ห้องเรียนกระบวนกร AI (ตอนที่ 247) ..".. AI กับการ Coaching (ภาคพิศดาร ตอน 1)... "

Appreciative Coaching

ครับ...ต่อคำถามที่ว่า "แล้ว AI จะไปแทรก Coaching  ตรงไหน" ครับ...

ตอบเลยว่าแทรกได้ทุกที่..ลองดูในมิติง่ายๆนะครับ...5w1h...

วันนี้ผมจะเจอะเรื่อง What ก่อนนะครับ...

........

What....อะไร...เราสามารถใช้ Coaching ทุก Model เป็นตัวตั้งแล้วใช้ AI ทำให้มันดีขึ้นได้ผลขึ้น เพราะ..... AI เชื่อ..ในทุกระบบมีอะไรที่ work อยู่เสมอ...รอเราค้นพบ...

รับรองครับเวลาคุณ Coach ใครไม่ว่าด้วย Model อะไรก็ตาม มันก็มี work กับไม่ work ครับ...นี่แหละครับ พื้นที่ของ AI

เช่นถ้าคุณเล่น NLP Coaching ก็สามารถใช้ AI ค้นหาว่า NLP work กับใคร ตอนไหน...อย่างปีนี้กลุ่ม AI Thailand เราเน้นที่ Positive Psychology Coaching เราก็มุ่งใช้ AI ทำให้การทำ Positive Psychology Coaching ให้ได้ผลมากขึ้น...

............

พอเข้ามากลุ่ม Positive Psychology Coaching ก็มี "โจทย์" ให้เราเล่นเพียบครับ...เพราะ Positive Psychology มีครอบคลุมหลายด้านเช่น Positive Parenting สำหรับคุณพ่อคุณแม่ Positive Education สำหรับคุณครู (ปีนี้เรามีหนึ่งคน)...เรื่องจิตวิญญาณ เช่นศาสนาพุทธ โยคะ นี่ก็ถือเป็นจิตวิทยาบวกครับ..Employee Engagement นี่เราก็เริ่มทำครับ...ที่โรงแรมแห่งหนึ่ง...

......

พอไปดูสถานการณ์ก็เจอว่าพนักงานลาออกบ่อย...ไม่ใช่เรื่องเงินด้วย...เอาล่ะ เราก็หาเรื่องเล่นละ...ตอนนี้เราไปเจอหัวข้อหนึ่งใน Positive Psychology Coaching เรื่องการของ Gradtitude หรือเรื่องพลังแห่งการขอบคุณ...(หัวข้อนี้มีอยู่ใน Positive Psychology และหนังสือ The Secret ด้วยครับ) จริงๆในศาสนาพุทธคือเรื่อง "มุฑิตาจิต" นั่นเอง

..............................

ครับ..เพราะเรา (ผมกับลูกศิษย์) ก็ต่างมีประสบการณ์คล้ายกันคือ เราต่างเจอ (ผมว่าคุณคงเจอเช่นกัน) ว่า..มีคนทำงานจำนวนมากไม่ทราบว่างาน องค์กรของตัวเองจริงๆแล้ว มีอะไรดีๆ ที่น่าขอบคุณอยู่มากมาย แต่ไม่พูดถึงกัน เลยจบลงที่อะไรก็ไม่ดีซักที ประมาณว่า เห็นสนามหญ้าบ้านคนอื่น ดีกว่าบ้านตนเองครับ...เป็นไปได้ไหม เรื่องนี้จะเปลี่ยนอะไรบางอย่างได้...เราเลยออกแบบกิจกรรมนี้เป็นกิจกรรมแรก แล้วค่อยตามด้วยทฤษฎีอื่นๆ

.....................................

ที่มองไว้ก็ The Flow ครับ...ทฤษฎีนี้ก็น่าสนใจมากมายครับ...ว่าด้วยความสุขจริงๆ ซึ่งเป็นสมดุลย์ระหว่างความท้าทายและทักษะ...ประมาณว่าคนเบื่อเพราะ..ทักษะมาก แต่งานท้าทายน้อยไปเช่น เหมือนจบนายร้อยแล้วไปเป็นรปภ. นะครับ..อันนี้ไม่สุขแน่นอน...

อีกอันประมาณว่า ความท้าทายสูงกว่าทักษะ นี่ก็สติแตก เช่น จบครู แต่ต้องไปทำงานขายประกัน โดยยังมีทักษะไม่พอ แถมจำเป็นต้องทำ ไม่งั้นอด..อันนี้ก็ไม่มีความสุข...

ในแง่ของ Positive Psychology ความสุขมาจากภาวะที่ทักษะกับความท้าทายไปด้วยกันครับ.......นี่แหละทฤษฎี Flow... เราก็จะเอาเรื่องนี้ไปประเมิน จากนั้นเราก็จะหาทางยกระดับความสุข เช่นพวกเบื่อก็ต้องมาดูเป้าหมายใหม่ ที่ท้าทายกว่าเดิม ส่วนพวกสติแตก หมดไฟก็ต้องมาประเมินทักษะกันใหม่ หรือกำหนดเป้าหมายที่เป็นไปได้ใหม่ แล้ว Coach ยกระดับทักษะทีละขั้น...ส่วนพวกสมดุลย์แล้วก็มาเป็น Coach ครับ.และเป็น Role Model ให้เราศึกษากันต่อ..

....

ทั้งนี้พอเราประเมิน ออกแบบกิจกรรมแล้ว...เราก็จะลองทำ...จากนั้นก็กลับมาประเมินด้วย Appreciative Inquiry ว่าอะไร work ไม่ work แล้วเราก็คาดว่าจะเจอ "ความลับ" บางอย่าง จากนั้นเราก็จะนำมาขยายผลครับ... ในที่สุดก็จะเกิดแนวทางเฉพาะขึ้นมาจากการขยายผลดังกล่าว เพราะเราทำเป็น Cycle (วงจร) หลายๆวงจรครับ...

......

ลองติดตามงานของชาว AI Thailand กลุ่ม Positive Psychology Coaching ครับ..ภายในปลายปีหน้า เราน่าจะได้เจออะไรตื่นเต้นอีกหลายอย่างครับ...เพราะจะมีชาว AI เล่นเรื่องนี้อย่างต่ำ 20 คนครับ...

........

ครับ สรุปคือ..เราสามารถตั้งโจทย์ว่าจะ Coach ด้วย Model ไหน + กิจกรรมอะไรก็ได้ แล้วใช้ AI ทำให้มันดีขึ้นครับ...

...

คุณล่ะคิดอย่างไร

[มนัสดา]

เรียนท่านอาจารย์ที่นับถือ

   ขอบคุณมากค่ะ คุณยายจะลองใช้ AI ในที่ทำงานดูนะคะ อยากรู้ว่าทำได้หรือเปล่า

[ดร. ภิญโญ รัตนาพันธุ์]

ลองดูเลยครับ...ลุยเลยครับ...