หน้าแรก
สมาชิก
ไอศูรย์
สมุด
ร่วมสร้างสังคมชุมพร
ร่วมฝ่าวิกฤตความไ...
ไอศูรย์
นาย ไอศูรย์ ภาษยะวรรณ์
สมุด
บันทึก
อนุทิน
ความเห็น
ติดต่อ
ร่วมฝ่าวิกฤตความไม่เป็นธรรม นำสังคมสู่สุขภาวะ
เรื่องเล่าจากการประชุม "สมัชชาสุขภาพเฉพาะประเด็น ว่าด้วยการปฏิรูปประเทศไทย
เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 25 พ.ย. 2553 ที่ผ่านมา ผู้เขียนได้เข้าร่วมเวทีสมัชชาสุขภาพเฉพาะประเด็น ว่าด้วยการปฏิรูปประเทศไทย ซึ่งจัดขึ้นที่โรงแรมปริ๊นซ์พาเลซ กรุงเทพฯ หัวข้อที่พูดคุยกัน คือ
"ร่วมฝ่าวิกฤตความไม่เป็นธรรม นำสังคมสู่สุขภาวะ"
ซึ่งเป็นหนึ่งในระเบียบวาระที่จะนำเข้าสมัชชาสุขภาพแห่งชาติ ครั้งที่ 3 มีกำหนดจัดขึ้นในวันที่ 15-17 ธันวาคม 2553 ณ ศูนย์การประชุมสหประชาชาติ ถ.ราชดำเนิน กรุงเทพฯ
รูปแบบของการประชุมเป็นไปตาม "พิธีการ" (Protocol) ของการจัด "สมัชชา" (Assembly) มี
เอกสารหลัก
และ
ร่างมติ
(Click เพื่อ Download)
ส่งมาให้อ่านกันล่วงหน้า และให้ความสำคัญกับการพูดคุยกันในกลุ่มย่อยร่วมกันพิจารณาสาระสำคัญและรับฟังข้อคิดเห็น เพื่อนำไปสู่การปรับปรุง เปลี่ยนแปลง เอกสารทั้ง 2 ชุด ดังกล่าว
เล่าความในภาพรวม
การประชุมเริ่มขึ้นด้วยความขลุกขลักทางเทคนิคทำให้บางขั้นตอนต้องสลับกันแต่ในที่สุดเราก็ได้ชมวิดีทัศน์ เรื่อง ปฏิรูปประเทศไทย
"ลดอำนาจรัฐ เพิ่มอำนาจประชาชน"
โดยคณะกรรมการปฏิรูปฯ ได้มอบหมายให้
อ.เสกสรรค์ ประเสริฐกุล
เขียนบทและให้เสียงบรรยาย ด้วยเวลาประมาณ 10 นาที สื่อชิ้นนี้ได้สร้างความสั่นสะเทือนผ่านระบบคิดตรงไปถึงจิตใจเกิดเป็นคำถามร่วมกันว่า
"เราจะออกจากวงจรของความเหลื่อมล้ำนี้ด้วยการปฏิรูปประเทศไทยได้อย่างไร ?"
หลังจากที่
นพ.อำพล จินดาวัฒนะ
เลขาธิการคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (สช.) ได้ขึ้นมากล่าววัตถุประสงค์นำเข้าสู่เวทีสมัชชาสุขภาพเฉพาะประเด็นนี้แล้ว เราก็ได้รับฟังปาฐกถานำจาก
นพ.ประเวศ วะสี
ประธานกรรมการสมัชชาปฏิรูป เรื่อง
"จากปฏิรูประบบสุขภาพสู่การปฏิรูปประเทศไทย"
ผู้เขียนนั่งนิ่ง หลับตา ใช้จินตนาการรับรู้ รับฟังเสียงบรรยายของหมอประเวศ โดยไม่ตีความเปรียบเทียบ ตัดสินถูก-ผิด แต่พยายามเชื่อมจินตนาการของตนเองให้ต่อติดกับจินตนาการของผู้พูดให้ได้มากที่สุด เมื่อเสร็จสิ้นปาฐกถารู้สึกว่าได้พลังใหม่ ๆ กระตุ้นให้ผู้เขียนซึ่งทุกวันนี้เสื่อมถอยความเชื่อมั่นและศรัทธาในขบวนการใด ๆ ที่ขับเคลื่อนกันอยู่ แม้กระทั่งขบวนการสมัชชาสุขภาพที่เป็นเจ้าภาพงานนี้ เพราะมองเห็นภาพของการทำงานแบบ
"for show"
ในหลาย ๆ กิจกรรม
