เขาพระวิหาร


ผมไม่มีทางที่จะเกิดทันกรณีพิพาทเขาพระวิหาร ระหว่างดินแดนที่ถูกสมมติบัญญัติโดยหลักเกณฑ์ของรัฐสมัยใหม่ที่เรียกว่าไทยกับกัมพูชา แต่ตาผิว ญาติผู้ใหญ่บ้านใกล้เรือนเคียงเล่าว่าแกต้องยอมบริจาคเงินเบี้ยเลี้ยงทหารเกณฑ์ให้ไทยส่งทนายไปต่อสู้ที่ศาลโลก ส่วนคนรู้จักอีกหลายคนก็บอกว่านักเรียนสมัยนั้นต้องลงขันกันคนละสลึง สองสลึง เพื่อช่วยให้ทนายไทยไปศาลโลก......

ผมคิดว่านอกจากที่ผมจะเกิดไม่ทันเรื่องเขาพระวิหารแล้วย่อมเกิดไม่ทันสงครามมหาเอเชียบูรพาที่เป็นฉากหนึ่งที่มีส่วนก่อความขัดแย้งเรื่องนี้ขึ้นมา มิพักต้องพูดว่าผมย่อมเกิดไม่ทันยุคล่าอาณานิคมที่เป็นเหตุให้คติความเชื่อเรื่องรัฐแบบโบราณในแหลมอินโดจีน(พม่า มอญกะเหรี่ยง แม้ว ม้ง ไทดำ ไทขาว ไทใหญ่ ไทน้อย ลาวกาว ลาวซ่ง เขมร ส่วย เวียต มาลายู ฯลฯลฯลฯลฯ เชื้อชาติ) ต้องเปลี่ยนกระบวนทัศน์เพื่อรับมือกับรัฐสมัยใหม่ที่ถูกส่งเสริมแกมบังคับให้จำต้องยอมกระทำการตาม

ดินแดนส่วนที่เหลือจากความละโมบของฝรั่งเศสและอังกฤษในยุคนั้น จึงกระอักกระอ่วนขยักขย้อนมาเป็นราชอาณาจักรไทยเราทุกวันนี้ปัญหาก็คือ มีหลายท่านที่มองไปไกลขนาดว่าดินแดนที่อยู่เลยพิษณุโลก โคราช และนครศรีธรรมราชออกไป ไม่ใช่ของไทยแต่เดิม แล้วยังมีทำนองสุดโต่งว่า งั้นก็อย่าไปถือสาหาความเลย......ปล่อยไป ใครจะเอาก็เอา

อีกฝ่ายก็ไม่ฟังอีร้าค่าอีรมย์ (เขียนผิดรึเป่านะ) ยึดแผนที่ประเทศไทยฉบับนายทองใบ แตงน้อย ที่ระบายสีเหลือง ๆ ว่าดินแดนไทยกว้างไกลไปถึงแสนหวี สิบสองปันนา เพราะฉนั้นตารางนิ้วเดียวในผืนปฐพี ใครจะย่ำยีก็ไม่ได้ตายเป็นตาย รบเป็นรบ ชีวิตชายหนุ่มชาวเขมรและทหารเกณฑ์หนุ่มชาวไทย ไหนเลยจะมีค่าสูงส่งไปกว่าผืนดินและบันไดปราสาทที่ทอดร้างรอทางให้เทพเจ้ามาเดินขึ้นสู่งเขาพระสุเมรุ เช่นนั้นจงเอาชีวิตคนหนุ่มหน้าดำเหล่านั้นมาสาดกระสุนใส่กัน เพื่อ "ศักดิ์ศรี" แห่งประเทศ......

