อันตรายจากแสงแดด 11 โมง-บ่าย 2 ผิวแสบไหม้ -แก่ไว –มะเร็งผิวหนัง


อันตรายจากแสงแดด 11 โมง-บ่าย 2 ผิวแสบไหม้ -แก่ไว –มะเร็งผิวหนัง

จากภาวะโลกร้อน ส่งผลให้ฤดูร้อนปีนี้อุณหภูมิสูงกว่าในอดีตที่ผ่านมา แสงแดดจึงเป็นภัยที่ไม่ควรมองข้าม พญ.ชนิษฎา ตู้จินดา ภาควิชาตจวิทยา คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาลกล่าวถึงอันตรายจากแสงแดด ว่ารังสี Ultraviolet หรือ รังสียูวี จากข้อมูลทางการแพทย์พบว่ามีส่วนสำคัญทำให้เกิดอันตรายต่อผิวหนัง อาทิ ผิวหนังแสบไหม้ เป็นกระ ฝ้า ผิวหนังแก่ก่อนวัย และมะเร็งผิวหนัง โดยช่วงเวลาที่มีปริมาณความเข้มของรังสียูวีในแสงแดดมากที่สุดและอาจก่อให้เกิดอันตราย คือ ช่วงเวลาตั้งแต่ 11.00-14.00 น. จึงควรหลีกเลี่ยงแสงแดดในช่วงเวลาดังกล่าว การป้องกันผิวหนังจากแสงแดดสามารถทำได้หลายวิธี อาทิ การใช้ยากันแดด (Sunscreen) การเลือกใส่เสื้อผ้าที่เหมาะสม รวมถึงการใส่หมวกหรือใช้ร่มเมื่อออกแดด พญ.ชนิษฎากล่าวว่า การเลือกใช้ยากันแดดไม่จำเป็นต้องเลือกยากันแดดที่มีค่า SPF (Sun Protection Factor) สูง โดยค่า SPF จะป้องกันการเกิดผิวหนังแดงแสบซึ่งเป็นผลจากรังสียูวีบี (UVB) เป็นหลัก ยากันแดดที่มีค่า SPF สูงนั้นเป็นยากันแดดซึ่งป้องกันรังสียูวีบีได้ดีแต่อาจป้องกันรังสียูวีเอ (UVA) ได้ไม่ดี อีกทั้งยากันแดดที่มีค่า SPF สูงอาจมีการใส่สารกันแดดลงไปหลายตัวอาจทำให้มีโอกาสแพ้ได้ การเลือกยากันแดดควรเลือกยากันแดดที่มีค่า SPF เหมาะสม หากไม่ค่อยออกแดดหรือทำงานในอาคารการใช้ยากันแดด SPF 15 ก็เพียงพอ หากต้องทำงานหรือเล่นกีฬากลางแจ้ง SPF 30 และควรเลือกยากันแดดชนิดที่ทนน้ำ การสวมเสื้อผ้าและหมวกสามารถป้องกันผิวหนังจากแสงแดดได้ดี ผ้าสีเข้มจะป้องกันแสงแดดได้ดีกว่าผ้าสีอ่อน การเลือกหมวกควรเลือกหมวกปีกกว้างจะช่วยป้องกันแสงแดดได้ดีกว่าหมวกปีกแคบ ""ที่มาข้อมูล :

หมายเลขบันทึก: 383448เขียนเมื่อ 10 สิงหาคม 2010 16:04 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 15:46 น. ()สัญญาอนุญาต: ไม่สงวนสิทธิ์ใดๆจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท