การเลี้ยง


การเลี้ยงสุนัขพันธุ์ชิสุ

          

 

          "ไก่งามเพราะขน คนงามเพราะแต่ง" เช่นเดียวกับสุนัขจะมีขนที่งามได้ก็เกิดจากการรักษา โดย เฉพาะสุนัขพันธุ์ขนยาวจะต้องดูแลมากเป็นพิเศษ สุนัขพันธ์ชิสุ ซึ่งอยู่ในกรุ๊ป TOY เป็นสุนัขที่เราจะแนะนำการดูแลรักษาขนให้ยาวและนุ่มสลวยสวยตามพันธุ์ของเขา เป็นสุนัขที่มีขนเส้นเล็กและพันกันได้ง่าย เมื่อตอนที่เขายังเป็่นเบบี้อยู่ก็ไม่เท่าไรหรอกคะ แต่พอโตเป็นหนุ่มเป็นสาวแล้วนั้นถ้าไม่รู้จักวิธีการรักษาขนของเขาจะพันกันและมีโอกาสขาดได้ง่ายมาก

          ท่านที่เลี้ยงสุนับพันธุ์ชิสุสามารถนำวิธีการตังต่อไปนี้ใช้ได้เลยนะคะ เพราะเป็นคำแนะนำจากผู้เลี้ยงสุนัขพันธุ์ชิสุมาเป็นเวลานานหลายปีแล้ว และสุนัขของเธอก็ได้ตำแหน่งต่างๆ ใน Canada มานักต่อนักแล้ว

ส่วนอุปกรณ์ที่ใช้ก็มี

1.หวีแปรง

2.หวีเหล็ก

3.หวีหางยาว

4.กรรไกร

5.กรรไกตัดเล็บสำหรับสุนัข

6.กระดาษที่จะใช้ห่อขน

7.ยางสำหรับรัดขนโดยเฉพาะ

8.แชมพู

9.ครีมนวดสำหรับสุนัข

10.ผ้าเช็ดตัว

11.ไดร์เป่าผม

12.แบตตาเลี่ยน

          เอาละคะ เมื่อเตรียมอุปกรณ์เรียบร้อยแล้วก็ลงมือชั้นแรกได้เลย ในขั้นแรกเราต้องแปรงขนสุนัขให้ทั่วก่อนอาบน้ำ เพื่อสางขนที่พันกันออกก่อน เพื่อที่เวลาอาบน้ำ ขนจะได้ไม่พันกัน ซึ่งจะแกะออกลำบาก จากนั้นก็ใช้กรรไกรตัดเล็บสุนัข ตัดเล็บเท้าทั้งสี่ข้างออกให้หมด และใช้แบตตาเลี่ยนไถขนไต้อุ้งเท้าออกทั้ง 4 ข้าง เหตุที่ต้องไถขนที่ใต้อุ้งเท้าก่อนอาบน้ำ ก็เพื่อเวลาอาบเราจะได้ทำความสะอาดได้ทั่วถึงยังไงหละค่ะ

          เสร็จแล้วเราจึงใช้แปรงหวีขนที่หางให้เรียบ แล้วจับรวบหางขึ้น และใช้แบตตาเลี่ยนไถขนบริเวณโคนหาง ที่ต้องไถบนที่โคนหางเพื่อทำให้ตำแหน่งหางสูงขั้น จึงควรพิถีพิถันตรงจุดนี้ด้วยเช่นกัน      เสร็จขั้นตอนก่อนอาบน้ำแล้ว ก็ถึงเวลาเปียกกันได้แล้ว การอาบน้ำสุนัขพันธุ์ชิสุ ขั้นแรกใช้ฝักบัวฉีดน้ำให้ทั่ว และควรใช้น้ำอุ่นจะช่วยทำให้เลือดหมุนเวียนดี ขั้นตอนนี้ใช้เวลานานสักหน่อย เพราะขนสุนัขพันธุ์ชิสุหนาจึงควรราดน้ำให้ทั่วจริง ๆ เพื่อเวลาฟอกแชมพูจะได้สะอาดทั่วถึง 