อีกจำพวกก็เป็นพวกเห็นแก่ผลประโยชน์ชาติ ที่นิยามความมุ่งหมายไว้ที่ประโยชน์นายทุน จึงมองประโยชน์ทางการขายการท่องเที่ยวจนตาลุก แถมยังปลุกใจให้เชื่อว่าแหล่งเชื้อเพลิงมหาศาลที่อาจคาบเกี่ยกับแนวเขตแดนใหม่นี้ จะให้ประโยชน์แก่ประชาชนอย่างมหาศาล ดังนั้นคุ้มค่านักหนาแล้วละที่จะเอาชีวิตของคนหนุ่มหน้าดำเป็น ๆ ไปแลกไว้เพื่อปกป้องฟอสซิลเน่า ๆ เหล่านั้นเพื่อลูกหลานของเราจะได้มี "พลังงาน" เป็นของตัวเอง

ผมดูหนังเรื่อง Brave HEART แล้วก็สะท้อนใจให้นึกถึงสยามประเทศของเรา ตอนที่พระเอกยังเด็กอยากจะหัดดาบ ลุงของเขาบอกว่า "ลุงจะสอนให้เจ้ารู้จักใช้ไอ้นี่(มือชี้ไปที่หัวสมอง) ก่อนที่จะหัดให้เจ้ารู้จักการใช้ไอ้นี่(มืชี้ที่ดาบ)"

สำหรับผมน่ะเหรอ ผมเกิดไม่ทันซะด้วยซีนะว่า ท่านจอมพลผู้วายชนม์ผู้นั้นท่านทำความเข้าใจกะคนไทยเราเรื่องเสียเขาพระวิหารไว้อย่างไร แต่ผมเองก็ไม่เชื่อว่า รอยต่อดินแดนตรงไหน ไม่ว่าจะในบ้านญาติเรากันเองหรือกับประเทศเพื่อนบ้านมันไม่มีทางที่จะเห็นตรงกันเชะ ๆๆๆๆ หรอก เมื่อก่อนพี่น้องปลูกบ้านไม่มีรั้ว ลูกหลานวิ่งไปมาหาสู่กันได้แบ่งข้าวแบ่งปลาแบ่งแกงแบ่งขนมกันกินอิ่มหมีพีมัน พอรัฐมีนโยบายสร้างรั้วบ้านในชนบทปัญหาอธิปไตยเหนือดินแดนบ้านเริ่มเกิดเมื่อก่อนควายทั้งคอก ลูกทั้งคนยังฝากกันเลี้ยงวิ่งกันเล่นหัวบ้านท้ายบ้านได้ เดี๋ยวนี้แค่ใบไม้ปลิว รุกล้ำอธิปไตย ก็เกิดด่าทอกันเป้นเรื่องราวฉันใดก็ฉันนั้น หากคิดกันแต่จะ "ปักปันเขตแดน" ก้รังแต่จะมีกำแพงกั้นกางในดวงใจ จนทำให้ไม่อาจ "แบ่งปัน" อะไรให้กันและกันได้อีกต่อไป

ทางที่ดี ทหารไทยและกัมพุช ช่วยถอยห่างจากตัวปราสาทสักคนละห้ากิโลได้ไหมครับ แล้วทางที่ดีควรพกหนังกะติ๊ก แทนเอ็มสิบหก เพราะถ้าปืนลั่นพลั้งพลาดขึ้นมา.....ทั้งปราสาท และชีวิตทหารเกณฑ์ลูกคนจน จะต้องมาตายเพราะและเพื่อคนรวย ๆๆๆ ไม่กี่คนก็เท่านั้นละหนา...
คำสำคัญ (Tags): #พระวิหาร
หมายเลขบันทึก: 383791เขียนเมื่อ 11 สิงหาคม 2010 01:19 น. ()แก้ไขเมื่อ 15 เมษายน 2012 03:08 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (3)

สวัสดีครับ  เข้ามาอ่านความคิดครับ  ขอบคุณที่แบ่งปันครับ

ทางที่ดี ทหารไทยและกัมพุช ช่วยถอยห่างจากตัวปราสาทสักคนละห้ากิโลได้ไหมครับ" เห็นด้วยครับ แล้วกำหนดเป็นเขต No man land เสียเลย แต่กัมพุช คงไม่เอาอย่างเราว่าดอกครับ ขนคนเข้ามาอยู่เต็มเลย ทำอย่างไรดีครับ

เจรจา เจรจา และเจรจา ครับ ถ้าไม่ได้ผลก็ต้อง เจรจา เจรจา และเจรจา อีก ต่อไป รบกันแล้วได้อะไร จริงไม๊ครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท