เรื่องเล่าจากโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลกระบาก เรื่องของเรื่องมาจากการดำเนิน
โครงการวิทยาศาสตร์การแพทย์สู่ชุมชนด้านการถ่ายทอดเทคโนโลยีวิทยาศาสตร์การแพทย์สู่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล เขต 11 และ 12
ชื่อยาวใช่ไหมค่ะ ฮ่า ๆ ๆ แต่ชื่อนั้นสำคัญไฉน อยู่ที่ใจของคนทำงานต่างหาก ดำเนินการโดยการเอาชุดทดสอบอย่างง่าย ที่คิดค้นโดยทีมของกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ มาถ่ายทอดให้มีการนำไปใช้เฝ้าระวังในชุมชน
สงสัยไหมค่ะ ชุดทดสอบอย่างง่ายมีอะไรบ้าง ขอเล่าคร่าว ๆ ยกตัวอย่างแค่บางชนิดนะคะ ชุดทดสอบสารสเตียรอยด์ในยาและยาแผนโบราณ ตรวจสารฟอร์มาลีนในอาหาร ชุดตรวจสารปรอท ชุดตรวจสารไฮโดรควินโนนในเครื่องสำอางค์ เป็นต้น อันที่จริงมีเยอะทีเดียวค่ะ แต่ขอเกริ่นแค่นี้ก่อนนะคะ
เข้าเรื่องซะที ที่มาของเรื่องเล่าก็มีว่าพี่อ้อ (ศุภลักษณ์ พริ้งเพราะ) ลงพื้นที่ ตรวจเยี่ยม รพ.สต.กระบากกับพี่วิชัย ท่านได้คุยกับคนทำงาน กลับมาท่านมาเล่าให้ฟังด้วยความประทับใจ เกี่ยวกับ ทีม อสม. ชาวรพ.สต. ที่ขยันขันแข็ง ทำงานจนท่านบอกว่า
"เขาทำงานสมกับเป็นข้าแห่งองค์ราชะ คือ ข้าราชการจริง ๆ"
พอได้ลงพื้นที่ก็ทำให้เข้าใจว่า งานที่เราทำเเล็บ งก ๆ อยู่เนี่ย มันเป็นประโยชน์นะ มีผู้คนปลอดภัย จากสารพิษเจือปนใน อาหารและยามากขึ้น
งบประมาณที่เราขอมาทำงานแบบปูพรมทั่วพื้นที่นี่ สำหรับพี่ พอได้ฟังการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของชาวบ้านที่นี่ ก็คุ้มแล้ว
หนูได้ฟังแล้วรู้สึกประทับใจจากการได้ฟังเรื่องราว และทราบมาว่าจากแรงเชียร์ ของพี่ ๆ ในที่ทำงาน พี่อ้อได้เขียนเรื่องเล่า เรียบเรียงออกมา หนูเห็นว่าเป็นประโยชน์ จึงขออนุญาตท่านเอานำมาลง ณ ที่นี่ แต่ท่านก็ออกตัวว่า
"ไม่ใช่นักเขียน ไม่รู้จะเขียนได้ดีแค่ไหน"
ทำให้หนูระลึกถึงครูที่ท่านเมตตาสั่งสอน ว่าทำดี ทำไปเลย ทำสิบเราก็ได้สิบ ทำหกสิบเราก็ได้หกสิบ ไม่ใช่ว่าต้องรอถึงร้อยแล้วค่อยทำ
เรื่องราวที่เรียบเรียง หนูเห็นว่า มันงดงามอย่างที่มันเป็น ที่สำคัญ หนูเห็นและรู้สึกได้ ถึงใจที่ชุ่มฉ่ำของพี่อ้อ ที่ได้รางวัลจากการได้ทำงานแล้ว ยังมีเมตตาแลกเปลี่ยนเรื่องดี ๆ เล่าให้ใคร ๆ ฟัง แล้วยังเขียนบันทึกไว้อีก ด้วยความเคารพในความดี จึงขอนำส่งบทความนี้ไว้ที่บันทึกนี้ค่ะ
วันที่ 14 กรกฎาคม 2553 เวลา 14.00 - 15.00 น.