          สำหรับแชมพูที่ใช้ ก็คือแชมพูที่คนใช้นี่แหละคะ ท่านใช้อย่างไหนสุนัขใช้อย่างนั้นได้เหมือนกัน เพียงแต่ท่านต้องนำแชมพูมาผสมให้เจือจางเสียก่อนเมื่อราดน้ำจนทั่วตัวสุนัขแล้วราดแชมพูที่ผสมจนเจือจางให้ทั่ว จากนั้นใช้มือลูบๆ อย่าเกา เพราะจะทำให้ขนพันกันเมื่อใช้มือลูบและนวดจนทั่วแล้ว จึงใช้น้ำล้างแชมพูออกให้หมด อย่าให้แชมพูหลง เหลืออยู่ มิฉะนั้นสุนัขจะคันและเกาจนเป็นแผลได้

วิธีเทสดูว่าล้างแชมพูออกหมดแล้วหรือยัง

         การมองเพียงแค่ตาเปล่าว่าฟองแชมพูหมดแล้วไม่พอ เราต้องใช้มือลูบขนดู ถ้าฝึดเป็นอันใช้ได้ การฟอกแชมพู ฟอกเพียงครั้งเดียวพอ

          ขั้นตอนต่อไปนำครีมนวดสำหรับสุนัขผสมน้ำในอ่าง แล้วจึงนำสุนัขลงไปแช่ในอ่าง เหตุที่ชิสุใช้ครีมนวด เพราะครีมนวดสำหรับสุนัขจะช่วยทำให้ขนทิ้งลง  เมื่อนำสุนัขแช่ครีมนวดแล้วใช้มือวักครีมนวด ราดลงไปบนตัวสุนัขให้ทั่ว อย่าใช้มือขยี้ขนนะคะใช้ลูบๆ เอาก็พอ เมื่อแน่ใจว่าขนถูกครีมนวดทั่วถึงแล้วจึงล้างด้วยน้ำอีกครั้ง ครีมนวดนี้จะไม่ต้องล้างออกหมด จะเหลือไว้บ้าง เพราะเป็นครีมบำรุงขน การที่เราเหลือครีมนวดไว้เพราะชิสุขนจะต้องทิ้ง ครีมนวดจะช่วยขนทิ้งสลวย การล้างครีมนวดก็เพียงแค่ฉีดน้ำออกก็พอเมื่อล้างน้ำขั้นสุดท้ายแล้ว ใช้มือบีบขนไล่น้ำออกก่อนจะเช็ดตัว การเช็ดตัวก็ต้องมีเทคนิคด้วยนะคะ วิธีการเช็ดตัวใช้ผ้าเช็ดลงตามขนอย่าขยี้ เพื่อขนจะได้ไม่พันกัน

          จากนั้นก็นำมาเป่าด้วยไดร์เป่าผม ใช้แปรงช่วยแปรงโดยเริ่มจากด้านนอกก่อน เพื่อสุนัขจะได้อุ่นเพราะเมื่ออาบน้ำเสร็จใหม่ๆขนของเขาก็เหมือน กับผ้าเย็นๆ ห่อตัวเขาอยู่ เพราะฉะนั้นเราจึงควรไดร์ขนข้างนอกให้แห้งก่อนเพื่อช่วยให้เขาอุ่นขึ้น

          สุนัขที่ยังเล็ก ๆ เราเริ่มไล่ตั้งแต่หัวไปก่อน เพื่อความสะดวก จากนั้นก็ไล่ไปเลื่อยจนสุดปลายหาง แต่ตัวใหญ่จะไล่จากหางไปหัว เวลาทำก็จะแบ่งซีกทำทีละครึ่งตัว และต้องแบ่งขนตั้งแต่เล็ก ๆ ซึ่งจริงแล้วตามธรรมชาติขนของชิสุจะแสกกลางเอง เพราะขนเขามีน้ำหนักพอที่จะแบ่งเองได้ แต่จะสวยสู้เราแบ่งให้เขาตั้งแต่เล็ก ๆ ไม่ได้