ด้วยเนื้อหา น้ำเสียงที่จริงใจ เปี่ยมด้วยความเมตตา สะท้อนเจตนารมณ์ของหมอประเวศออกมาได้อย่างชัดเจน ทำให้ผู้เขียนพร้อมแล้วที่จะเข้าสู่กระบวนการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ภายในกลุ่ม จากนั้นเราก็ได้รับฟังภาพรวมของ
"ร่างข้อเสนอเพื่อการปฏิรูปประเทศไทย"
โดย
รศ.สุริชัย หวันแก้ว
และ
อ.กรรณิการ์ บันเทิงจิต
อีกครั้งหนึ่งก่อนแยกย้ายกันเข้ากลุ่ม
ผู้เขียนถูกจัดรายชื่อให้อยู่ในกลุ่มที่ 4 และเดินเข้ากลุ่มย่อย 10 คนเพื่อพูดคุยกัน สังเกตการแสดงออกของสมาชิกทั้งหมดมีผู้พูดและแสดงบทบาท 6-7 คน และมีอยู่ 3-4 คน รับฟังเฉย ๆ ไม่ได้พูดอะไรเลย น่าจะเกิดจากการเข้าร่วมประชุมในฐานะตัวแทนของหน่วยงาน กลุ่มที่จัดมีขนาดใหญ่เกินไป และขาดวิทยากรกระบวนการมาช่วยนำกลุ่ม ใช้วิธีให้ภายในกลุ่มเลือกบุคคลขึ้นมานำกันเอง ข้อบกพร่องเล็ก ๆ น้อย ๆ เหล่านี้สะท้อนออกมาตรง ๆ เพื่อจะได้นำไปสู่การแก้ไขให้ดีขึ้นในรอบต่อ ๆ ไป ถ้าปล่อยทิ้งค้างเอาไว้ต่อไปจะกลายเป็นวัฒนธรรมของความมักง่ายสะสมอยู่ในกระบวนการทำงาน
ความเห็นของตนเองที่มีต่อเอกสารหลักและร่างมติ
การแสดงความคิดเห็นโดยใช้เอกสารหลักและร่างมติเป็นกรอบในการพิจารณา ออกมาจากกลุ่มอย่างหลากหลายและได้รับการบันทึกในกระดาษประชุมกลุ่มเรียบร้อยแล้ว ผู้เขียนขอเพิ่มเติมเฉพาะที่ตนเองได้แสดงความคิดเห็นออกไปในประเด็นสำคัญ 3 ประเด็น ดังนี้
1. เอกสารหลัก "ร่วมฝ่าวิกฤตความไม่เป็นธรรม นำสังคมสู่สุขภาวะ" ไม่มีมุมมองของกลุ่มคนที่ผ่านพ้นวิกฤตด้วยการพึ่งตนเอง
ผู้เขียนร่วมแสดงความคิดเห็นโดยตั้งข้อสังเกตว่า
"เราจะมาพูดคุยกันในเรื่องของการฝ่าวิกฤตความไม่เป็นธรรมในสังคมไทย โดยใช้มุมมองของนักวิชาการมองเหตุ-ปัจจัยในเชิงโครงสร้างเป็นหลัก ว่าไปแล้วเป็นมุมมองแบบ Inside-out เป็นการเก็บข้อมูลทั่วไปมาวิเคราะห์และคิดเอาว่าประเทศชาติ ประชาชนต้องการอะไร แต่ในโลกของความเป็นจริงสังคมไทยยังมีกลุ่มคนที่ประสบกับภาวะวิกฤตในชีวิต มีปัญหาหนี้สินที่ดินหลุดมือ แล้วค้นพบทางออกด้วยการระเบิดจากภายใน เลือกที่จะเดินออกจากสายพานชีวิตของระบบทุนนิยมเต็มร้อย ที่รู้จักกันดี ได้แก่ ผู้ใหญ่วิบูลย์ เข็มเฉลิม เครือข่ายปราชญ์ชาวบ้านและพหุภาคีภาคอีสาน กลุ่มชุมชนอโศก ฯลฯ"
“กลุ่มคนเหล่านี้เลือกที่จะพึ่งตนเองในเรื่อง อาหาร น้ำ ยารักษาโรค ที่อยู่อาศัย พลังงาน และการกำจัดของเสีย มีแนวทางเพื่อลด-ละการค้าขายกับรัฐและหน่วยธุรกิจที่ไม่เป็นธรรม เมื่อเกิดภาวะวิกฤตในเรื่องใด ๆ ที่ใกล้ตัว เช่น น้ำมันแพง ค่าแรงถูก เศรษฐกิจตกต่ำ ค่าเงินผันผวน หรือแม้วิกฤตในภาพรวมของสังคม เช่น ความขัดแย้งทางการเมือง ฯลฯ สุขภาวะของเขาเหล่านั้นก็ดูเหมือนว่าจะมั่นคงแข็งแรงกว่ากลุ่มคนส่วนใหญ่ที่ตกอยู่ในกระแสสังคม นี่คือสิ่งที่เราต้องการไม่ใช่หรือ ?”
“แล้วทำไมเอกสารหลักที่เรากำลังพิจารณาร่วมกัน จึงไม่มีมุมมองของกลุ่มคนเหล่านี้ ไม่มีแม้กระทั่งคำสำคัญ เช่น เสรีภาพในชีวิต เศรษฐกิจพอเพียง และการพึ่งตนเอง”
2. ข้อเสนอในเอกสารร่างมติ ข้อ 2.6 การปฏิรูปด้านการจัดการทรัพยากร
เขียนไว้ว่า “ให้มีการกระจายการถือครองที่ดิน การจัดการน้ำและปัจจัยการผลิตต่าง ๆ อย่างเป็นธรรม เพื่อคนส่วนใหญ่ของประเทศ ไม่ปล่อยให้คนมีอำนาจและคนมีโอกาสในสังคมยึดไปครอบครองอย่างไม่เหมาะสม”
ว่าไปแล้วทุกคนในกลุ่มเห็นด้วยกับประเด็นนี้ ผู้เขียนได้หยิบยกเรื่องราวที่เคยเขียนไว้ใน Blog
“ร่วมสร้างสังคมชุมพร”
มาพูดคุยในกลุ่มเป็นกรณีตัวอย่าง ดังนี้
“จากข่าวหน้า 1 หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ฉบับวันที่ 3 สิงหาคม 2553 หัวข้อ
“ราชการเดินหน้า ให้ต่างชาติฮุบที่ดิน”
มาชี้ประเด็นให้เห็นปัญหากันชัด ๆ ถึงผลกระทบของการเปิดเสรีการลงทุนอาเซียนใน 3 สาขา คือ
การทำป่าไม้จากป่าปลูก การเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ การเพาะและขยายปรับปรุงพันธุ์พืช
ความห่วงใยในปรากฏการณ์นี้มีที่มาจากปัญหาที่เห็นกันอยู่ทุกวันว่า เรามีวิถีชีวิตที่ ใช้เงินเป็นตัวตั้ง เราคิด เราทำทุกอย่างก็เพื่อเงิน จากเดิมที่ชาวชุมพรปลูกข้าว ทำนา สร้างสวน ฯลฯ เราเดินอยู่บนวิถีของการ ใช้ชีวิตเป็นตัวตั้ง เราทำทุกอย่างเพื่อพึ่งตนเองให้อยู่ได้ทั้ง ข้าว ยา อาหาร น้ำ บ้าน พลังงาน และการกำจัดของเสีย แต่วันนี้เราหันมาปลูกพืชเชิงเดี่ยว ใช้เคมีในการเกษตร และพึ่งปัจจัยการผลิตเกือบทั้งหมดจากบริษัท เกษตรกรส่วนใหญ่คงเหลือเฉพาะที่ดินที่เป็นของตัวเอง ไม่ถึงกับต้องไปเช่าเขาทำนา-ทำไร่เหมือนกับเกษตรกรในภาคต่าง ๆ ของประเทศ
แต่อย่าชะล่าใจเป็นอันขาด...การพนันสารพัดรูปแบบที่ผุดขึ้นมาในชุมชนต่าง ๆ ทั้งการเล่นพนันในงานศพ บ่อนไก่ บ่อนปลากัด นกกรงหัวจุก หวย รวมทั้งบ่อนวิ่ง บ่อนลอย และพนันบอล ได้ซึมลึกลงไปในสายเลือดของคนรุ่นพ่อ-รุ่นแม่ เด็กและเยาวชนของเราอย่างน่ากลัว เรื่องราวที่เข้าหูทุกวันนี้คือ การล่มสลายครอบครัวแล้วครอบครัวเล่าจากเหตุที่มีพ่อ มีแม่ติดการพนัน ลูกติดยาเสพติด นำมาซึ่งภาวะหนี้สินและจบบทที่หนึ่งด้วยการขายที่ดินทำกินให้กับทุนท้องถิ่น ซึ่งมีทั้งนักธุรกิจและนักการเมือง
ที่ดินเหล่านี้หลุดจากมือเกษตรกรอิสระไปแล้ว คิดหรือว่าจะกลับเข้าสู่มือของเกษตรกรอีกครั้งหนึ่ง ผู้ที่ได้ไปครอบครองตอนแรกเขาก็คงจะคิดทำสวนยาง สวนปาล์มน้ำมันให้ได้เงินมาก ๆ จากราคาที่ร่ำลือกันมา แต่สุดท้ายก็เจอกับสารพัดปัญหาที่ซ่อนตัวอยู่ ทั้งค่าปุ๋ย ค่ายา ขาดแรงงานตัดยาง แทงปาล์ม ถูกขโมยผลผลิต ขโมยปุ๋ย ขโมยยา ถูกข่มขู่ ฯลฯ พอหมดแรง หมดกำลังใจ...รวมทั้งหมดเงิน ความเบื่อ-เซ็งก็เข้ามาเยือน สุดท้ายก็ตัดสินใจขายที่ทิ้งเป็นเจ้าที่ 2, ที่ 3 ... ต่อไปเรื่อย ๆ ในที่สุดก็กลายเป็นที่ของบริษัท
