สถาบันการศึกษากับรุ่นพี่รุ่นน้อง
เมื่อวันที่ 20 สิงหาคม2553 ที่ผ่านมา ได้มีรุ่นพี่จากมหาวิทยาลัยนเรศวรที่ศึกษาอยู่ปี 2 จำนวน 3 คน คือพี่แชมป์ พี่เต้ พี่มินต์ มาแนะแนวศึกษาต่อให้กับน้องๆมอปลายบ้านกร่างวิทยาคม ณ ห้องโสตทัศนศึกษาโรงเรียนบ้านกร่างวิทยาคม พี่ทั้งสามต่างมีไฟนำกิจกรรมเป็นวีดิทัศน์มาให้ชม มีแนะนำคณะต่างๆ เมื่อจบการศึกษาแล้วออกมาทำงานอะไรบ้าง ทำให้น้องๆมอปลาย สอบถามกันจนกระจ่าง ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องทั่วไป ที่มีรุ่นพี่มาบอกกล่าวเล่าสิบ ให้น้องๆรู้ว่าไปเรียนที่มหาวิทยาลัยนเรศวรแล้วดีอย่างไร แต่มีอยู่ตอนหนึ่ง พี่แชมป์พูดว่า ถึงแม้ว่าขณะนี้พี่จะมีเลือดเทาแสด แต่พี่ก็ยังรักชมพูม่วง(โรงเรียนบ้านกร่างวิทยาคม) อยู่ อยากให้น้องๆได้ไปอยู่ร่วมกันมหาวิทยาลัยเดียวกันเพื่อรวมกลุ่มกันสร้างพลังรุ่นพี่ที่แข็งแรงต่อไป เพราะตอนพี่เข้ามหาวิทยาลัยนเรศวรได้ ช่วงไปรายงานตัวมีพี่ๆจากโรงเรียนเดิมแต่ละรุ่นมารับน้องกัน ส่วนตัวแชมป์กับเพื่อนไม่มีรุ่นพี่จากโรงเรียนเดิมที่เป็นนักศึกษามารับน้องเลย มองไปมีหลายโรงเรียนที่เขามีรุ่นพี่มาต้อนรับ ดูแล ทำให้เขารู้สึกโดดเดี่ยว แต่ก็ไม่ท้อถอย และวันนี้พี่แชมป์รับปากน้องๆว่าจะเป็นพี่ที่คอยดูแลน้องๆไม่ให้โดดเดี่ยวอีก โดยจะพยามยามตั้งกลุ่มรุ่นพี่อดีตเด็ก บว.หลายๆรุ่น จัดกิจกรรมรับน้องให้กำลังใจ เป็นที่ปรึกษา พาน้องๆ ไปเลี้ยงข้าวจนหมดกระเป๋า ครูฟังแชมป์พูดแล้วประทับใจ บอกได้เลยว่าหากมีคนคิดเป็นอย่างพี่แชมป์เพิ่มขึ้นอีกหลายๆคน ไม่ใช่เรียนอย่างเดียวกิจกรรมอื่นข้าไม่สน ตัวใครตัวมัน เพราะมีนักเรียนที่จบจากโรงเรียนบ้านกร่างวิทยาคมไปเรียนต่อมหาวิทยาลัยนเรศวรมีหลายคน รุ่นพี่คนอื่นๆอ่านพบแล้วก็ไปรวมตัวเสวนากันบ้าง อย่างน้อยการที่เป็นรุ่นพี่มาดูแลเอาใจใส่และประพฤติเป็นแบบอย่างที่ดี น้องๆที่เข้าไปใหม่ จะได้มีเพื่อน ที่ปรึกษาไม่รู้สึกโดดเดี่ยวต่อไป และไม่นานโรงเรียนบ้านกร่างวิทยาคมจะมีศิษย์เก่าที่เป็นผู้นำคนใหม่ เป็นจุดรวมเด็กจากโรงเรียนบ้านกร่างวิทยาคม ที่หลายๆคนรักอยากร่วมกิจกรรมด้วย ขอปรบมือดังๆให้กับพี่แชมป์ พี่เต้ พี่มินต์ กับความคิดดีๆที่มีให้กับน้องครั้งนี้
สิ่งที่คนปัจจุบันต้องการมากคือคนที่เสียสละให้ส่วนรวมมากกว่าคนที่คิดแต่จะอยากได้ของคนอื่น
อยากให้ทุกคนคิดได้แบบนี้มากๆนะ เพราะคนทุกวันนี้มีแต่ความเห็นแก่ตัว เห็นแก่ได้มากขึ้น การสอนให้เด็กรุ่นใหม่มีจิตอาสาจึงเป็นเรื่องสำคัญที่ผู้ใหญ่ควรปลูกผังแต่เล็ก เพื่อสังคมที่มีผู้ใหญ่ที่รับผิดชอบส่วนรวมมากขึ้น ไม่ต้องกลัวใครจะว่าบ้า..หรือเพี้ยนกับการทำงานเพื่อส่วนรวม