สรุปการติดตามงาน
เรื่อง ชุดทดสอบหาสเตียรอยด์ในยาแผนโบราณ
เนื่องจากทางศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ที่ ๖ ได้มีโครงการวิทยาศาสตร์การแพทย์สู่ชุมชนด้านสมุนไพร ได้จัดอบรมให้ความรู้และแจกชุดทดสอบเพื่อไปเฝ้าระวังยาแผนโบราณที่มีความเสี่ยงในพื้นที่ ซึ่งทาง รพ.สต.กระบาก ได้ถ่ายทอดให้ความรู้และสอนการใช้ชุดทดสอบให้กับกลุ่ม อสม. ซึ่งในหมู่บ้านที่ รพ.สต. กระบากรับผิดชอบมีทั้งหมด 11 หมู่บ้าน
เมื่อกลุ่ม อสม. มีความรู้และความสามารถจึงออกพื้นที่เพื่อหาข้อมูลว่ามีใครกินยาแผนโบราณและต้องการทราบหรือไม่ว่ามียากลุ่มสเตียรอยด์ผสมอยู่ ในหมู่บ้านชาวบ้านจะนิยมรับประทานยาสมุนไพรและยาชุดมาก ด้วยความเชื่อส่วนตัวว่าถ้าไม่ทานแล้วจะไม่มีแรงทำงาน จะทานต่อเนื่องจนกว่าจะทำงานไม่ไหว อายุประมาณ 70 ปี หรือบางคนมีโรคประตัวสมุนไพร หรือยาแผนโบราณไหนดีก็จะเริ่มหารับประทานโดยลักษณะบอกต่อ ๆ กัน ว่าทานแล้วมีอาการดีขึ้น และเห็นผลเร็ว ไม่เหมือนกับยาแผนปัจจุบันจะใช้เวลารักษานาน หรืออาจต้องทานยาไปตลอดชีวิต
ดังนั้นยาแผนโบราณจึงเป็นทางเลือกอีกทางหนึ่งที่จะทำให้หายจากโรคได้ โดยศูนย์วิทย์ ฯ ให้การสนับสนุนชุดทดสอบจำนวน 5 ตัวอย่าง ทาง อสม.จึงเก็บตัวอย่างรอบแรกมาทำการทดสอบทดสอบจำนวน 5 ตัวอย่าง โดยมีเจ้าหน้าที่ของ รพ.สต. เป็นพี่เลี้ยง มีการลงบันทึกข้อมูลของตัวอย่างทั้งหมด
ถ่ายรูปตัวอย่าง และแบ่งตัวอย่างออกเป็น 3 ส่วน ๆ ที่หนึ่ง ใช้ในการทดสอบ ส่วนที่สอง ส่งกลับมายังศูนย์วิทย์ฯ และส่วนที่สามทาง รพ.สต. ได้เก็บไว้ดูเป็นตัวอย่าง (ในอนาคตจะมีมุมให้ความรู้เกี่ยวกับเรื่องสเตียรอยด์ จะมีรูปภาพและตัวอย่างจริงตั้งตู้โชร์ )
ในจำนวน 5 ตัวอย่าง ตรวจพบสเตียรอยด์จำนวน 2 ตัวอย่าง และส่งตัวอย่างมาตรวจยืนยันผลที่ห้องปฏิบัติการของศูนย์วิทยาสตร์การแพทย์ที่ ๖ ผลที่ทดสอบได้สอดคล้องกับที่ รพ.สต. ทดสอบ เมื่อทาง รพ.สต. ได้ข้อมูลผลการทดสอบแล้ว นำข้อมูลที่ได้ถ่ายทอดไปยังประชาชนโดยตรง ใช้การสื่อสารด้วยการจัดรายการวิทยุชุมชน ซึ่งได้รับการสนันสนุนจาก องค์การบริหารส่วนตำบล โดยทางองค์การ ฯ จะซื้อเวลาของวิทยุชุมชนวันละ 1 ชั่วโมง เพื่อให้หน่วยงานต่าง ๆ ที่มีข่าวสารต่าง ๆ ที่จะเผยแพร่ให้กับประชาชน และทาง รพ.สต. กระบาก
