ปรับเงินเดือนใช้หนี้
ขอแสดงความยินดีกับคุณครูทั่วประเทศกว่า 400,000 คน ที่มติคณะรัฐมนตรีเห็นชอบให้ปรับเงินเดือนครูขึ้นอีก 8 เปอร์เซ็นต์ ไม่รู้ว่าช่วยบรรเทาความเดือดร้อนได้แค่ใหน ผมคิดว่ากว่า 20 เปอร์เซนต์ของครูทั่วประเทศน่าจะเดือดร้อนเกินเยียวยา เพราะกู้เงินมาใช้จ่ายทั้งในระบบและนอกระบบ เงินเดือนสุทธิเหลือไม่ถึงพันบาท หรืออาจติดลบก็มี ( อย่าคิดมากนะครับว่าผมเอาสถิติมาจากที่ไหน ก็อาศัยว่าย้ายที่ทำงานหลายที่แต่ละที่เห็นเพื่อนๆรวมทั้งผมด้วย เป็นหนี้กันทั้งนั้น ) จนมีคนพูดกันว่า คนเป็นครูจะต้องเก่ง คือกู้ได้ทุกอย่างที่ขวางหน้า ยกเว้น กู้ไม่ได้อย่างเดียว คือ กู้ระเบิด ( แสดงว่า ตำรวจ ทหาร เก่งกว่าครู ฮ่า ๆ ๆ )
หลักเศรษฐศาสตร์บอกว่า ธุรกิจไม่เกิด ถ้าไม่เป็นหนี้ ครูทุกคนที่เป็นหนี้ พอได้อ่านก็ใจชื้นขึ้นทันที่ แสดงว่าที่ครูเป็นหนี้ก็เพราะธุรกิจกำลังจะเกิด ผมเป็นครูมาถึงปัจจุบันก็ 32 ปีผ่านไป และเป็นหนี้ตั้งแต่เริ่มเป็นสมาชิกสหกรณ์ครู เพราะต้องค้ำประกันเงินกู้สามัญให้เพื่อนสมาชิกด้วยกัน และเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเปรียบ จึงต้องกู้เงินจากสหกรณ์ออมทรัพย์ครูบ้าง โดยให้เพื่อนสมาชิกที่เราค้ำประกันเงินกู้ มาค้ำประกันเงินกู้ให้เราบ้าง ตอนนี้ผมมีธุรกิจที่ต้องบริหารจัดการมาตั้งแต่ต้นแหละครับ คือ บริหารหนี้สินโดยไม่มีทรัพย์สิน ฮ่า ๆ ๆ
ความสุขในชีวิต ผมว่า 1 ต้องไม่มีโรคภัยไข้เจ็บ 2. ต้องไม่มีหนี้สิน ถ้าเราไม่มีโรคประจำตัวและไม่มีหนี้สินที่ต้องผ่อนชำระ ผมว่าชิวิตเป็นสุขแน่นอน ตอนนี้ผมอยู่อย่างพอเพียง (แต่เที่ยวให้เพียงพอ ฮ่า ๆๆ ) ถ้าทุกอย่างพอเพียงมันก็ไม่จนเองละครับ เงินเพิ่มที่ได้รับ ขอให้นำไปชำระหนี้ อย่ารีบไปฉลองก่อนนะครับ และต้องขอขอบคุณรัฐบาลชุดนี้ ( พณ.ชินวรณ์ บุณยเกียรติ รมต.ศึกษาธิการ ) ที่เห็นคุณค่าของวิชาชีพครู ขอบคุณครับ
ไม่มีความเห็น