิเทศแบบเพื่อนช่วยเพื่อน ส่งผลให้บุคลากรมีความรู้ ความเข้าใจและสามารถจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบโครงงาน ซึ่งสอดคล้องตามหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐานพ.ศ. 2544 และเพื่อให้การจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบโครงงานของโรงเรียนเป็นไปอย่างต่อเนื่องโรงเรียนควรให้การสนับสนุนและส่งเสริมให้ครูได้มีโอกาสศึกษาหาความรู้และนำ ความรู้มาใช้ในการพัฒนาการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบโครงงานให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นต่อไป
ไม่มีความเห็น