ยังนำความรู้ที่เข้าวาระการประชุมระดับอำเภอ ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดี และทางสถานีอนามัยที่ยังไม่ได้เป็น รพ.สต. ให้ความสนใจกับเรื่องนี้มาก ต้องการเข้าร่วมโครงการนี้ด้วย ทาง รพ.สต. กระบากจึงรับหน้าที่เป็นแหล่งทดสอบตัวอย่างให้ก่อน ถ้าในพื้นที่มียาแผนโบราณที่เสี่ยงอยู่ จนกว่าจะมีแนวทางปฏิบัติให้กับสถานีอนามัยต่าง
และทาง รพ.สต. กระบาก ได้ทำโครงการเพื่อขอการสนับสนุนจาก องค์การบริหารส่วนตำบล กำลังอยู่ในช่วงประชุมพิจารณาโครงการ สรุปได้ว่าทาง รพ.สต.มีความสามารถในการใช้ชุดทดสอบนี้ได้เป็นอย่างดี และนำสิ่งที่ได้รับจากศูนย์วิทย์ ฯ ไปถ่ายทอดต่อให้กับ อสม.และประชาชน โดยทาง รพ.สต. กระบาก มีทีมงานที่เข้มแข็งคือกลุ่ม อสม. ซึ่งเป็นบุคคลที่มีความพร้อมมีจิตอาสาที่จะทำงานเพื่อเพื่อนบ้านในหมู่บ้านเป็นอย่างดีเยี่ยม
แหล่งที่มีของตัวอย่าง
พื้นที่ที่ รพ.สต.กระบาก รับผิดชอบนิยมรับประทานยาแผนโบราณมาก และในหมู่บ้านยังมีตลกชื่อดังของวงนกน้อย อุไรพร ชื่อคุณประยงค์ เป็นดีเจจัดรายการวิทยุชุมชน ซึ่งบุคคลนี้มีผลต่อประชาชนในหมู่บ้านมาก
ไม่ว่าจะพูด จะทำอะไร ชาวบ้านก็จะทำตาม และให้ความเชื่อถือมาก
และมีโรคประตัวคือเบาหวาน ดังนั้นจึงมีผู้ประกอบการเห็นช่องทางทำมาหากิน โดยการนำตัวอย่างยาแผนโบราณไปให้คุณประยงค์ทดลองทานว่าดีหรือไป และให้โฆษณายาแผนโบราณให้ด้วย โดยจ่ายเงินเป็นค่าโฆษณายา และให้ยาไว้จำนวนหนึ่งเผื่อว่ามีใครสนใจก็ให้มาซื้อที่สถานีได้
เมื่อทางศูนย์วิทย์ ฯ ได้นำโครงการนี้ลงพื้นที่ ลูกสาวของคุณประยงค์ ซึ่งเป็น อสม. ก็เลยไปคุยกับคุณประยงค์และ
ได้นำตัวอย่างมาทดสอบ ก็พบว่ามีสเตียรอยด์ผสมอยู่ ทางคุณประยงค์ก็ได้นำยาแผนโบราณที่ยังเหลืออยู่ไปทิ้ง และเลิกโฆษณายาแผนโบราณชนิดนี้ ถึงแม้ว่าจะได้รับค่าโฆษณายาแผนโบราณนี้ก็ตาม
ในพื้นที่นี้ตัวอย่างที่ทดสอบแล้วพบมีสเตียรอยด์ผสมอยู่ ชาวบ้านในหมู่บ้านก็เลิกรับประทาน ซึ่งมองให้เห็นว่าชาวบ้านในพื้นที่มีความตระหนักเห็นโทษของการปนปลอมสเตียรอยด์ ว่าทำให้มีผลต่อสุขภาพ และชาวบ้านมีการใส่ใจกับสุขภาพของตนเองเป็นอย่างดี อาจจะสืบเนื่องมาจากในหมู่บ้าน มีบุคคลถึง 2 คน อายุประมาณ 70 ปี คนที่ 1 เป็นคนไข้ของ รพ.สต. ซึ่งเข้ามารักษาตัวเนื่องจากลื่นล้ม และมีบาดแผลตามแขน เจ้าหน้าที่ของ รพ.สต. ได้สืบประวัติทราบว่า
คุณตาเป็นคนทำงานหนักตั้งแต่ยังหนุ่ม อาชีพก็คือเกษตรกร ก่อนจะทำงานจะต้องทานยาชุด หรือยาแผนโบราณก่อน เพราะกว่าจะทำงานได้ไม่นาน และกลัวปวดเมื่อยตามตัว จึงต้องทาน พฤติกรรมก็จะเป็นอย่างนี้มาตลอดจนกระทั่งทำงานงานไม่ไหวแล้ว จึงได้เลิกทานยาชุด แต่ก็ยังมีทานยาแผนโบราณบ้าง
เนื่องจากคุณตาเลื่อนล้ม ผู้ที่พบเห็นจึงไปช่วย และได้นวดตามแขนเพื่อให้รู้สึกตัว แล้วพาไปรักษาที่ รพ.สต. เมื่อถอดเสื้อแขนยาวออกมามีชิ้นเนื้อหลุดออกมาเป็นบาดแผล
เนื่องจากผิวหนังบางมาก เมื่อโดนนวดแรง ๆ จึงมีผลกระทบ หน้าก็ยังบวบอยู่และผิวหน้าบางมากจนกระทั่งเห็นเส้นเลือด ช่วงนี้ก็ยังต้องล้างแผลทุกวัน
คนที่ 2
ก็เป็นคนไข้ของ รพ.สต. เหมือนกัน เป็นผู้ชายนั่งซ้อนท้ายรถมอเตอร์ไซด์คนขับกลัวตกก็เลยจับคุณตาไว้ ก็เลยทำให้คุณตาได้รับบาดเจ็บ โดยเนื้อของคุณตาหลุด ลักษณะของคุณตาคนนี้ก็คล้ายกับคนแรก
เรื่อง เครื่องสำอาง
อยู่ในช่วงการออกสำรวจข้อมูลและเก็บตัวอย่างทดสอบ โดยมี อสม.เป็นผู้เก็บตัวอย่างให้ และเจ้าหน้า รพ.สต. เป็นผู้ตรวจเนื่องจากขั้นตอนการตรวจเครื่องสำอางจะยุ่งยากนิดหน่อยทางเจ้าหน้าที่จะทำการทดสอบเองก่อนที่จะถ่ายทอดไปยัง อสม. ทางศูนย์วิทย์ ฯ จะหาข้อมูลผลิตภัณฑ์ที่ไม่ปลอดภัยไปให้ทาง รพ.สต. เพื่อที่จะได้ไม่ทำการทดสอบกับผลิตภัณฑ์เดิมที่เคยผ่านการทดสอบแล้ว
เรื่อง สมุนไพร
ทาง รพ.สต. กระบาก ได้มีเจ้าหน้าที่แพทย์แผนไทยจำนวน 1 อัตรา ต้องการที่จะปลูกพืชสมุนไพร ได้มีโครงการเพื่อจะเป็นแหล่งดูงานทางด้านสมุนไพร สืบเนื่องมาจากทาง รพ.สต. ไม่ได้เข้าร่วมประชุมของโรงพยาบาลเฉลิมพระเกียติฯ จึงขอเข้าร่วมประชุมกับศูนย์วิทย์ ฯ ในวันที่ 23 กรกฎาคม 2553
ศุภลักษณ์ พริ้งเพราะ ผู้เขียน
ลองมานั่ง ๆดู มีภาพกิจกรรม ตอนที่พี่ ๆ ไปถ่ายทอดแล้วรู้สึกประทับใจ แม้จะไม่ใช่วันเดียวกันกับที่เล่า แต่ก็เป็นส่วนหนึ่งของกันและกัน จึงขอนำมาประกอบร่วมด้วยค่ะ
ชุดทดสอบเครื่องสำอาง
ภาพการเรียนรู้การใช้ชุดทดสอบสารเสตียรอยด์ในยาแผนโบราณของผู้ร่วมประชุม
ท่านตั้งใจมากจริง ๆค่ะ
ภาพนี้ที่กาฬสินธุ์ เป็นพื้นที่ ๆ เราไปแล้ว รู้สึกประทับใจมาก กับความเข้มแข็งและกระตือรือล้น เรียนรู้ ต้องยกนิ้วให้เลยค่ะ ของเขาดีจริง ๆ
เป็นเรื่องที่น่าปลื้มใจ...
ที่ "เภสัชกร" เดินออกจากออบฟิช ตรงเข้าไปในชุมชน
ไปเยี่ยมไปหา...แบบเชิงรุกกันเลยนะคะ
(^__^)
ขอบพระคุณค่ะพี่ปี งานเชิงรุกเป็นงานที่ กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ตระหนักมากขึ้นว่า ช่วยลดปัญหาสุขภาพของชาวบ้านได้ทันท่วงที เพราะเมื่อก่อน ต้องรอให้เกิดพิษแล้วค่อยส่งมาตรวจวิเคราะห์ บางรายคนไข้ตายไปแล้ว ค่อยได้เก็บตัวอย่างมาตรวจ
แต่ปัจจุบัน มีคนเล็งเห็นความสำคัญในการป้องกัน เฝ้าระวังมากขึ้น ที่สำคัญ เรามีกำลังสำคัญในพื้นที่คือ ชาว อสม.และพี่ ๆที่ รพ.สต.
ที่น่าประทับใจอีกอย่างของที่นี่คือ ถ้า เจ้าหน้าที่ ๆ รพ.สต. ทำอะไร แล้วไม่บอก อสม. หรือ ไม่เรียกให้มาช่วย หรือ ร่วมด้วยเนี่ย มีงอน ท่านน่ารัก กันมาก ๆ เลยค่ะ ขอบอก (^_^)
จากเดิมที่ชาวกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ คุ้นเคยแต่กับการทำ Lab คุยแต่กับเครื่องมือ แต่พอมาได้ คุยกับชาวบ้านแล้ว ยิ่งมีกำลังใจกลับไป คิดค้นงาน กลับไปวิเคราะห์งานได้มากโขทีเดียวค่ะ
ขอบพระคุณค่ะพี่ปุ๋ม ที่เมตตาเตือนสติ
ทำให้ติ๋วมานึกย้อนว่า "ใช่แล้ว" เพราะวิชาเหล่านี้ไม่มีในมหาวิทยาลัย แต่ที่นี่ กลุ่มคนเหล่านี้ ทุก ๆ คน ที่มาเจอกัน เป็นผู้มาให้ มาสอน ทำให้เราได้เข้าใจบทบาทของตนเอง เข้าใจหน้าที่ของตนเอง สะท้อนโอกาสในการทำประโยชน์ได้มากขึ้นค่ะ
เป็นการเกื้อกูลกันอย่างที่พี่ปุ๋มแนะนำจริง ๆค่ะ
(^_^)
เห็นอ้อเขียนเป็น mind map ด้วยนี่ ไม่เอามาลงด้วยล่ะจ้ะ