ประวัตินอสตราดามุส


ประวัตินอสตราดามุส

ประวัติของนอสตราดามุส
นอสตราดามุส เป็นชาวฝรั่งเศส เชื้อสายยิว เกิดเมื่อวันที่ 14 ธันวาคม ค.ศ. 1503 ในครอบครัวของ จ๊าคส์ กับ เรอเน่ เดอ นอสเตรดัม โดยนอสตราดามุสมีชื่อเดิมว่า มิเชล เดอ นอสเตรดัม เนื่องจากคุณปู่และคุณตานอสตราดามุสเป็นแพทย์หลวงในราชสำนักฝรั่งเศส เมื่อทั้งคู่มีลูกชายและลูกสาว จึงให้แต่งงานกัน


ในเวลาเย็น เนื่องจากคุณปู่และคุณตาเป็นถึงแพทย์หลวง จงคบค้าแต่คนในระดับเดียวกัน เมื่อถึงเวลาอาหารเย็นก็จะมาถกปัญหา หรือคุยกันทางวิชาการ นอสตราดามุสก็ได้ซึมซับมามากมาย นอสตราดามุสถูกส่งไปศึกษาที่มองต์เปลีเยร์ ทางแพทย์จนสำเร็จได้ใบประกอบโรคศิลป์ในมือ ในสมัยศตรวรรษที่ 16 การแพทย์อยู่ในยุคมืด ฝรั่งเศสถูกกาฬโรคคุกคามนอสตราดามุสอดทนต่อความเชื่อต่าง ๆ ในมหาวิทยาลัย จนครบ 3 ปี สอบผ่านจบหลักสูตรได้ปริญญาบัตรการแพทย์เมื่อ ค.ศ. 1525


นอสตราดามุสได้ออกเดินทางสู่ชนบทด้วยจิตใจที่ปลอดโปร่ง เพื่อทดลองวิชาการแพทย์ เพราะในขณะนั้นดินแดนตอนใต้ของฝรั่งเศสถูกครอบงำด้วยกาฬโรคอย่างร้ายแรง ผู้คนเสียชีวิตมากมาย นอสตราดามุสในฐานะแพทย์หนุ่มจึงออกรักษาผู้ป่วย ทั้งเวลากลางวันและกลางคืน ใช้วิธีการรักษาต่างจากแพทย์คนอื่นอย่างสิ้นเชิง วิชาแพทย์แผนโบราณได้ถูกนำมาใช้ช่วงนี้เอง โดยนำสมุนไพรต่าง ๆ มาทำขึ้นเป็นแบบยาเม็ด ด้วยเหตุนี้เอง ทำให้คนไข้มีอาการดีขึ้น ทำให้โรคระบาดในเมืองซาลองและเมืองอิกซ์ถูกขจัดจนหมดสิ้น แต่นอสตราดามุสก็เดินทางไปรักษาโรคระบาดต่อไป อีกหลายเมือง

 

ขากลับเขาได้รับการต้อนรับจากชาวบ้านที่ซาบซึ้งในบุญคุณที่ได้รักษาญาติพี่น้องให้รอดพ้นจากความตาย เมื่อโรคระบาดเบาบางลง นอสตราดามุสจึงกลับมาศึกษาต่อในระดับปริญญาเอก วันที่สอบนั้นมีผู้คนไปเฝ้าดูนอสตราดามุสตอบคำถามมากมาย เขาตอบโต้ได้อย่างฉะฉาน คล่องแคล่ว จนคณบดีของคณะแพทย์ศาสตร์ประทับใจมาก จึงให้เป็นศาสตราจารย์ของคณะแพทย์ศาสตร์ แต่เขาสอนได้ 3 ปี ก็อยากกระโจนสู่โลกที่กว้างกว่านี้ จึงลาออกแล้วมาตั้งรกรากอยู่ที่เมืองอะญอง ไม่ช้าเขาก็ได้เพื่อนสนิทชื่อ จูเลียส ซีซาร์ สแคลิงเกอร์ นักปรัญญาของเมืองอะญอง นอสตราดามุสได้แต่งงานกับหญิงคนหนึ่ง และมีบุตรชายและบุตรสาวที่น่ารัก 2 คน ทำให้ชีวิตช่วงนั้นนอสตราดามุสมีความสุขมาก แต่แล้ว ความน่าสะพรึงกลัวก็คืบคลานเข้ามา

 

