ครู ศรช
ครม.ไฟเขียวปรับสถานภาพครูอัตรจ้างศูนย์การเรียนชุมชนกว่า8พันคนเป็นพนักงานราชการ
นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ รมว.ศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)มีมติเห็นชอบ อนุมัติให้ปรับสถานภาพครูอัตราจ้างของศูนย์การเรียนชุมชน(ศรช.) สังกัดสำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบ และการศึกษาตามอัธยาศัย(กศน.) เป็นพนักงานราชการ จำนวน 8,672 อัตรา เพื่อสร้างขวัญและกำลังใจ เพราะครูศรช.หลายคน เป็นครูอัตราจ้างมาหลายปี
ทั้งนี้ ได้จำแนก เป็นปีงบประมาณ 2553 จำนวน 7,122 อัตรา และปีงบประมาณ 2554 จำนวน 1,550 อัตรา โดยรายละเอียดในการปรับสถานภาพครั้งนี้ ได้แยกเป็นอายุงาน 10 ปีขึ้นไป จำนวน 667 คน อายุงาน 8-10 ปี จำนวน 930 คน อายุงาน 4-7 ปี จำนวน 2,363 คน และอายุงาน 1-3 ปี จำนวน 4,712 คน
นายชินวรณ์กล่าวว่า ครูศรช.ในกศน.ตำบล 7,409 ตำบล เปรียบเหมือนเป็นทัพหน้าในการปฏิรูปการศึกษาในทศวรรษที่สอง และการส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิต ครม.เห็นความสำคัญจึงได้ปรับขึ้นเป็นพนักงานราชการ ซึ่งในรายละเอียด กศน.จะต้องประสานงานกับสำนักงบประมาณต่อไป
โดยการปรับสถานภาพเป็นพนักงานราชการ ใช้งบฯจัดจ้างของกศน.ไม่ได้ใช้งบประมาณเพิ่มเติม ตามที่คณะกรรมการบริหารพนักงานราชการ และสำนักงบประมาณ ห่วงใยว่าจะเป็นภาระผูกพันงบประมาณ อย่างไรก็ดี การเป็นพนักงานราชการ จะมีสวัสดิการและได้รับการทำสัญญาจ้าง 4 ปี ซึ่งจะใช้งบประมาณรวมทั้งสิ้น 4,974,935,538 บาท
“ข้อกังวลในเรื่องงบผูกพัน ได้ชี้แจงไปว่า นโยบายปฏิรูปการศึกษาในทศวรรษที่สอง ประกอบกับพ.ร.บ.ส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย มีวัตถุประสงค์สำคัญที่จะทำให้ประชาชนทุกคนได้รับการศึกษาตลอดชีวิต ซึ่งศธ.มีนโยบายให้มีกศน.ตำบล ครบทุกตำบล เพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้ชุมชนในการขับเคลื่อนการปฏิรูปการศึกษา โดยจะทำให้ประชาชนทุกคนเข้าถึงแหล่งเรียนรู้ระดับชุมชนที่อยู่ห่างไกล และจะส่งผลให้พัฒนาตัวเองและพัฒนาคุณภาพชีวิตให้สูงขึ้นได้ ที่สำคัญครูศรช.ในกศน.ตำบล เป็นผู้ที่ดูแลการศึกษาในระบบ การศึกษาตามอัธยาศัย เป็นกลไกสำคัญในการประงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการเข้ามาร่วมจัดการศึกษากับกศน. ซึ่งทั้งหมดล้วนอาศัยครูศรช.เป็นทัพหน้าและได้ทำหน้าที่นี้มาเป็น 10 ปีแล้ว การปรับสถานภาพเป็นพนักงานราชการจะสร้างขวัญและกำลังใจให้แก่ครูศรช.และน่ายินดีอย่างยิ่ง”นายชินวรณ์กล่าว.
สวัสดีครับครูอรุโณทัย
ขออนุญาตแสดงความยินดีกับทุกคนที่ก้าวหน้าขึ้น จำไว้นะ เมื่อร่างกายโตใหญ่ขึ้น การทำงานเพื่อคนที่ขาดโอกาสทางการศึกษาก็ต้องมีปริมาณเพิ่มขึ้นด้วย และขอให้คิดเสมอว่าการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ มิใช่ก้าวสุดท้ายของชีวิต เป้าหมายที่แท้จริงต้องสูงกว่านี้ ใช้ความพยายามให้มากกว่าเดิม ผมขอเอาใจช่วยนะครับ
ขอร่วมแสดงความยินดีอีกคนครับ
ขอบคุณมาก คุณสมนึกสำหรับ ข้อคิดดีๆที่เสนอมา ขอบคุณครับ