ตอนที่ ๑ จุดเริ่มการเปลี่ยนแปลงวงการแพทย์ไทย (๑.๑)
อ่าน [ประสูติกาลเฉลิมพระนาม และพระชนม์ชีพในปฐมวัย]ทรงเป็นนักเรียนนายร้อยพิเศษสมัยนั้นเป็นประเพณีที่เจ้านายผู้ชายมักจะเข้าเป็นนักเรียนนายร้อยทหารบก สมเด็จพระบรมราชชนกก็ทรงเข้าเป็นนักเรียนพิเศษโรงเรียนนายร้อยพร้อมๆ กับพระเชษฐาและพระอนุชาคือ สมเด็จเจ้าฟ้าจุฑาธุชธราดิลกและสมเด็จเจ้าฟ้าประชาธิปกศักดิเดชน์ เสด็จรับการฝึกหัดแถวทหารและกายบริหารที่โรงเรียนนายร้อยทุกๆ วันพุธ และตอนเช้าวันเสาร์ เสด็จออกจากพระบรมมหาราชวังประทับรถม้าพระที่นั่งไปพร้อมกันทุกพระองค์ในเวลาย่ำรุ่ง แต่งพระองค์นักเรียนนายร้อยแต่ไม่มีเครื่องหมายเลขบอกชั้นอินทรธนู และทางโรงเรียนนายร้อยได้คัดเลือกนักเรียนนายร้อยที่มีอายุและรูปร่างไล่เลี่ยทุกพระองค์ไว้ถวายอีก ๘ นาย เพื่อรวมจำนวนสมทบจัดเป็นหน่วย ๑ หมู่ ๑๒ คน สำหรับฝึกหัดเป็นหมู่ทหารราบมือเปล่า มีนายร้อยโทหยินเป็นครูถวายการฝึก การฝึกแถวเริ่มเวลาประมาณ ๖.๓๐ น. ถึง ๘.๐๐ น. หลังจากนั้นทุกพระองค์จึงเสด็จกลับพระบรมมหาราชวัง
พระราชพิธีโสกันต์และพระราชทานพระสุพรรณบัตรเมื่อพระชนม์ได้ ๑๒ พรรษา พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าฯ ให้มีพระราชพิธีมหามงคลโสกันต์ มีการสมโภช ๗ วัน ๗ คืน ตั้งแต่วันที่ ๒๔ ถึง ๓๑ ธันวาคม พ.ศ. ๒๔๔๖ หลังโสกันต์แล้ว “เป็นราชประเพณีโบราณมา ที่สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอเจ้าฟ้า เมื่อทรงพระชันษาเจริญขึ้นสมควรกาลแล้วก็พระราชทานพระสุพรรณบัตรเฉลิมพระนามตามควรที่ตั้งอยู่ในพระบรมราชตระกูลอันสูงศักดิ์ บางพระองค์โปรดเกล้าฯ ให้ดำรงพระเกียรติยศเป็นเจ้าฟ้าต่างกรมทรงศักดินาเต็มตามพระราชกำหนด เป็นธรรมเนียมสืบมา ทรงพระราชดำริว่า สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอเจ้าฟ้าชายมหิดลทรงพระเจริญวัย สมควรที่จะได้รับพระสุพรรณบัตรเฉลิมพระนามตามขัตติยราชประเพณีจึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้มีพระราชพิธีตามอย่างที่เคยมีมาแต่ก่อน ให้สถาปนาสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอเจ้าฟ้าชายขึ้นเป็นสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าต่างกรม มีพระนามตามจารึกในสุพรรณบัตรว่า สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้ามหิดลอดุลเดช นเรศวรมหาราชาธิบดินทร์ จุฬาลงกรณินทรวรางกูร สมบูรณ์เบญจพรสิริสวัสดิ์ ขัตติยวโรภโตสุชาต คุณสังกาศเกียรติประกฤษฐ์ ลักษณวิจิตร พิสิฎฐ์บุรุษย์ชนุดมรัตน์พัฒนศักดิ์ อรรควรราชกุมาร กรมขุนสงขลานครินทร์ มุสิกนาม ให้ทรงศักดินา ๔๐,๐๐๐ ตามพระราชกำหนดอย่างสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าต่างกรมในพระบรมราชตระกูลอันสูงศักดิ์”ทรงผนวชหลังจากพระราชพิธีโสกันต์ได้ประมาณ ๘ เดือน ในวันที่ ๒๑ สิงหาคม พ.ศ. ๒๔๔๗ ทรงผนวชเป็นสามเณร ที่วัดบวรนิเวศวิหาร พร้อมด้วยพระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว (ซึ่งขณะนั้นทรงดำรงพระยศเป็นสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช) ซึ่งการนี้มีการสมโภชที่พระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัยระหว่างทรงผนวชนี้ ประทับที่ “ตำหนักทรงพรต” ทรงลาผนวชเมื่อวันที่ ๑๓ ธันวาคม พ.ศ. ๒๔๔๗ทรงศึกษาต่อในต่างประเทศ |
ไม่มีความเห็น