ตกค่ำวันหนึ่งเมื่อนอสตราดามุสกลับมาถึงบ้านก็พบว่า ภรรยาและลูก ๆ ของเขาตกเป็นเหยื่อของกาฬโรคเสียแล้ว ความรู้ต่าง ๆ ที่นอสตราดามุสมีอยู่ ถูกนำมาใช้อย่างสุดความสามารถ แต่ก็ไม่อาจช่วยชีวิตภรรยาและลูก ๆ ของเขาได้ ข่าวนี้ ได้แพร่สะพัดในเมืองอะญองอย่างรวดเร็ว ชาวบ้านจึงไม่ให้ความเชื่อถือในวิชาแพทย์ของนอสตราดามุสอีกต่อไป แม้เพื่อนสนิทอย่าง สแคลิงเกอร์ ก็ตีตัวออกห่าง มิหนำซ้ำยังถูกศาสนจักรกล่าวหาว่าดูหมิ่นพระคริสต์อีกด้วย ทำให้นอสตราดามุสเกิดความเสียใจและสลดใจมาก จึงตัดสินใจหนีออกจากเมืองอะญอง ท่องเที่ยวไปทั่วยุโรปตอนใต้และตะวันตกเป็นเวลา 6 ปี

 

จนกระทั่งเขามาปรากฏตัวที่เมืองซาลอง และเมืองอิกซ์ ซึ่งกำลังถูกกาฬโรคเข้าคุกคาม นอสตราดามุสจึงใช้ความสามารถของเขารักษาผู้ป่วยจนกาฬโรคถูกขจัดสิ้น นอสตราดามุสมีอายุย่าง 45 ปี จึง ลงหลักปักฐานอาศัยอยู่ที่เมืองซาลอง แต่งงานกับ แอนน์ ปองชาร์ต เกอร์เมลล์ ทั้งสองอยู่กันอย่างมีความสุข จนกำเนิดบุตรชายหญิงหลายคน คนโตชื่อ ซีซาร์ เดอ นอสเตรดัม ซึ่งเป็นบุตรคนเดียวที่นอสตราดามุสเขียนจดหมายเหตุทำนายเหตุการณ์ให้มากที่สุด นอสตราดามุสอาศัยอยู่ในเมืองซาลองโดยเป็นแพทย์รักษาคน พร้อมกับผลิตเครื่องสำอางและให้คำปรึกษาเกี่ยวกับความงามอีกด้วย นอสตราดามุสได้ใช้ชีวิตอย่างระมัดระวังตัว นอกบ้านเขาเป็นแคธอลิกที่ดี ทำทานแก่คนยากจน แต่ในบ้านแล้ว นอสตราดามุสได้ดัดแปลงห้องใต้หลังคาเป็นห้องทำงานและเป็นห้องที่เขาใช้อาศัยเวลาที่เขาใช้จิตทัศน์ดูเหตุการณ์ในอนาคต ภายในห้องชั้นบนของบ้าน นอสตราดามุสเห็นเหตุการณ์ต่าง ๆ มากมาย แต่ก็รู้สึกอึดอัดอย่างมาก จึงหาทางออกโดยเขียนออกมาเป็นโคลงปริศนา และตั้งชื่อว่า เซนจูรี่ โดยมีทั้งหมด 10 เล่ม แต่ละเล่มแบ่งโคลงเป็น100 บท และออกตีพิมพ์ ทำให้ผู้คนชื่นชอบมาก

 

ผู้คนจึงทราบว่านอสตราดามุสเป็นโหรด้วย ชีวิตในช่วงหลังของนอสตราดามุสนั้นได้รับความคุ้มครองจากพระนาง แคธรีน เดอ เมซี พระราชินีนาถของฝรั่งเศส ทางสังฆจักรจึงไม่สามารถเข้ามายุ่งเกี่ยวได้ แล้วศัตรูตัวฉกาจของมนุษย์ก็คือกาลเวลาแห่งชีวิตที่มาบั่นทอนอายุขัยของแต่ละคน นอสตราดามุสในขณะที่เหลือเวลาของชีวิตอีก 1 ปี กับ 8 เดือนก็ได้รับพระราชทานตำแหน่งองคมนตรีและแพทย์หลวงประจำราชสำนัก โรคประจำตัวของนอสตราดามุสก็คือโรคเก๊าต์ ในวันที่ 17 มิถุนายน ค.ศ. 1566 นอสตราดามุสได้ทำพินัยกรรมแบ่งสมบัติให้ภรรยาและลูก ๆ และสั้งให้ย้ายเตียงของเขาไปไว้ที่ห้องชั้นบน และในรุ่งเช้าของอีกวันหนึ่ง นอสตราดามุสก็ถึงแก่กรรม โดยศพของเขาได้นำไปฝังในท่ายืนพิงผนังของโบสถ์ เป็นอันจบชีวิตของปรมาจารย์

หมายเลขบันทึก: 399416เขียนเมื่อ 29 กันยายน 2010 13:54 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 16:35 น. ()สัญญาอนุญาต: สงวนสิทธิ์ทุกประการจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท