หลวงพ่อเขียน วัดสำนักขุนเณร อำเภอดงเจริญ จังหวัดพิจิตร


หลวงพ่อเขียน วัดสำนักขุนเณร อำเภอดงเจริญ จังหวัดพิจิตร
หลวงพ่อเขียน ธัมมะระกุขิโต เทพเจ้าวาจาสิทธิ์แห่งสำนักขุนเณร เกิดปี พ.ศ.2397 มรณะภาพ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2507 ศิริอายุรวม 110 ปี พื้นเพเป็นชาวจังหวัดเพชรบูรณ์ ปี พ.ศ.2411 บิดามารดานำมาบวชเป็นสามเณรที่วัดทุ่งเรไร เพื่อให้ได้รับการศึกษาจากนั้นได้ลาสิกขาบท และอุปสมบทเมื่อมีอายุครบบวชที่วัดภูเขาดิน จ.เพชรบูรณ์ จากนั้นได้ย้ายมาจำพรรษาที่วัดวังตะกู จ.พิจิตร และได้ลาไปศึกษาพระปริยัติธรรม คือ
1.วัดเสาธงทอง จ.ลพบุรี อยู่กับพระอาจารย์ทอง 9 พรรษา
2.วัดรังษี กทม. อยู่กับเจ้าคุณธรรมกิตติ 16 พรรษา แล้วกลับมาที่วัดเสาธงทองอีก 9 พรรษา จากนั้นจึงกลับมาที่วัดวังตะกู จ.พิจิตร
ท่านชอบเลี้ยงสัตว์ป่่าชนิดต่างๆ โดยจะเสกอาหารให้กิน ครั้งหนึ่งม้าของท่านหลุดไปกินข้าวของชาวบ้าน ชาวบ้านโมโหคว้าปืนลูกซองมายิงแต่กระสุนหาได้ระคายผิวของมันไม่ ภรรยาของผู้เสียหายไปยืนด่าหลวงพ่อท่านฟังอยู่พักใหญ่ จึงได้เอ่ยขึ้นว่า"เอ็งด่าข้าดีไปเถิด ระวังปากเอ็งจะเน่า" ไม่นานหญิงคนนั้นป่วยเป็นโรคปากเปื่อยรักษาอย่างไรก็ไม่หาย ชาวบ้านแนะนำให้ไปขอขมาท่าน เมื่อปฏิบัติตามก็หายจากอาการป่วยอย่างน่าอัศจรรย์ เรื่องเล่าอันน่าอัศจรรย์เกี่ยวกับวาจาสิทธิ์ของท่านยังมีอีกมาก จะนำมาเล่าสู่กันฟังในโอกาสต่อไป
ปี พ.ศ. 2484 เกิดเหตุที่ท่านต้องผจญความยากลำบากเมื่อมีพระรูปหนึ่งมาจากจังหวัดนครราชสีมา ได้ก่อร่างสร้างอิทธิพลในหมู่ช้าวบ้าน มีการส้รางกุฎิใหม่ยกเว้นเพียงของท่าน นอกจากนั้นยังสร้างเมรุเผาศพติดกับกุฎิท่านอีกด้วย แต่ท่านก็อดทนมิได้เอ่ยปากว่ากระไร
ปี พ.ศ. 2491 กำนันเถาว์ ทิพย์ประเสริฐ ศรัทาในตัวท่านจึงนิมนต์ท่านมาจำพรรษาที่วัดสำนักขุนเณร ห่างจากวัดวังตะกู 5 กิโลเมตร ได้สร้างกุฎิ คอกม้า กรงเลี้ยงสัตว์ให้ท่าน จากนั้นมาวัดสำนักขุนเณรได้มีความเจริญ มีโรงเรียนวัดสำนักขุนเณร(หลวงพ่อเขียนอุทิศ) เกิดขึ้น ทั้งหลายทั้งสิ้นมาจากชาวบ้าน พ่อค้าคหะบดีที่เลื่อมใสในตัวท่าน
21 ธันวาคม พ.ศ. 2507 ท่านมรณะภาพด้วยโรคหอบหืดกำเริบ ยังความเสร้าโศกเสียใจแก่ศิษยานุศิษย์ และประชาชนทั่วไปเป็นอย่างมาก ที่ท่านฝากทิ้งไว้คือ ความเจริญในพระศานาไว้ให้ผู้ศรัทธาได้ยึดเหนี่ยวจิตใจ
ด้านวัตถุมงคลของท่านมีหลายรุ่น หลายปี อนึ่งต้องย้อนว่าท่านมรณะภาพปี 2507 และความที่ท่านเป็นพระสงฆ์ที่มีกิจวัตรปฏิบัติงดงามจึงเป็นที่นิยมของผู้คนประชาชนทั่วไป จนปัจจุบันมีวัตถุมงคลปลอมก็เยอะ ผู้เขียนขอนำเอาภาพจากเวปไซต์ของชาวพิจิตรเพื่อนำมาเป็นตัวอย่างในการศึกษา หรือได้ชมกัน เพียงสังเขป
วัตถุมงคลที่นิยมกันมากคือ
1.เหรียญเนื้อเงิน มีทั้งรูปเสมา รูปกงจักร รูปไข่ เป็นของหายากประสบการณ์สูง
2.รูปหล่อ มีหลายพิมพ์หลายยุค ที่นิยม คือ รูปหล่อหน้าลิง ,รูปหล่อค่อมเล็ก,รูปหล่อฐานเต๋า
วัตถุมงคลที่ท่านร่วมปลุกเสกก็มีแต่หลักฐานไม่แน่ชัดเอาเป็นว่า วัตถุมงคล พ.ศ.2471-2507 ทันท่านแน่นอน
การเล่นหาของในช่วงดังกล่าวให้พึงระลึกว่า
1.รูปหล่อของหลวงพ่อแท้ทันท่านจะมีตั้งแต่ปี 2471-2507 เท่านั้นและจะมีเพียงพระที่ทำการหล่อโบราณแทบทั้งสิ้น มีเพียง ปี 2499 ที่พบมีพระปั๊ม
*แต่ก็อย่างที่บอกของปลอมเยอะมากเพราะพระดัง พระดี คนนิยม ก็เป็นช่องทางพวกมารศาสนาทำปลอมกันขึ้นมา
นี่เป็นเพียงเกล็ดเล็กๆน้อยๆจากคนตัวเล็กๆ ไม่ใช่เซียนใหญ่โตอะไร
หมายเลขบันทึก: 399409เขียนเมื่อ 29 กันยายน 2010 13:27 น. ()แก้ไขเมื่อ 22 มิถุนายน 2012 00:56 น. ()สัญญาอนุญาต: ไม่สงวนสิทธิ์ใดๆจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท