เริ่มต้นจากหัวข้อ. บทเรียนจากชีวิตจริง. ซึ่งแย้งในที่นี่ว่าไม่เปนความจริงเลยสักนิดสำหรับนกอินทรี
นกอินทรี เขียนเช่นนี้ นกอินทรี ไม่ใช่สารอินทรีย์
1. แม่นกอินทรีจะปล่อยให้ลูกน้อยออกจากรังเอง เป็นธรรมชาติที่ตัวลูกต้องฝึกเรียนรู้ด้วยตัวเอง. โดยปกติ แม่นกจะไข่ไว้สองหรือสามฟอง. ฟองแรกที่ฟักเปนตัวพี่ใหญ่จะมีโอกาสอยู่รอดสูงสุด. เพราะหากตัวพ่อหรือแม่ไม่นำอาหารกลับมาเลี้ยงดู ตัวที่สามจะเป็นอาหารสังเวยการอยู่รอดของพี่ใหญ่ก่อนเสมอ. หากหิวอีกก็จะกินน้องๆเช่นนี้ เปนหนทางคัดสรรโดยตัวอยู่รอด
2.การพาลูกขึ้นที่สูง และปล่อยให้ตกลงมาเป็นจินตนาการณ์ผู้แต่งเรื่อง. ในความจริงแม่นกอาจนำอาหารมาหลอกล่ออยู่นอกรัง ลูกนกจะได้บริหารปีกให้แข็งแรง. เมื่อพ้นระยะเวลาหนึ่ง อาหารที่แม่นกจัดมาจะอยู่ไกลออกไปจนต้องบินข้ามไปเพื่ออาหารนั้นๆ
3. มนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตเพียงอย่างเดียวที่พระเจ้าสร้างให้จบชีวิตตนเองได้. สัตว์อื่นที่จบชีวิตต้นเองได้มีเพียงการ์ตูน นวนิยาย. ยกตัวอย่างการตายหมู่ของไวด์เดอบิสเมื่อข้ามธารน้ำในแม่น้ำเซเลนเงติ, การตายหมู่ของแม่ปลาเซลมอน ล้วนเป็นปัจจัยภายนอกที่ทำให้จบชีวิตเเละวิถีธรรมชาติที่เป็นพระประสงค์ของพระเจ้าทั้งสิ้น. พระไวด์เดอบิสจะเปนอาหารให้จระเข้และสัตว์กินซากอื่นๆ ตัวที่อ่อนแอจะตายไป. ส่วนแม่ปลาเซลมอน ต้องตายเพราะความเหนื่อยล้าและเปนอาหารให้ลูกๆที่จะเจริญเติบโตต่อไป
4. จงอยปากนกไม่งอโค้งดังเรื่องที่เล่า. เพราะนกจะลับปากมันกับสารพัดสิ่งไม่ว่าจะหินหรือต้นไม้. พฤติกรรมนี้ทำทุกวันตลอดการดำรงมีชีวิตอยู และกรงเล็บก็แฉกเช่นเดียวกัน โดยเฉพาะกรงเล็บตีนจะพิถีพิถันเปนพิเศษเพราะเปนอาวุธที่ทรงพลังในการดำรงชีพ. หากไม่ลับกับร่างกายตนเองก็กับหิน,เหยื่อ,ไม้ ทุกอย่างที่มันจับต้องได้. จึงเปนจิตนาการ์ที่คิดกันไปเองแล้วมีการลิงค์ไปในสื่อต่างๆ. เรื่องใช้จงอยปากกระแทกจนผลัดอันใหม่ขึ้นมา หากมันกระทำเช่นนั้นจริงมันอดอาหารตายแล้ว เพราะนกนักล่าทั้งหลายมีอาวุธสำคัญสองชนิด อุ้งตีนที่จับเหยื่อและสามารถสังหารเหยื่อกลางเวหา และจงอยปากที่แหลมคมดุจกรรไกรใบมีด มันไม่ปล่อยให้จงอยยาวยื่นเปนอุปสรรคดุจดั่งที่กล่าวถึง
5.ขนปีกนกไม่หนักเกินความจำเปน ไม่มีการไปกระจุกตัวที่หน้าอก อย่างที่อ้างในเรื่องแต่ง. การผลัดขนนกตามอายุเปนประจำและไม่กระทำให้เสร็จสิ้นในครั้งเดียวเลย. ข้อเท็จจริงในการผลัดขนจะกระทำอย่างมีระบบ ค่อยเปนค่อยไป ไม่จิกจนหมดในคราวเดียว. ดังนั้นตัวเลข150 ก็เปนเพียงจินตนาการณ์ของผู้แต่งเช่นกัน
6. บททดสอบของนกอิรทรีเริ่มต้นตั้งแต่มันฟักเปนตัว. ไม่ต้องถึงสี่สิบปีเจ็ดสิบปีค่อยมาวิเคราะห์การอยู่รอด เพื่อความอยู่รอดมันอาจต้องฆ่าน้อง ตัวที่แข็งแรงย่อมมีโอกสาอยู่รอดสูง มันต้องโผล่บินให้ได้ด้วยตนเอง มิเช่นนั้นก็ตาย มันต้องยังชีพด้วยการหาอาหารเองเมื่อออกจากรังได้แล้ว โดยศึกษารูปแบบที่พ่อหรือแม่เปนแบบอย่างให้ ต้องอพยพเดินทางไกลไปหาแหล่งอาหารที่สมบูรณ์เมื่อฤดูการอพยพมาถึง ซึ่งสำหรับลูกนกปีแรกมักมีอายุเพียง4-6เดือนเท่านั้นก็ต้องเดินทางแล้ว. ซึ่งการอพยพจะกระทำจวบจนชีวิตมันจะสิ้นสุด. อุปสรรคใหญ่ของการเดินทางไปและกลับคือหาอาหารไม่ได้ตายเสียก่อน หรือไม่ก็ถูกมนุษย์กำจัด ที่ร้ายยิ่งกว่าคือไปตายเพราะน้ำมือมนุษย์ที่วางยาเบื่อหนู เบื่อสัตว์ที่คิดว่าเปนผลต่อเกษตรกร.