สร้างความตระหนักในเรื่องพลังงาน (บทความที่ได้รับรางวัลและเผยแพร่ทาง www.beat2010.net)


พลังงาน คุณค่า ตระหนัก ปัจจัย ชีวิต

สร้างความตระหนักในเรื่องพลังงาน

การสร้างความตระหนักให้รู้คุณค่าของพลังงานเป็นมาตรการที่สำคัญในการแก้ปัญหาพลังงานของประเทศทั้งภาครัฐ และหน่วยงานเอกชนต่างก็ให้ความสำคัญและร่วมกันรณรงค์ด้วยมาตรการในรูปแบบที่แตกต่างกันออกไป แต่ก็เป็นไปเพื่อจุดมุ่งหมายเดียวกัน นั่นคือสร้างความตระหนักให้รู้คุณค่าของพลังงาน

พลังงานเป็นปัจจัยสำคัญในการดำรงชีวิต ในการเดินทางติดต่อและผลิตสิ่งของอุปโภคบริโภคต่างๆซึ่งเมื่อประชากรในประเทศมีจำนวนน้อยอย่างในอดีตที่ผ่านมา การจัดซื้อจัดหาพลังงานมาใช้ก็ไม่เป็นปัญหามากนัก แต่เมื่อประชากรมีจำนวนมากขึ้น อย่างในปัจจุบันและในอนาคตข้างหน้า ความต้องการพลังงานก็เพิ่มขึ้นตาม ไม้ฟืน ถ่าน และแกลบซึ่งเดิมเคยหาได้ง่าย ราคาถูก แต่ปัจจุบันกลับตรงกันข้าม น้ำมันมีราคาสูงขึ้นเพราะปริมาณการผลิต มีอัตราเพิ่มน้อยกว่าความต้องการใช้ ซึ่งมิได้จำกัดเฉพาะเพื่อการดำรงชีวิต และสิ่งอำนวยความสะดวกเท่านั้น แต่ใช้ในการผลิตวัตถุ สิ่งของ อาหาร เครื่องนุ่งห่ม ฯลฯ เพื่อจำหน่ายและส่งออกด้วยซึ่งรวมกันแล้วเป็นปริมาณมหาศาล

ในเรื่องของพลังงานนั้น ก็เป็นเรื่องหนึ่งที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงให้ความสำคัญตลอดมาเนื่องจากประเทศไทยมีแหล่งพลังงาน เช่น น้ำมัน ถ่านหิน ฯลฯ อยู่น้อย ส่วนใหญ่ต้องนำเข้าจากต่างประเทศแต่ประเทศไทยก็มีข้อได้เปรียบประเทศอื่นๆที่สำคัญคือ มีพื้นดินที่อุดมสมบูรณ์ สภาวะภูมิอากาศ และภูมิประเทศเหมาะในการเพาะปลูก จัดเป็นแหล่งอาหารของโลกแห่งหนึ่ง ดังนั้นพืชส่วนที่เกินจากการผลิตเป็นอาหาร หรือส่งออก ส่วนหนึ่งจึงควรมีการพัฒนานำมาใช้เป็นพลังงาน ซึ่งวิธีนี้นับว่าเป็นแนวทางหนึ่งในการแก้ไขปัญหาผลผลิตทางการเกษตรที่มักจะเกิดภาวะล้นตลาด ราคาตกต่ำอยู่เสมอได้อีกด้วย ดังนั้นหากสินค้าเกษตรสามารถมีบทบาทต่อการสร้างพลังงานทดแทนได้ นอกจากจะช่วยประเทศประหยัดเงินตราแล้ว ยังจะช่วยให้เกษตรกรมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นด้วย

พลังงานเป็นสิ่งจำเป็นต่อการดำรงชีวิต ด้วยยุคสมัยที่เปลี่ยนแปลงไปทำให้ความต้องการใช้พลังงานยิ่งทวีความต้องการมากขึ้น การใช้พลังงานไปอย่างสิ้นเปลืองตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ถึงจุดนี้สมควรทำความเข้าใจว่าพลังงานนั้นเป็นสิ่งที่ต้องช่วยกันประหยัดและสร้างความตระหนักให้รู้คุณค่าของพลังงาน ให้รู้ถึงการใช้พลังงานอย่างมีเหตุผล ใช้ในสิ่งที่ควรใช้ ไม่ใช้ฟุ่มเฟือย ใช้อย่างมีประสิทธิภาพ และคุ้มค่ากับการที่มีราคาแพงในปัจจุบัน ลดการใช้ที่ไม่จำเป็น หรือเกินความจำเป็น และใช้พลังงานอย่างอื่นทดแทน ส่วนวิธีการประหยัดที่จะนำมาใช้นั้น ในหลายวิธีคนธรรมดาสามัญก็สามารถคิดค้นได้ ถ้าเป็นคนเอาใจใส่ รู้จักคิดวิเคราะห์สาเหตุและหาทางแก้ไขปรับปรุงโดยอาจไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายแต่อย่างใด  เช่น การประหยัดไฟฟ้าแสงสว่าง วิธีการง่ายๆ คือ เปิดไฟเฉพาะเวลาต้องการใช้ กำหนดขนาดไฟฟ้าของหลอดไฟให้เหมาะสม อย่าให้มากเกินไปและให้ส่องเฉพาะบริเวณที่ต้องการเท่านั้น สำหรับการหุงต้ม ประกอบอาหารก็อาจประหยัดได้ด้วยการเลือกรูปแบบและขนาดเตาให้เหมาะกับขนาดหม้อ อย่าให้มีช่องเปลวไฟแลบออกมากเกินไปและคอยปรับระดับไฟให้สอดคล้องกับประเภทและลักษณะของการประกอบอาหาร ดังนี้เป็นต้น ในกรณีที่ขาดความรู้และประสบการณ์ ก็อาจสอบถามจากผู้รู้ หรือหน่วยงานของรัฐที่มีหน้าที่ให้คำปรึกษาแนะนำ

ถ้าหากว่าเราทุกคนมีความตระหนักรู้คุณค่าในเรื่องพลังงานพร้อมทั้งช่วยกันประหยัดพลังงานด้วยวิธีการต่างๆที่สามารถกระทำได้แม้เพียงน้อยนิดก็จะทำให้ประเทศไทย เป็นอีกหนึ่งในหลายๆประเทศที่ประสบความสำเร็จ สร้างความตระหนักรู้ให้เกิดขึ้นและใช้พลังงานได้อย่างเกิดประโยชน์สูงสุด ดุจดั่งคำพูดที่คนไทยทุกคนอยากให้ก่อเกิดว่า “ประเทศไทยจะก้าวไกล ด้วยพลังงานจากหัวใจไทยทั้งชาติ รู้ฉลาด รู้คิด ตระหนักในคุณค่าพลังงาน เพื่อสร้างภาพฝันที่เป็นจริง”

หมายเลขบันทึก: 409233เขียนเมื่อ 19 พฤศจิกายน 2010 23:23 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 17:14 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท