1. ผลงานการวิจัยเรื่อง “งานบริหารการศึกษาโรงเรียนประถมศึกษาสังกัดกรมสามัญศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ ในภาคใต้”
ของ เฉลิม แช่มช้อย
พบว่า ผู้บริหารการศึกษาที่ดำรงตำแหน่งครูใหญ่มีความคิดเห็นว่า โรงเรียนได้ปฏิบัติงานในเกณฑ์มาก 3 ประเภท คือ งานธุรการ การเงิน และบริการได้รับการปฏิบัติมากที่สุด รองลงมาได้แก่ งานวิชาการ และงานบุคคล ตามลำดับ ส่วนงานกิจการนักเรียนนั้นได้รับการปฏิบัติน้อย และงานด้านความสัมพันธ์กับชุมชนได้รับการปฏิบัติน้อยที่สุด
ประโยชน์ของการศึกษาผลงานการวิจัย
1.ข้อแตกต่างของการบริหารและการจัดการของผู้บริหาร
2.ประสิทธิภาพ-ผลของการดำเนินงานด้านการเรียนการสอน
3.ข้อแตกต่างในด้านวิสัยทัศน์ของผู้บริหาร
2. ผลงานการวิจัยเรื่อง “การปฏิบัติงานของผู้บริหารโรงเรียนประถมศึกษา สังกัดสำนักงานการประถมศึกษาจังหวัดนครราชสีมา”
ของ กนกพร ทองเจือ
พบว่า ในการบริหารการศึกษา 6 ด้าน คือ งานวิชาการ, บุคลากร, งานธุรการและการเงิน, งานอาคารสถานที่, งานกิจการนักเรียน และงานความสัมพันธ์กับชุมชน ครูมีความเห็นต่อการปฏิบัติงานของผู้บริหารโรงเรียน โดยส่วนรวมทั้ง 6 ด้าน อยู่ในระดับปานกลาง ยกเว้นการปฏิบัติงานด้านธุรการและการเงินอยู่ในระดับมาก
ประโยชน์ของการศึกษาผลงานการวิจัย
1.ข้อแตกต่างของการบริหารและการจัดการของผู้บริหาร
2.ประสิทธิภาพ-ผลของการดำเนินงานด้านการเรียนการสอน
3.ข้อแตกต่างในด้านวิสัยทัศน์ของผู้บริหาร
3. ผลงานการวิจัยเรื่อง “การใช้เวลาในการบริหารของผู้บริหารโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตศึกษา ”
ของ สมชาย สุขชาตะ นิสิตภาควิชาการบริหารการศึกษา คณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย พบว่า การใช้เวลาของผู้บริหารในการบริหารงานทั้ง 5 ด้าน ตามลำดับจากมากไปหาน้อย คือ งานบริหารด้านวิชาการ (26.81 %) งานบริหารด้านธุรการ การเงินและอาคารสถานที่ (22.11%) งานบริหารบุคคล (21.67%) งานบริหารด้านกิจการนักเรียน (15.74%) งานบริหารด้านความสัมพันธ์กับชุมชน (13.66%)
ประโยชน์ของการศึกษาผลงานการวิจัย
1.ข้อแตกต่างของการบริหารและการจัดการของผู้บริหาร
2.ประสิทธิภาพ-ผลของการดำเนินงานด้านการเรียนการสอน
3.ข้อแตกต่างในด้านวิสัยทัศน์ของผู้บริหาร
4. ความหลากหลายของการบริหารและการจัดการ
ไม่มีความเห็น