กระแส Seashore Farming หรือการทำเกษตรโดยบริษัทต่างชาติ เป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้นแล้วในพื้นที่ปลูกข้าว ปลูกมันสำปะหลัง ปลูกอ้อย ฯลฯ ทั่วประเทศ และจะรุกกระหน่ำเข้ามาในบ้านของเราโดยไม่ทันรู้ตัว
หรือนี่คือสัญญาณบอกเหตุว่า ใกล้จะถึงเวลาแล้วที่ชาวชุมพรต้องเสียแผ่นดิน สูญสิ้นวิถีชีวิตเกษตรกรอิสระ เดินหน้าเข้าสู่การเป็นลูกจ้างบริษัท ทำงานรับใช้ตามที่เขาสั่งมาเพื่อแลกกับค่าตอบแทนที่เขากำหนดให้ ต้องทำมากจึงจะได้มาก ถ้าทำน้อยก็เอาไปใช้น้อย ๆ”
จากนั้น การแสดงความคิดเห็นที่มาจากประสบการณ์ของสมาชิกในกลุ่มก็ออกมาอย่างกว้างขวางและลึกซึ้งทำให้เห็นปัญหาชัดเจนขึ้นกว่าเดิม ในที่สุดกลุ่มก็มีมติร่วมกันให้เพิ่มข้อความ ดังนี้
“ให้มีการกระจายการถือครองที่ดิน การจัดการน้ำและปัจจัยการผลิตต่าง ๆ อย่างเป็นธรรม เพื่อคนส่วนใหญ่ของประเทศ
โดยการกระจายอำนาจให้เกิดการมีส่วนร่วมในการจัดการและมีมาตรการทางกฎหมายที่เข้มแข็ง
ไม่ปล่อยให้คนมีอำนาจและคนมีโอกาสในสังคมยึดไปครอบครองอย่างไม่เหมาะสม”
3. ข้อเสนอในเอกสารร่างมติ ข้อ 3.8 แสวงหาเครื่องมือใหม่
เขียนไว้ว่า “แสวงหาเครื่องมือใหม่ และมองหาตัวแสดง ที่ขัดแย้งแบบใหม่เพื่อการเข้าใจปัญหาที่ถ่องแท้เพื่อให้สามารถเข้าจัดการกับปัญหาได้อย่างแท้จริงและทันท่วงที”
ผู้เขียนอ่านแล้วไม่เข้าใจว่า เครื่องมือใหม่ ตัวแสดง ความขัดแย้งแบบใหม่ คืออะไรกันแน่ ? ช่วยกันถาม ช่วยกันตอบภายในกลุ่มแล้วก็ไม่ทำให้เกิดความเข้าใจที่ชัดเจน ต้องขอให้ทีมงานวิชาการ ชั้น “หัวกะทิ” อธิบายความหรือจะเขียนขึ้นมาใหม่ให้เกิดความเข้าใจก็ดีทั้งนั้นครับ.
เขียนใน
GotoKnow
โดย
ไอศูรย์
ใน
ร่วมสร้างสังคมชุมพร
คำสำคัญ (Tags):
#ปฏิรูปประเทศไทย
#สมัชชาสุขภาพ
หมายเลขบันทึก: 410845
เขียนเมื่อ 28 พฤศจิกายน 2010 09:36 น. (
)
แก้ไขเมื่อ 11 มิถุนายน 2012 22:55 น. (
)
สัญญาอนุญาต: สงวนสิทธิ์ทุกประการ
จำนวนที่อ่าน
จำนวนที่อ่าน:
ความเห็น (0)
ไม่มีความเห็น
ชื่อ
อีเมล
เนื้อหา
จัดเก็บข้อมูล
หน้าแรก
สมาชิก
ไอศูรย์
สมุด
ร่วมสร้างสังคมชุมพร
ร่วมฝ่าวิกฤตความไ...
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID
@gotoknow
สงวนลิขสิทธิ์ © 2005-2023 บจก. ปิยะวัฒนา
และผู้เขียนเนื้อหาทุกท่าน
นโยบายความเป็นส่วนตัว (Privacy Policy)
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท