โสภณ เปียสนิท
นาย โสภณ เปียสนิท ตึ๋ง เปียสนิท

เยือนเมืองวิทส์เนา-1


ระหว่างการเดินทางผ่านหมอกหม่นมัวตลอดระยะเวลายาวนาน มัคคุเทศก์ยังคงให้ข้อมูลเรื่องการเมืองและการปกครองมากมายจนไม่สามารถจดจำได้ทั้งหมด

เยือนเมืองวิทส์เนา-1

โสภณ เปียสนิท 

.............................................. 

                ระหว่างการเดินทางผ่านหมอกหม่นมัวตลอดระยะเวลายาวนาน มัคคุเทศก์ยังคงให้ข้อมูลเรื่องการเมืองและการปกครองมากมายจนไม่สามารถจดจำได้ทั้งหมด นับว่าเป็นเรื่องน่าเสียดาย แต่ภาพทิวทัศน์สองข้างทางแปลกแตกต่างและสวยงามดึงดูดความสนใจของผมได้มากไม่แพ้กัน

 

                กล่าวกันว่าสวิสเป็นเมืองที่มีการศึกษาดีเยี่ยม ประชากรทุกคนมีการศึกษา ไม่มีคนที่ไม่รู้หนังสือเลย นับได้ว่าเป็นเมืองนักปราชญ์ก็ไม่ผิดนัก เป็นบ้านเกิดของนักปราชญ์กลุ่มหนึ่ง เช่น “มองเตสกิเออร์” รุสโซ่ เป็นต้น ที่สำคัญ คือ มีข้อมูลว่า ชาวสวิสเป็นนักอ่านกันทั้งประเทศ อ่านหนังสือมากเป็นอันดับหนึ่งของโลก รู้เรื่องแบบนี้แล้วนึกอยากให้ฝรั่งนำไปเล่าทั่วโลกว่า คนไทยเป็นนักอ่านหนังสืออันดับหนึ่งของโลกบ้าง แต่ไม่รู้ว่าจะเป็นจริงได้เมื่อใด

 

                โดยนิสัยของชาวสวิส แม้มีไวน์ดี แต่ไม่ดื่มไวน์มากนัก บ่มเพาะนิสัยรักษาสุขภาพ ไม่ชอบทำอาหารทานเอง แต่ก็แปลกนะครับ ชาวสวิสมีความเชื่อกันว่า “ความสุขของชาวสวิสนั้นอยู่ที่บ้าน”

 

                รถแล่นลัดเลาะแนวเขาและสายน้ำขนาดใหญ่มองดูเวิ้งว้างกว้างไกลกว่าจินตนการที่คิดไว้แต่เดิม สายหมอกยังเคลียขุนเขาอยู่อย่างไม่บางเบา บ้านบนเขาดูเหงาเงียบ บางช่วงก็อยู่ใกล้กัน บางแห่งอยู่ห่างไกลโดดเดี่ยวเหมือนว่าจะชอบความสันโดษจนเกินควร

 

                ท่ามกลางสายฝอยฝน ผมตั้งใจเขียนคำว่าฝอยฝนให้มีความหมายตามคำเขียนจริงนะครับ ฝอยฝนพรมพรำไม่ขาดตอน ความหนาวเย็นโรยตัวบางเบาต้องผิวเนื้อทันทีที่เราออกจากรถบัสเล็ก เมื่อรถแล่นถึงขอบถนนที่ใกล้แม่น้ำใหญ่ ใครบางคนทนต่อความสวยงามที่เย้ายวนใจที่เห็นอยู่ตรงหน้าไม่ได้ จึงร้องขอให้จอดรถเพื่อลงไปถ่ายรูปเป็นที่ระลึก

 

                ขณะที่หลายคนเลือกมุมถ่ายรูปตรงนั้นตรงนี้ ผมเองชอบสายน้ำ ชอบเทือกเขามีสายหมอกคลุมตลอดแนวยาวไกลมองได้สุดสายตา บ้านบนเขาที่มองแล้วมองอีกมานาน พื้นหญ้าเขียวขจีตลอดแนวชายฝั่ง ภาพเรือน้อยลำหนึ่งลอยลำหาปลาอยู่เดียวดายกลางสายน้ำ เกิดความรู้สึกมากมาย

 

                สายน้ำวิวเอ่อร์วาวด์สตรัสเซ่แห่งนี้ มีจุดเริ่มต้นยาวไกลถึงเพียงไหน และจะไหลไปสิ้นสุดลง ณ ที่จุดใด เหตุใดเรือหาปลาจึงมีเพียงลำเดียว หรือว่าได้รับสัมปทานเป็นการเฉพาะ หรือว่าคนอื่น ๆ ยังไม่ตื่นนอน ไม่ยอมลุกจากที่นอนอันอบอุ่น

 

                ผมเลือกถ่ายภาพที่มีบ้านบนเขาหนึ่งบาน ภาพเรือน้อยกลางสายน้ำอีกหนึ่งบาน เพื่อบันทึกภาพอันสวยงามเหล่านี้ไว้ในความทรงจำให้เนิ่นนาน บอกอย่างไม่อายว่า การเดินทางครั้งนี้ อาจเป็นครั้งเดียวและครั้งสุดท้ายสำหรับผมที่จะได้เยือนเมืองวิทส์เนา ผมกลัวว่าความทรงจำอันชรา เพราะผ่านฤดูฝนมานานถึง 45 ปีจะไม่สามารถเก็บภาพอันสวยงามเหล่านี้ไว้ได้อย่างเนิ่นนานตลอดไป

 

                เมื่อเก็บภาพแห่งความทรงจำจนพอใจแล้ว ต่างขึ้นรถและเดินทางต่อไป ไม่นานนักเราถึงจุดหมายที่เดินทางมาในวันนี้ สถาบันการศึกษาด้านการโรงแรมและการท่องเที่ยว ด้านหลังคือเส้นทางที่รถเราแล่นมา ด้านหน้าติดเชิงเขามีโค้งคุ้งกว้างใหญ่ อาคารใหญ่น้อยเรียงรายจากชายน้ำไต่ลำดับขึ้นสู่ภูเขาเป็นระยะ ท่าเรือขนาดกลางว่างเปล่าไร้ผู้คนเปียกฝนเดียวดายกลางสายหมอก กล่าวกันว่าท่าเรือแห่งนี้จะคึกคักมีชีวิตชีวาอย่างสุด ๆ ก็คือในช่วงฤดูร้อน นักท่องเที่ยวทั้งชาวสวิสและชาวต่างชาติจะมาเล่นกีฬากันที่นี่

 

หมายเลขบันทึก: 385422เขียนเมื่อ 16 สิงหาคม 2010 23:12 น. ()แก้ไขเมื่อ 30 พฤษภาคม 2012 12:24 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (3)

วิทส์เนาในความทรงจำ

Vitznau in memory

เยือนวิดส์เนาในวันอันเหน็บหนาว

หมอกสีขาวกระจายกลุ่มปกคลุมถิ่น

ฝนปรายโปรยโรยละอองนองแผ่นดิน

สายน้ำรินเอื่อยไหลไปสุดตา

ริมฝั่งน้ำวิวเอ้อวาวด์สตรัสเซ่

เหมือนมีแรงแฝงเล่ห์เสน่หา

ระรอกริ้วลิ่วตรงฝั่งคงคา

หวังไว้ว่าคนจรได้ย้อนคืน

สองริมทางนั่งชมพรมสีเขียว

เหมือนเปล่าเปลี่ยวเพียงป่าหญ้าทั้งผืน

ดอกสีเหลืองชูช่อพอหยัดยืน

ประดับพื้นพร้อมกับประดับใจ

เรือลำน้อยลอยน้ำอยู่ลำหนึ่ง

คือภาพซึ้งในฝันอันเคยใฝ่

เงียบสงัดพลัดพรากลอยจากไป

มองแสนไกลสุดสุดเหลือจุดเดียว

บ้านบนเขาเรียงรายสุดปลายเขา

ถิ่นลำเนาตำนานการท่องเที่ยว

เขาสองข้าง กลางสายน้ำ เรือลำเดียว

หญ้าสีเขียวดอกสีเหลืองเรืองมลัง

รถแล่นผ่านวิทส์เนาต้องเหงาหงอย

ภาพยังคอยเตือนให้ดวงใจหวัง

ยามจากลาห่างไกลเหงาใจจัง

เก็บความหลังไว้เนาให้ยาวนาน

*บันทึกความทรงจำครั้งเยือนเมืองวิทส์เนา สวิทเซอร์แลนด์ 18 ตค.47

โสภณ เปียสนิท

สถาบันเทคโนโลยีราชมงคลวิทยาเขตวังไกลกังวล 39/3 เขาพิทักษ์ หัวหิน ประจวบคีรีขันธ์ 77110

นี่แหละครับริมฝั่งน้ำวิวเออร์วาวสตรัสเซ่ เช้าวันนั้นฝนตกเป็นฝอย เรียกฝอยฝน หมอกหม่นตั้งแต่เช้า เห็นเรือน้อย กับชายหาปลาอยู่ลำเดียว คนเดียว เดียวดายน่าดู

 

กับท่านอดีตผอ.ประเสริฐ ปิ่นปฐมรัฐ วิทยาเขตวังไกลกังวล

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท