เป็นการออกแบบที่ความคิดเกิดแบบปิ๊งแว้บ ในห้องท่านผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิต เมื่อเช้าวันที่ ๑๑ ส.ค. ๕๓ ในโอกาสที่เราไปขอพบเพื่อชวน กฟผ. เป็นภาคีร่วมจัดมหกรรมการจัดการความรู้แห่งชาติครั้งที่ ๕ วันที่ ๒๒ – ๒๓ พ.ย. ๕๓
เราในที่นี้คือ ดร. ประพนธ์ คุณแอนน์ และคุณอ้อ เมื่อท่านผู้ว่าการฯ คุณปัทมสิริวัฒน์ ตกลงเป็นภาคีร่วมจัด และถามเราว่ามีคำแนะนำประเด็นที่ กฟผ. ควรนำไป ลปรร. ในงานมหกรรมอย่างไรบ้าง เทวดาดลใจผมทันที ให้เรียนท่านว่า ควรหาทางใช้มหกรรมฯ เป็นเครื่องมือบรรลุเป้าหมายยากๆ ที่พนักงาน กฟผ. ยังไม่ค่อยเข้าใจชัดเจน หรือยังไม่ค่อยมีเป้าหมายร่วม
ท่านผู้ว่าการ น่าจะมีเป้าหมายสำคัญๆ อยู่แล้ว และน่าจะมีประเด็นที่บรรลุยาก น่าจะหยิบประเด็นนั้นมาเป็นหัวข้อสำหรับให้พนักงานนำไป ลปรร. ในงานมหกรรมฯ ซึ่งหมายความว่า จะต้องมีการเตรียมการณ์ภายใน มีการทำความเข้าใจเรื่องนั้น มีการเสาะหา SS ตามเป้าหมายนั้นมา ลปรร. ภายใน เพื่อร่วมกันหาทางบรรลุเป้าหมาย และในขณะเดียวกันก็เป็นการเตรียมไป ลปรร. กับภายนอก กระบวนการนี้จะทำให้พนักงานซึ่งยังไม่ชัดเจนหรือไม่เข้าใจเรื่องนั้น เข้ามาเป็นเจ้าของเป้าหมายร่วมกัน คือเกิด Shared Vision ในประเด็นนั้น
เท่ากับใช้ KM ในการออกแบบหรือเตรียมการณ์การเข้าร่วมมหกรรมฯ แต่ได้ประโยชน์ต่อเป้าหมายหลักขององค์กรโดยตรง คือเกิดกิจกรรม KM เพื่อดำเนินการสู่เป้าหมายขององค์กร
เราออกมาคุยกับคุณชรินทร์ และคุณษากุล ของ กฟผ. เรื่องการดำเนินการของทีม KM กฟผ. เพื่อให้ กฟผ. ได้รับประโยชน์สูงสุดจากการร่วมเป็นภาคีจัดมหกรรมการจัดการความรู้แห่งชาติครั้งนี้
เกิดปิ้งแว้บอีกแล้ว ว่า สคส. จะไปช่วยหนุนการจัดกระบวนการภายใน เพื่อให้เกิดพลัง KM ในการขับเคลื่อนเป้าหมายที่ยากนั้นให้จงได้ เท่ากับ สคส. เข้าไปร่วมมือกับ กฟผ. ใช้มหกรรม KM แห่งชาติเป็นเครื่องมือบรรลุเป้าหมายยิ่งใหญ่ของ กฟผ.
วิจารณ์ พานิช
๑๑ ส.ค. ๕๓
ไม่มีความเห็น