          หลังจากไดร์พร้อมกับใช้แปรงช่วยแปรงให้ขนด้านนอกแห้งหมาดๆ ทั่วตัวแล้ว เราจึงเริ่มแปรงอย่างละเอียดอีกครั้ง โดยเริ่มจากลำตัวด้านซ้ายของสุนัขก่อน แต่จริงๆ แล้วเราจะเริ่มทำจากด้านไหนก่อนก็ได้ แต่เหตุผลที่เราควรเริ่มจากด้านซ้ายก่อน เพราะด้านซ้ายเป็นด้านที่เราใช้โชว์ให้กรรมการเห็นเวลาโพส์ทท่าในสนามประกวด ด้านซ้ายนี้เราจึงพิถีพิถันมากหน่อยใช้มือเปิดขนขึ้นเป็นชั้น ใช้แปรงๆ ไปเรื่อยๆ พร้อมกับใช้ไดร์เป่าจนแห้งถึงชั้นในสุด

          จากนั้นก็จับสุนัขยืนขึ้นและใช้แปรงๆ ขนลง ทำเช่นเดียวกันกับทางด้านขวา และเริ่มเป่าขนบริเวณด้านหน้าให้แห้ง พร้อมกับใช้แปรงช่วยแปรงจากนั้นมาเป่าใต้ท้องให้แห้ง เมื่อแห้งทั่วตัวแล้วจึงใช้หวีที่หางยาวแสกขนกลางลำตัวให้ตรง เริ่มจากก้นจนถึงหัวแล้วแปรงขนทั้งสองข้างให้เรียบเท่ากัน จึงจะลงมือตัดขนที่ยาวเกินพื้น ที่บริเวณเท้าทั้งสี่ข้างให้เสมอกับเท้าสุนัข  ใช้มือลูบขนลงและจับขนบริเวณขารวบแล้วให้กรรไกรค่อย ๆ ตัดแต่งให้เสมอกับฝ่าเท้า ขนที่เท้าควรตัดให้กลมไม่สั้นและไม่ยาวจนเกินไปและระวังแหว่งด้วยนะคะ

                เมื่อเสร็จขั้นตอนนี้แล้วก็ใช้หวีๆ ขนที่หน้าฝากขึ้นและแสกขนบริเวณหนวดให้สวยงาม จากนั้นจึงใช้ยางมัดขนมัดจุก ถ้าตัวไหนมีขนบริเวณนี้เยอะ ก็จะแบ่งมัดเป็นสองจุกแล้ว จึงมัดรวบรวมกันเป็นจุกเดียวอีกทีหนึ่ง แต่ถ้าตัวไหนขนน้อยก็มัดเป็นจุกเดียวก็พอ แหละนี้คือการสาธิตถึงแค่ขั้นตอนการดูแลรักษาขนแต่ยังไม่สาธิตวิธีการแต่งจุกเพื่อการประกวดถ้ามีโอกาสเราจะนำมาแนะนำอีกครั้งหนึ่ง     

       
             สำหรับวิธีการเก็บขนสุนัขที่โตแล้วมีขนที่ข้างแก้มและขนที่กลางศีรษะยาว เราก็มีวิธีการรักษาขนส่วนนี้ไม่ให้พันกันโดยการมัดยางรวบไว้   หรืออาจจะใช้กระดาษห่อขนไว้ ส่วนขนที่กลางศีรษะก็ใช้กระดาษห่อแล้วพับทบไปมา เมื่อท่านจะแกะยางออกจากขนก็ให้ใช้กรรไกรตัดอย่าเอามือดึงออกมาเพราะขนจะขาดหมด สำหรับการอาบน้ำให้อาบอย่างน้อยห้าวันครั้งแต่ต้องแปรงขนทุกวัน

หมายเลขบันทึก: 389032เขียนเมื่อ 29 สิงหาคม 2010 10:54 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 23:27 น. ()สัญญาอนุญาต: สงวนสิทธิ์ทุกประการจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

ไม่อนุญาตให้แสดงความเห็น
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท